เอ๊ก อี๊ เอ๊ก เอ๊ก เสียงไก่ป่าดังขึ้นแต่เช้าตรู่ ปลุกผมให้ตื่นขึ้นต้อนรับเช้าวันใหม่ที่ยังคงมืดมิดปิดบังแมกไม้และขุนเขา ตามแบบฉบับของฤดูหนาวที่กลางคืนยาวกว่ากลางวัน เนื่องจากท้องฟ้ายังมืดมิด ผมจึงนอนต่อไปอีกสักพัก จนเลยเวลา 06.00 น. พอฟ้าเริ่มสาง จึงตื่นขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟัน จัดข้าวของใส่เป้ และหาอาหารเช้าใส่ท้อง ในขณะที่แสงทองเริ่มส่องฟากฟ้า แล้วสว่างจ้าเหนือหุบเขาที่มองลงไปไกลลิบเป็นแอ่งที่ราบของอำเภอฝาง เช้าวันใหม่ไสวสว่างกลางขุนเขา แดดโลมเล้าเฝ้าส่องแสงต้องใส ป่าทั้งผืนตื่นจากหลับรับอุทัย หมู่แมกไม้ใสเชียวเขียวแซมทอง เหล่าวิหคนกป่าต่างหากิน ผีเสื้อผินบินว่อนร่อนลอยล่อง ยั่วยวนเราเข้าไพรไปหามอง ยกกล้องส่องจ้องอยู่ดูเรื่อยไป จิบกาแฟแลชาพาสดชื่น หอมระรื่นยืนชิมยิ้มสดใส ขนมปังแปะแยมทานแกล้มไป เข้าปีใหม่ให้พลังความหวังมา มองสิ่งใดใกล้ไกลตาผาสุขนัก เมื่อสมัครพักผ่อนนอนภูผา ตื่นรับแสงแห่งอรุณอุ่นทุกครา อารมณ์ร่าพาใจผ่องใสพลัน เช้าวันนี้ผมกับสาวเจี๊ยบเดินนำหน้าไปก่อน ส่วนคนอื่นๆเริ่มเดินทยอยตามกันมา แต่สาวอ้วนขอเดินติดตามสี่หนุ่มที่ขึ้นมาสมทบเพื่อไปตระเวนหาถ่ายภาพนกในบริเวณใกล้ๆ ผมกับสาวเจี๊ยบออกจากประตูรั้วบ้านเอเฟรม เดินไปตามเส้นทางที่วกวนขึ้นเนินไปเรื่อยๆ ผ่านแนวต้นสนเขา ผ่านดงต้นนางพญาเสือโคร่งที่ออกดอกสีชมพูเต็มต้น ยั่วยวนให้นกแว่นตาขาว (White-eye) และนกกินปลีหางยาวคอสีฟ้า (Mrs. Goulds Sunbird) มาดูดกินน้ำหวาน
11 มกราคม 2547 23:06 น. - comment id 201372
กลอนน่ารักจังเลยค่ะ ได้อ่านแบบนี้เหมือนได้ไปสัมผัสธรรมชาติแบบนี้ด้วยเลยนะค่ะ ชอบค่ะชอบ
11 มกราคม 2547 23:19 น. - comment id 201387
สัมผัสกลิ่นอายของธรรมชาติได้ดีทีเดียวครับ... ชอบจังเลยครับ... ชีวิตที่สับสนกับชุมชนเมือง...น่าจะได้ที่สักที่เพื่อพักผ่อนใจบ้างเนอะครับ...อิ อิ *--* มาเยี่ยมนะครับ
12 มกราคม 2547 17:22 น. - comment id 201617
สวัสดีเช้าปีใหม่ครับ คิถึงเสมอได้รับกลอนที่ส่งไปแล้วครับ ขอบคุณครับ