๐ รัก ใครไหนเท่าด้วย ราชันย์ พ่อ ดุจองค์เทวัญ จุติเอื้อ พอ วันผ่านเฉลิมขวัญ ทูนเทอด ธ นา เพียง ดั่งบารมีเกื้อ ปกเกล้าชนเกษม..ฯ ๐ รัก ด้วยใจใฝ่ภักดิ์ รัก พ่อนักเกินกล่าวขาน รัก หวังยังตระการ รัก เทอดท่านจนหมดใจ ๐ พ่อ พระเสโทหยด พ่อ ท่องจรดสุดแคว้นไหน พ่อ ทุกข์พระหทัย พ่อ หวังให้ชนสุขครอง ๐ พอ กราบฝ่าพระบาท พอ อศิรวาทด้วยใจปอง พอ อุทิศท่ามครรลอง พอ สนองใคร่เดินตาม ๐ เพียง ทราบ ธ ประชวร เพียง ชนล้วนฤทัยหวาม เพียง หวังตั้งใจงาม เพียง สื่อความกราบบาทองค์ ๐ รัก ในใจไทยภักดิ์ประจักษ์จิต รัก อุทิศปวงข้าฯ ธ ประสงค์ รัก ตามรอยเบื้องพระบาทชาติดำรงค์ รัก เห็นทรงพระภาระมาประดัง ๐ พ่อ คือศูนย์รวมใจไทยทั้งผอง พ่อ วางแนวครรลองให้ปองหวัง พ่อ คือขวัญหทัยเติมใส่พลัง พ่อ เป็นดั่งฉัตรทองของปวงชน ๐ พอ หมายทำความดีที่พ่อสอน พอ ได้ผ่อนเบาแรงทุกแห่งหน พอ ได้สานงานฝันกันทุกคน พอ เปี่ยมล้นสุขใจพ่อได้มี ๐ เพียง หนึ่งใจใฝ่จำในคำพ่อ เพียง สร้างก่อต่อเติมเพิ่มสุขศรี เพียง สุขล้วนถ้วนหน้าประชาชี เพียง เท่านี้พ่อหวังเราตั้งใจ ๐ เศรษฐ การ ธ มุ่งสร้าง แดนไทย กิจ แห่งการงานใด ทั่วถ้วน พอ หมายทุกดวงใจ แสนสด ชื่นนา เพียง เมื่อชนสุขล้วน พ่อนั้นสมหมาย....ฯ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า "คนกุลา" พระพุทธเจ้าข้า
6 ธันวาคม 2552 15:31 น. - comment id 1071174
ขอให้พ่อหลวง หายจากอาการพระประชวร และทรงมีพลานามัยสมบูรณ์
6 ธันวาคม 2552 16:03 น. - comment id 1071180
ขออธิษฐาน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกดลฯ ให้ พ่อหลวงของปวงประชา ทรง มีพระพลานามัยสมบูรณ์ ในเร็ววันค่ะ
6 ธันวาคม 2552 16:12 น. - comment id 1071184
ขอให้พระองค์ทรงหายจากพระประชวร โดยเร็ววัน และขอให้ทรงมีพระชนม์มายุ ยิ่งยืนนานเทอญ
6 ธันวาคม 2552 18:05 น. - comment id 1071213
** รัก...ใดฤาเปรียบแม้น ภูผา พ่อ......ท่านทรงบุญญา ถิ่นด้าว พอ......ใจเมื่อประชา เป็นสุข ทั่วนา เพียง....ย่างทุกฝีก้าว กอบเกื้อชนเกษม.....ฯ ** รักอันใด ไหนเลิศ ที่เกิดก่อ รักแห่งพ่อ ภูมินทร์ ถิ่นสยาม ทรงห่วงใย พสกนิกร ทั่วเขตคาม เพียงพอตาม พระดำรัส หลักปรัชญา... ** ขอน้อมเกล้า กราบบังคม บรมบาท ไทยทั้งชาติ เฉลิมชนม์ พระพรรษา พระเกียรติก้อง แผ่ไพศาล ทุกกาลมา ราษฏร์บูชา ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ.....ฯ ..น้อมดวงใจ..ถวายพระพร..แด่พ่อหลวงของปวงไทย...ขอให้มีพระพลานามัยแข็งแรง..พระชนมมายุยิ่งยืนนาน.... บทประพันธ์ไพเราะค่ะ...ราชิกา..มาขอแจมกลอนนะคะ...
