ฝูงเหยี่ยวดำยังคงบินวนเวียนอยู่เช่นนั้นไปเรื่อย ในขณะที่แสงแดดเริ่มอ่อนแรงลงทุกที ผืนนาที่ร้อนแห้งแล้งมาตั้งแต่เช้าเริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นเมื่อลมเย็นโชยพัดมาไม่ขาดระยะ ช่างเป็นบรรยากาศที่น่าประทับใจเสียจริงจนไม่อยากจากไปไหนในตอนนี้ อยากจะอยู่จนเย็นย่ำมืดค่ำลง แต่เนื่องจากหนทางข้างหน้ายังอีกไกล เราจึงต้องขึ้นรถเพื่อเตรียมตัวอำลาทุ่งนาเมืองเพชรเสียที แต่หวังเสมอว่าโอกาสหน้าถ้ามีคงได้กลับมาเยี่ยมใหม่ในยามที่น้ำเจิ่งนองทุ่งนา ครั้นเย็นย่ำค่ำเยือนค่อยเคลื่อนจาก ตัดใจพรากผืนนาฝ่ามาเห็น ต้องมุ่งกลับลับนาน่าลำเค็ญ ใครหนอเข็ญเคี่ยวเราให้เข้ามา เห็นชาวบ้านย่านนาพากันกลับ ต่างเดินลับเหล่าไม้ไกลนักหนา ดงตาลเด่นเห็นไปได้สุดตา เหยี่ยวถลาร่อนวนไม่พ้นตาล มาถึงคลองมองดูหมู่เด็กเด็ก ทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ได้สนาน ลงเล่นน้ำฉ่ำใสใจเบิกบาน ทุกสถานทั่วคลองน้ำนองคลอ พอแล่นเข้าเขาย้อยเริ่มน้อยใจ แสนอาลัยอำลาน่าเศร้าหนอ รีบกลับแล้วแจวหนีเลิกรีรอ ความมืดคลอคืบคลานย่านเมืองเพชร เราออกมาถึงถนนเพชรเกษมเมื่อพลบค่ำพอดี เนื่องจากเขาย้อยเป็นเพียงอำเภอชานเมืองเพชร ผู้คนจึงไม่ค่อยคึกคักพลุกพล่านเหมือนในตัวเมือง ไม่มีแสงสีเลิศหรูให้เห็น รถของเราแล่นฝ่าความมืดมาเรื่อยจนมาถึงสี่แยกวังมะนาว เลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานโค้งวกข้ามถนนเพชรเกษมมาเข้าถนนพระราม 2 เพื่อมุ่งสู่กรุงเทพฯ ผมกลับถึงบ้านในเวลาราว 19.00 น. แต่กว่านายโต้งกับนายแป้นจะกลับถึงบ้านคงเป็นเวลากว่า 21.00 น. เพราะทั้งสองอยู่ไกลถึงคลองรังสิต
27 มีนาคม 2547 11:54 น. - comment id 237701
บทกวีชุด แดดร้อน ดินแล้ง กลางทุ่งเมืองเพชร จบแล้วนะครับ เห็นทีจะต้องหยุดพักผ่อนอยู่กับบ้านบ้างแล้ว โอกาสหน้าจะพาไปเที่ยวใหม่นะครับ
27 มีนาคม 2547 19:34 น. - comment id 237779
ขอบคุณค่ะ ยังไงก็จะติดตามไปเที่ยวกับคุณต่อในโอกาสต่อไปนะค่ะ กลอนคุณไพเราะทุกบททุกตอนเลยค่ะ ชื่นชมในผลงานคุณเสมอนะค่ะ ซึ่งบางครั้งอาจไม่ได้ต่อกลอนให้ เพราะความชำนาญในเรื่องดั่งกล่าวไม่ค่อยมี แต่ก็ยินดีที่ได้อ่านผลงานที่สุดจะประทับใจทุกบททุกตอนนะค่ะ