ยืนเหม่อมองท้องนาแสนอาภัพ ทุ่งระยับแวววาวราวแก้วใส ข้าวเขียวเหลืองเรืองรองมองวิไล มาจมใต้สายน้ำซ้ำความจน ข้าวกำลังราคาดีมีความหวัง ต้องมาพังลงครืนยืนสับสน แทบสิ้นเนื้อประดาตัวทุกข์ทั่วคน หนี้สินพอกท่วมท้นยิ่งจนใจ น้ำท่วมแล้วดอกต้นยังท้นท่วม ชาวนาอ่วมแย่ย่ำน้ำตาไหล ที่นาผืนสุดท้ายคงมลายไป จำนองไว้ใช้ทุนมาหมุนเวียน กู้เงินจากธนาคารค่าหว่านไถ เอาเงินไหนใช้คืนยืนปวดเศียร เขามาทวงถึงบ้านพานวิงเวียน แทบอาเจียนอกเอ๋ยใครเลยทน เหลียวมองบ้านยิ่งช้ำเหมือนกรรมซัด น้ำป่าพัดลับหายกลายล่องหน เหลือเศษหินดินทรายพรายกมล ยามแลยลยิ่งแสลงเสียดแทงใจ เสียที่นาสูญบ้านพานทดท้อ เช่านาต่อก็พลอยล้าพาหวั่นไหว เหมือนดั่งตำน้ำพริกละลายไป รันทดใจยิ่งแท้แพ้โชคชะตา ทั้งหนี้เก่าหนี้ใหม่ใครจะช่วย ถึงคราวม้วยตัวเราเฝ้าอุตส่าห์ จึงถางดงพงพฤษ์ไพรพนา สุดท้ายเจอข้อหารุกป่าดง...
20 กันยายน 2554 20:57 น. - comment id 1208574
อย่าคิดอะไรมากไปกว่า ปลงปลงปลง และให้คิดในแง่ดีว่า ยังดัที่ยังเหลือแม้เพียงตัวก็ตาม เป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ประสพภัยนะ
7 พฤศจิกายน 2554 18:47 น. - comment id 1208584
22 กันยายน 2554 14:29 น. - comment id 1208761
ดูข่าวแล้วเศร้าใจค่ะ สงสัยปีหน้าน้ำท่วมโลก