บทรำพึงในเหมันตฤดู

อักขระ อักษรศรัทธ์

- กาพย์ยานี ๑๑ -

ยินเสียงเพียงแผ่วผิว
คือลมลิ่วลู่เรียวหญ้า
ค่อยค้อยจนลับตา
คืออาทิตย์อัสดง
รุมรุมคือฤทธิ์รัก
ผูกใจภักดิ์มิวายหลง
ลมหนาวมิอาจปลง
กลับประจงประจานใจ
กรีดเกรียวคมเคียวหญ้า
เบี่ยงบาดมาถึงทรวงใน
ฟ้าก่ำโพ้นใช่ไร
เลือดเรียมไซร้ที่ทาบทา
หวีดหวีดร้อยหรีดแว่ว
พ่างนึกแก้วแว่วเสียงหา
แก้วอวลหวนกลิ่นมา
กรรโหยแก้วให้แก้วหวน
จันทร์ร้างน้ำค้างเปลี่ยว
ปรายตาเหลียวยิ่งแปลบป่วน
หนาวกาพย์ที่คลอครวญ
กลับรัญจวนจะจดจาร
เพียงหวังให้ใจจำ
เรื่องรักซ้ำจำเนียรกาล
หนาวใหม่ไม่ซมซาน
สร้างวันวานไว้สอนตน				
comments powered by Disqus
  • หว่ออ้ายหนี่

    14 กันยายน 2545 02:15 น. - comment id 76211

    โอ้โห เก่งจัง น่านับถือ ชอบมากครับ
  • idaho

    14 กันยายน 2545 04:24 น. - comment id 76226

    แวะมาอ่านอย่างทึ่งมากมาก
  • แนทตี้..

    14 กันยายน 2545 08:13 น. - comment id 76249

    ^*^
              ^*^
                       ^*^...เก่งเก่งเก่งจังเลย..
                    สร้างผลงานดีดีมาอีกแยะแยะน๊า
                    ...............................................^*^
    
  • somebody

    14 กันยายน 2545 13:53 น. - comment id 76325

    น้องบุษ แวะ มาให้กำลังใจ พี่ Big นะคะ
    ชื่ชมผลงาน โคลงกลอนของพี่มากค่ะ
    ขอบคุณกำลังใจ ที่พี่มีให้น้องสาวเสมอนะคะ
    ชอบแนวคิดในการแต่งกลอนของพี่ชายเช่นกันค่ะ ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมชมโฮมเพจ น้องบุษ นะคะ
    -----------------------------------------------
    อ่านแล้วนึกถึง เพลง ลมหนาว ของวง ทรีฟอร์ที ค่ะ เพลงโปรด ของน้องบุษค่ะ.ช่วยนี้ปลายฝน ต้นหนาว อ่านแล้วรู้สึกดีค่ะ
    --------------------------------------------------
    ฤดูกาล พลันเปลี่ยน เวียนอีกหน
    จากปลายฝน เริ่มเข้า สู่ต้นหนาว
    ่ช่วยดับร้อน ผ่อนทุกข์ สุขสกาว
    ยามลมหนาว พัดมา จับหัวใจ
    
    ชนบท ข้นแค้น ขาดผ้าห่ม
    ผิวหนาวลม จะห่มผ้า จากที่ไหน
    ต้องเหน็บหนาว ปวดร้าว จับหัวใจ
    ต้องผิงไฟ ให้อบ อุ่นกายา
    
    มนุษย์หนอ ร้อนก็ทุกข์ หนาวก็ทุกข์
    ใยความสุข ไม่จีรัง ดังคำว่า
    หากหนาวรัก หารัก ห่มอุรา
    หนาวกายา หาภูษา มาห่มกาย
    
    หนาวลม ห่มผ้า ยังพออุ่น
    หนาวบาป ต้องเพียรบุญ ก่อนจักสาย
    หนาวรัก ห่มรัก อุ่นรักสบาย
    หนาวจะตาย ยังเปิดแอร์ แหม่แย่จริง
    ----------------------------------------------------
    อิอิอิ จบแบบ แปลกๆ หน่อยนะคะ
    
    
  • นักเดินทาง(Skeczys)

    14 กันยายน 2545 17:22 น. - comment id 76377

    อิอิ ชอบจังเลยค่ะ
  • ศาลาไทย

    14 กันยายน 2545 20:26 น. - comment id 76406

    
    หมื่นฝันและพันดาว
    พร่างพริบพราว ณ ราวสรวง
    เกินคว้ามาแนบทรวง
    สะท้อนอกสะทกใจ
    
    ค่ำคืนสะอื้นอ้อน
    ทิวากรละจรไป
    แม้จันทร์อันอำไพ
    มิฉายนวลให้ชวนชม
    
    ยิ่งคิดยิ่งผิดซ้ำ
    ในคราช้ำของคนขม
    จมจ่อมความตรอมตรม
    เหมือนดาวพริบริบหรี่ลง
    
    
    
  • อักขระ อักษรศรัทธ์

    15 กันยายน 2545 05:35 น. - comment id 76485

    ขอบคุณเพื่อน พี่ น้องนักประพันธ์โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ทุกท่านครับ...
    ----------
    หว่ออ้ายหนี่: นับถือคนชมเช่นกันขอรับ :-)
    ----------
    น้องไอ(ซ์)ดาโฮ: ขอบใจมาก ๆ จ้ะที่แวะมาให้กำลังใจดี ๆ ไม่มีขาด
    ----------
    แนทตี้..: ซึ้งใจกับเธอผู้แสนดี ที่แวะมาอ่านและมอบคำดี ๆ ให้ มาตั้งแต่ต้น.
    ----------
    น้องบุษ: ที่น่ารัก กับคำสวยและกำลังใจมายมาก หากเปรียบคงได้ดั่งแม่น้ำเจ้าพระยาอันฉ่ำเย็น :-)
    ----------
    ศาลาไทย: หมื่นฝันหรือพันดาว
    หากแม้นเจ้าปองเฝ้าใฝ่
    เรียมจักเพียรพากไป
    จรโค้งรุ้งมุ่งนำมา
    
    รั้งรุดหยุดตะวัน
    ชะลอจันทร์ให้นิ่งฟ้า
    ดาวหรี่เอาไต้มา
    จ่อจุดให้แสงฉายพลัน
    
    เข้าใจจิตตรมตรอม
    อาสากล่อมถนอมขวัญ
    เป็นเพื่อนเรือนใจครัน
    สานหมื่นฝันกอบพันดาว

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน