ไร่หอม
นกตะวัน
หลังจากเลี้ยวขวาแล่นมาตามถนนเลียบเมืองได้สักพัก รถได้เลี้ยวขวาอีกครั้งแล่นมาตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4054 มุ่งสู่ที่ทำการอุทยานฯ แม่ฝาง ผมมองดูดอยผ้าห่มปกที่แลเห็นอยู่ลิบๆ รู้สึกอาลัยอาวรณ์อย่างบอกไม่ถูก แต่มิใช่ว่าผมจะต้องอำลาจากดอยในตอนนี้ เพราะคืนนี้ผมยังต้องพักแรมอยู่ ณ ที่ทำการอุทยานฯ ซึ่งอยู่ที่เชิงดอยผ้าห่มปกจนถึงวันรุ่งขึ้น จึงยังคงรู้สึกใจชื้น รีบหันไปมองดูไร่หอมทางฝั่งซ้ายซึ่งกว้างไกลสุดตาจนจรดเชิงดอยผ้าห่มปก
จากถนนจนสุดหยุดเชิงดอย
ลายเส้นพร้อยดั่งผืนพื้นดินเขียว
ล้วนหอมแดงแฝงดินน่ากินเชียว
เห็นต้นเขียวเคี้ยวคดหลั่นลดไกล
ยามลมพัดสะบัดโบยโชยต้นสั่น
ไร่หอมนั้นเนิบนาบอาบแดดใส
ดั่งผืนพรมผ้าห่มเขียวลดเลี้ยวไกล
แสนกว้างใหญ่ยาวนักสุดจักมอง
ชาวบ้านฝางกลางไร่สดใสเขียว
เดินลดเลี้ยวเหลียวไปไม่หม่นหมอง
คอยฉีดยาฆ่าแมลงแอบแฝงจอง
หอมไม่หมองมากต้นล้นสุดตา
ผลผลิตคิดนับอันดับต้น
เลี้ยงผู้คนครอบครัวทั่วถิ่นหนา
หอมเมืองฝางอย่างนี้มีราคา
ปลูกคุ้มค่าขายคล่องน่าลองชิม
ผ่านพ้นไร่หอมจนมาถึงหมู่บ้าน ในไม่ช้ารถของเราแล่นเข้าเขตอุทยานฯ แม่ฝาง ผ่านบ่อน้ำพุร้อนที่พวยพุ่งขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา จนมาถึงที่ทำการอุทยานฯ แต่กว่าจะรู้ว่าบ้านพักที่นายเกษตรจองไว้ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2546 ที่เราเข้ามาขึ้นรถของอาไก เสียเวลาไปตั้งร่วมชั่วโมง ในที่สุดเราได้เข้าพักในบ้านรับรองบนเนินเชิงดอยผ้าห่มปก มีชื่อว่า บ้านสองครอบครัว เพราะเป็นบ้านหนึ่งหลังที่มีสองห้องติดกันและมีประตูเปิดถึงกันสำหรับอยู่กันสองครอบครัว