สัญญานะว่าอ่านแล้วจะไม่ร้องไห้

โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน

วันนึงที่น้องผมก้าวเดินออกไปจากบ้านแล้วไม่กลับมาอีก  ทุกวันนี้แม่ยังนั่งรอน้องอยู่
ขุนทองเจ้าจะกลับมาเมื่อฟ้าสาง
   ขลุ่ยละริ้วพริ้วพรายเป็นสายโศก
ลมระโรยโชยโบกโยกข้าวไหว
โอนละอ่อนผ่อนเผ่นเช่นเข็ญใจ
กร้านลมบ่มไว้ให้รวงราญ
   พยับแดดแผดจับระยับหยาด
วะวิบหวาดผาดแผลงดังแกล้งผลาญ
อกแม่เกรียมเกรียมกรมระทมทาน
กี่วันปีสิหนีผ่านพ้นกาลไป
   ฝนก็ล่วงช่วงเดือนเตือนระลึก
ชอุ่มพฤษกไพรฟื้นขึ้นยืนใหม่
ล่วงเข้าหนาวหนาวพัดระบัดใบ
กาลหมุนเวียนเปลี่ยนไปไม่คืนมา
   แม่ก็รอรอคอยเจ้าเฝ้าอยู่นี่
ณ ถิ่นที่นี้ดุจแสร้งแกล้งกังขา
ว่า  ขุนทองเจ้าใยไม่กลับมา
นี่แก้วตาอยู่เย็นเป็นเช่นไร
   น้ำพริกเอยเคยกินเล่นเห็นลูกชอบ
ระเริงรอบหมอบใต้ต้นไม้ใหญ่
แม่เหม่อมองท้องทุ่งรุ้งอำไพ
นี่เจ้าจากพรากไปใครจะนับ
   สัญญาเอยเคยให้ไว้แน่วแน่
ฟ้าสางแม่ ขุนทองจึงจะกลับ
เลือดชโลมโหมกายให้แม่ซับ
น้ำตานองรองรับด้วยมือเรียว
   เจ้าขุนทองเจ้าก็เดินเกินแกร่งกล้า
มุ่งลัดตัดตรงป่าพนาเขียว
แม่โหยหายละลายแห้งแล้งอยู่เดียว
ให้แห้งเหี่ยวเปลี่ยวจิตพินิจใน
   แม่ก็มองขุนทองหนาว่าจะกลับ
ไม่นานนับฟ้าสางนภางค์ใส
จะอิงแอบแนบตักคุ้นอุ่นละไม
ให้แม่กล่อมล้อมไว้ในอ้อมรัก
.....................................................
   
    มีข่าวว่าขุนทองมันตายแล้ว
โธ่ลูกแก้วใครนั่นหนาจะหนุนตัก
ใครจะปองปกป้องขุนทองพัก
ได้เท่าแม่แน่นักจักไม่มี
   แม่รู้แน่ว่าขุนทองมีชีวิต
ไม่มีคิดผันแปรท้อแท้หนี
ให้คำมั่นนั้นเทียบเทียมชีวี
แม่มีไม่มีวันเชื่อเหลือข่าวลือ
.....................................................
   ในปีนี้สุรีย์แรงดั่งแกล้งบ้า
ดวงตะวันกลั่นกล้าล้าแล้วหรือ
แตกระแหงแรงลดจรดฝ่ามือ
กำเคียวถือทอดอาลัยใกล้สิ้นลม
    กูไม่หนีนี่คือถิ่นดินแดนเก่า
อีกสิบเท่ากูไม่ท้อรอขื่นขม
กูทนแม้นใจกร้าวร้าวระบม
แม้นขื่นขมระทมทับนับเท่าใด
  กูไปแล้วถ้าขุนทองเล่ามันกลับ
มันจะหลับนอนหนุนอุ่นที่ไหน
กูจะรอมันบอกกับกูไว้
ว่าฟ้าสางสว่างไพรได้คืนมา....................
......................................................
   รวงระยับวับวาวพราวอร่าม
ทุ่งข้าววาววามงามสง่า
ลมโรยโชยเย็นเช่นเป็นมา
เนิ่นกาลนานช้าสักเท่าใด
  หนุ่มสาวกราวเคียวเกี่ยวกวัด
ข้าวร่วงรวงตัดจัดใหม่
ร้องรำทำเพลงครื่นเครงใจ
เพลงเกี่ยวข้าวพราวไพรในใจจับ 
   วัดเอ๋ยวัดโบสถ์ข้าวโพดกล้า
ไอ้ขุนทองมันว่าข้าจะกลับ
เมื่อฟ้าสางจางมาไม่ลาลับ
แม่มันนับวันรอพ่อคืนมา
   ตายไปเป็นรวงข้าวอันกราวเกรียว
อยู่เดียวเปลี่ยวกว้างในกลางป่า
คอยมองไอ้ขุนทองมันต้องมา
เนิ่นกาลประมาณมาอีกช้านาน....................
โอ๋ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน   02.21น. 21 ส.ค.2545
ขุนทองเจ้าจะกลับเมื่อฟ้าสางเป็นเพลงร้องกล่อมเด็กตั้งแต่สมัยปู่ย่าทวด  มีคนเคยนำมาแต่งเป็นกลอนบ้างเรื่องสั้นบ้างให้ความประทับใจทุกครั้งที่อ่าน  ครั้งนี้ผมนำมาประพันธ์  ในแบบของผม  เพราะอย่างน้อยก็มีผมคนนึงที่รู้ว่า   ทุกวันนี้แม่ก็ยังนั่งรอขุนทองอยู่ทุกวัน ..........................				
comments powered by Disqus
  • คะน้า

    21 สิงหาคม 2545 15:33 น. - comment id 68874

    ไม่ร้องไห้ค่ะ แต่ก็เศร้านะคะ
  • โคลอน

    21 สิงหาคม 2545 17:36 น. - comment id 68880

    ไม่ร้องค่ะไม่ร้อง...แต่ซึมไปเลย
  • [i][O][ri]

    22 สิงหาคม 2545 09:06 น. - comment id 69057

    โอ๋ครับ อ่านแล้วขนลุกเลยงะ รู้ป๊ะ มันเศร้ามาก สำหรับคนที่ไม่มีแม่อย่างเรา เราคอยนะ คอยว่าเมื่อไหร่แม่จะกลับมา..............
  • แม่

    30 สิงหาคม 2545 15:05 น. - comment id 71590

    และสำหรับคนที่เป็นแม่ ลูกจ๋าอย่าต้องให้แม่เป็นดั่งเช่นแม่ขุนทองเลยนะจ๊ะ
  • ผ่านมาอ่านเจอ

    4 ตุลาคม 2545 13:21 น. - comment id 83646

    น้ำตาซึมครับ
  • กำลังใจดวงเดิม

    20 กุมภาพันธ์ 2546 23:48 น. - comment id 109918

    จะเป็นกำลังใจให้เธอเสมอ ๆ
  • ซีคอน

    25 กุมภาพันธ์ 2546 11:16 น. - comment id 110522

    ได้อ่านจากหนังสืองานศพ  เลยเข้ามาแสดงความเสียใจด้วย

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน