ดวงตะวันปรากฏจนหมดแสง การแสดงยิ่งใหญ่ในคืนค่ำ ส่งท้ายปีที่เห็นเป็นประจำ พลุกระหน่ำสีเสียงตอนเที่ยงคืน นครแห่งแสงสีไม่มีหลับ เตรียมต้อนรับวันแรกอย่างแตกตื่น ดอกไม้ไฟหลายลูกเหมือนถูกกลืน ค่ำดึกดื่นยืนมองอย่างข้องใจ มีงานเลี้ยงสังสรรค์เป็นอันเริ่ม งานเฉลิมฉลองของปีใหม่ บรรยากาศหมุนเวียนก็เปลี่ยนไป ท่ามเปลวไฟประทุอย่างคุโชน เสียงโหยหวนหวั่นหวาดขาดระยะ ตามจังหวะชีวิตคิดโลดโผน จากความตายในผับใครจับโยน ยิ่งกว่าโจรฉุดคร่าล่าวิญญาณ อารมณ์เพียงวูบเดียวเหลียวหลังกลับ ไฟไหม้ยับกับตาน่าสงสาร ต้องกระเสือกกระสนจนลนลาน เมื่อไม่นานเข้าปาดหยาดน้ำตา ส่ายสายตามองดูความรู้สึก ในส่วนลึกไม่อาจปรารถนา ผ่านไปอีกกี่ฝันวันเวลา เมื่อชีวานอนหลับกับความตาย ไม่มีความปราณีในปีหน้า เมื่อศรัทธาสูงสุดไร้จุดหมาย อาจเป็นความหม่นหมองของปีกลาย ที่ทำลายความหวังอย่างตั้งใจ อาจเป็นโลกสมมุติไม่หยุดนิ่ง แต่ความจริงอดกลั้นแทบหวั่นไหว ใต้ท้องฟ้าสีเพลิงระเริงไฟ รุ่มร้อนในกายาทุกนาที. ........................................
18 ธันวาคม 2553 06:48 น. - comment id 1174182
แวะมาชื่นชมผลงานค่ะ ขอให้ดวงวิญญาณทุกดวงไปสู่สุขติค่ะ
18 ธันวาคม 2553 08:57 น. - comment id 1174188
ร่วมไว้อาลัยด้วยครับ
18 ธันวาคม 2553 12:08 น. - comment id 1174201
แวะมาอ่านงานงาม ๆ ครับ
18 ธันวาคม 2553 14:02 น. - comment id 1174248
ร่วมไว้อาลัยด้วยคนค่ะ
18 ธันวาคม 2553 16:42 น. - comment id 1174272
ขอร่วมไว้อาลัยแด่ทุกคนที่ล่วงลับค่ะ ขอให้วิญญาณทุกดวงไปสู่สุคตินะคะ
18 ธันวาคม 2553 16:46 น. - comment id 1174275
แวะมาอ่านบทกลอนอันไพเราะ เสียงเสนาะสัมผัสจัดอักษร มีเนื้อความกินใจทุกบทตอน ที่สะท้อนสังคมปัจจุบัน แต่งกลอนได้ไพเราะมาก ครับ
18 ธันวาคม 2553 17:20 น. - comment id 1174286
ขอไว้อาลัยให้กับผู้ที่ล่วงลับทุกคนครับ ขอให้ปีใหม้ปีนี้ ไม่มีเหตุการณ์น่าเศร้าเช่นนี้อีก