6 ธันวาคม 2552 19:01 น. - comment id 1071222
รักพ่อต้องอยู่อย่างพอเพียงครับ ขอบคุณพี่คนกุลามากครับที่รจนากลอนเพราะ ๆ ให้ได้อ่านเสมอ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
6 ธันวาคม 2552 20:26 น. - comment id 1071246
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ รักพ่อพอเพียง.. เป็นวิถีชีวิตที่สร้างความสุขใจ ได้มากๆค่ะ
7 ธันวาคม 2552 10:53 น. - comment id 1071328
รักพ่อรู้พอเพียงค่ะ
7 ธันวาคม 2552 11:33 น. - comment id 1071353
รักพ่อฟังพ่อแล้วต้องปฏิบัตตามคำพ่อด้วยเนาะครับพี่หลวง
7 ธันวาคม 2552 13:03 น. - comment id 1071402
จะเดินตามรอยเท้าพ่อค่ะ
7 ธันวาคม 2552 13:20 น. - comment id 1071416
รักพ่อรู้พอเพียง...
7 ธันวาคม 2552 14:50 น. - comment id 1071452
รักพ่อหลวงล้นดวงใจ
7 ธันวาคม 2552 20:10 น. - comment id 1071612
คนแก่ก็แบบนี้แหละน้องมักจะงุ่มงามล่าช้า เสมอ ขอรวมถวายพระพรกับน้องคน ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ทรงหายพระประชวร สุขภาพพลานามัยแข็งแรง เป็นมิ่งขวัญพวกเราเทอญ แก้วประเสริฐ.
8 ธันวาคม 2552 12:33 น. - comment id 1071835
ขอคารวะ ในผลงานครับ ไม่ว่า กลอน โคลง หรือ กลอนสี่แปรฯ ท่านอาจารย์ แต่งได้เพราะและน่าอ่านเสมอ ด้วยเคารพรัก ท่านอาจารย์ คุณน้าคนกุลา ที่กรุณาต่อผมเรื่อยมา...
8 ธันวาคม 2552 15:23 น. - comment id 1071892
ผมขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาร่วมถวาย พระพรชัยมงคล แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พ่อหลวงของปวงไทยครับ ขอบคุณ หลานแบม ขอบคุณ คุณปราง ขอบคุณ คุณเทียนหยด ขอบคุณ คุณตุ้ม ขอบคุณ คุณสุริยันต์ ขอบคุณ คุณกิตติกานต์ ขอบคุณ คุณเฌอมาลย์ ขอบคุณ น้องบ่าวลำน้ำน่าน ขอบคุณ คุณฝน ขอบคุณ คุณมะกรูด ขอบคุณ คุณเสมอจุก ขอบคุณ ท่านพี่แก้วประเสริฐ และขอบคุณกวีน้อย ที่มาร่วมถวายพระพรให้พระองค์ท่านทรงหายประชวรและมีพระพลานามัยแข็งแรง ขอบพระคุณ ทุกท่านอย่างมาก อีกครั้งครับ
8 ธันวาคม 2552 17:48 น. - comment id 1071940
