ผมกับนายตี๋พยายามมองหา นกกางเขนน้ำหลังเทา (Slaty-backed Forktail) ซึ่งเป็นนกเจ้าถิ่นประจำลำตะคอง แต่มองหาเท่าไรก็ไม่พบ เห็นแต่ นกเด้าลมหลังเทา (Grey Wagtail) ซึ่งบินอพยพย้ายถิ่นมาหากินบนลานหินที่มีน้ำไหลเอื่อยลัดเลาะผ่าน แม้แต่ ตะกอง (Indochinese Water Dragon) ซึ่งเป็นกิ้งก่าขนาดใหญ่สีเขียวที่ชอบอาศัยอยู่เป็นประจำริมลำตะคอง เราก็หาไม่พบ แต่เหลือบไปเห็นปลามากมายว่ายเวียนวนรวมกันในวังน้ำตื้นใกล้ตลิ่ง มองน้ำไหลให้เห็นเป็นฝูงปลา เหลือคณานับร้อยค่อยเคลื่อนผัน คล้ายตะเพียนเวียนย้ายแหวกว่ายกัน ลำตัวสั้นสีเงินเชิญชวนมอง ยามเอี้ยวหัวตัวหางกลางแดดจัด เกือบแจ่มชัดเฉิดฉายกายไม่หมอง เกล็ดแวววาวพราวแสงแห่งน้ำคลอง เมื่อแสงส่องสะท้อนน้ำเห็นรำไร โอ้มัจฉาหน้านี้มีแต่ช้ำ เคยดื่มด่ำดำผุดมุดน้ำใส ต้องทนทุกข์ขลุกแอ่งแล้งน้ำใจ น้ำขุ่นไปเป็นประจำคล้ำสิ้นดี รอเวลาหน้าฝนทนอีกหน่อย น้ำเก่าค่อยเคลื่อนย้ายห่างหายหนี น้ำป่าใหม่ไหลบ่ามาทันที นับแต่นี้น้ำใสสุขใจนาน ผมพยายามมองดูให้รู้แน่ชัดว่าเป็นปลาอะไร แต่มองดูอย่างไรก็บอกได้แต่เพียงว่าเป็นปลาในวงศ์ปลาตะเพียน (Family Cyprinidae) เพราะรูปร่างคล้ายปลาตะเพียน แต่มีจุดสีดำที่โคนหางด้วย ผมรู้สึกแปลกใจอยู่หน่อย ทำไมปลาเหล่านี้จึงมารวมฝูงกันใกล้ๆตลิ่ง ทำราวกับว่าจะมารอฮุบอาหารหรือข้าวสุกจากใคร ผมเดาเอาเองว่า พระธุดงค์รูปนั้นคงเอาข้าวสุกมาโปรยให้ปลาฝูงนี้เป็นประจำ ปลาจึงไม่ยอมเวียนว่ายไปไหน
24 กุมภาพันธ์ 2547 21:52 น. - comment id 220901
ปลาเป็นฝูงดูดีนี้เหลือหลาย คงมีใครคอยได้ให้อาหาร ทั้งข้าวสุกบางครั้งที่เจือจาน อาจจะเป็นอาหารที่ทานเหลือ *-*กลอนไพเราะมากเลยค่ะ ปลาพวกนี้คงจะมีใครให้อาหารอย่างที่คุณว่านะค่ะ ซึ่งอาจจะเป็นพวกชาวบ้าน หรือไม่ก็พระธุดงค์รูปหนึ่งตามที่คุณนกตะวันบอกก็ได้ค่ะ*-*
25 กุมภาพันธ์ 2547 13:07 น. - comment id 221097
งานคุณ นกตะวัน งามไม่สร่างคะ
25 กุมภาพันธ์ 2547 17:13 น. - comment id 221319
มาเยี่ยมนะครับพี่นกตะวัน...กลอนเพราะมากครับ ธรรมชาติมาก... ตอนนี้ขอไปอ่าหนังสือก่อนนะครับ *-*