กวีน้อยครับ บทประพันธ์ ที่กวีน้อย คิดว่ากลอนสี่ นั้นไม่ใช่ ครับ ผมตั้งใจจะพัฒนาให้เป็น กาพย์ ราชิกา 7 ครับ เคยเขียน อธิบายให้กวีน้อยอ่าน ไปแล้ว หนึ่งครั้ง แต่จำไม่ได้ว่าบทไหน เป็นกาพย์ที่ผมพยายามพัฒนามาจากบทขับ หนังตะลุงและเพลงบอก ของชาวปักษ์ใต้ บท หนึ่งมี สี่ วรรค วรรคที่ หนึ่งและที่ สาม มี สามคำ วรรค ที่ สอง กับวรรคที่ สี่ มี สี่คำนะครับ ส่วน กลอนสี่แปรนั้น ฉันทลักษณ์ เป็นแบบนี้ นะครับ เดือนจาง..ร้างดาว...(กลอนสี่แปร) โดย สะกุดาษ ------------ ๐ แหงนมองท้องฟ้า อุราหม่นหมอง ถึงต้องหวั่นไหว ให้คิดถึงหน้า ขวัญหล้านิ่มน้อง ที่ปองต้องใจ เดือนจางนางไร้ เหลือแค่ฝันใฝ่ หวังได้คืนมา ๐ ท่ามดาวพราวพร่าง กระจ่างห้วงหาว ดวงดาวแลหา มิเห็นหน้าจันทร์ ไหวหวั่นเหลือที่ จะหนีไกลหน้า ลืมเพ็ญเด่นฟ้า สิ้นแล้วมนตรา ฟากฟ้าอาดูร ๐ หรือเดือนมั่นหมาย จะหายจากฟ้า นภาสิ้นสูญ ถึงหน้าวสันต์ ก็พลันมืดมิด ซ่อนปิดจำรูญ เหลือเงาอสูร เร่งเริ่มเพิ่มพูน จนสูญเสียขวัญ ๐ หากขวัญเสียแล้ว มิแคล้วต้องหาย แพ้พ่ายหลีกหนี ตกร่วงโปรยปราย ให้หายจากฟ้า สู่มหานที ฟากฟ้ายามนี้ ไม่เหลือสุนทรีย์ จากนี้...เท่านาน บทหนึ่งมี 3 วรรค วรรคละสี่คำ คนที่นำมาเขียน ในบ้านกลอน บ่อยๆคือ คุณลมแปรแขมร์ เอ หรือ คุณจะไม่เด็จ นี่แหละครับ ผมอธิบายเพื่อกวีน้อย จะได้เข้าใจไม่สับสนนะครับ กวีน้อยต้องพยายามสังเกตุ คำประพันธ์ต่างๆ ให้ละเอียด มองให้ทะลุ ในอนาคตจะได้สร้าง งานของตนเองให้ดียิ่งๆขึ้นไป ครับ ด้วยมิตรไมตรี
8 ธันวาคม 2552 21:09 น. - comment id 1071975
กวีน้อยครับ ผมเข้าไปหาที่เคยเขียนให้ไว้ เกี่ยวกับ ฉันทลักษณ์ของกาพย์ราชิกา 7 ได้แล้วดังนี้ คือบทหนึ่ง มี 2 บาท บาทหนึ่งมี 2 วรรค วรรคแรกมี 3 คำ วรรคสอง มี 4 คำ สัมผัสใน มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ อาศัย จังหวะคำสร้างความไพเราะ เอา ครับ ส่วนสัมผัสนอก มีดังผังนี้ 1 2( 3) 1 (2) 3 ((4)) 1 2 ((3)) 1 ((2)) 3 (((4))) 1 2 3 1 2 3 (((4))) คำสุดท้าย ของ วรรคแรก สัมผัสกับคำที่ สองของวรรค สอง คำท้ายของวรรคสอง สัมผัสกับ คำท้าย ของวรรคที่ 3 และคำที่ 2 ของวรรค ที่ 4 สัมผัสระหว่างบท โดย คำท้ายของวรรคที่ 4 ไปสัมผัสกับ คำท้ายของ วรรคที่ 2 ของบทต่อไป แบบ กาพย์ยานี นะครับ เสียง คำลงท้าย อาจไม่จำเป็นต้องตายตัว แต่อาศัย จังหวะคำ สร้างความไพเราะ เอา ครับ ผมพยายาม พัฒนาดูอยูว่า ควรลงแบบกลอนแปด ดี หรือ ลงแบบกาพย์ ดี ครับ ลงแบบกลอน คือ มีการกำหนดเสียงสูงต่ำ ท้ายวรรค หรือลงแบบกาพย์ คืออาศัย จังหวะคำสร้างความไพเราะ เอา นะครับ กวีน้อยฯ ด้วยมิตรไมตรี ครับ