ดึกแล้ว.. เจ้าดวงแก้วเจ้าอยู่ไหนในฟ้ากว้าง ใต้แสงเด่นเส้นโครงโยงระยาง เจ้าพรายพร่างระหว่างดาวเหล่านั้นไหม ท้องทะเลแห่งเวหาพร่าระยิบ ฟ้ากระพริบวิบวาวด้วยดาวไสว ลูกของพ่อคงทอแสงแรงละไม กลั่นแสงไฟไร้เดียงสามาสู่ดิน ที่กลางหาวหนาวไหมหนอพ่อใคร่รู้ หลากฤดูแปลกไปไหมเมื่อไกลถิ่น พ่อยังห่วงหวั่นดวงใจเจ้าไม่ชิน หากจันทราแสงสิ้น - สิ้นอุ่นไอ ณ วิมาณธารเมฆอันเอกอุตม์ ที่ซึ่งมวลหมู่มนุษย์สุดคว้าไขว่ ที่ที่ดินหินกรวดอวดแสงไฟ ใครเล่าใครจะห่มเจ้า..เจ้าแก้วตา เมื่อดวงดาวใหญ่น้อยคล้อยเข้าที่ ไกวและกวัดรัศมีรังสีจ้า คงประชันกันประดับทับนภา ใครจะมารับขวัญเจ้า..เจ้าลูกรัก หากละอองของปุยเมฆเสกสายฝน เป็นธารชลบนโลกาอาณาจักร ตัวของพ่อพอมีไม้ให้พำนัก แต่เจ้าสิ..เจ้าจะพักจะพิงใคร ----------------------------------------------------- เอาเป็นว่า..หลับตาเถิดลูกรัก ปล่อยความฝันไปรู้จักกับบ้านใหม่ ใครจะอวดแสงพร่าง - ช่างเขาปะไร เพียงคืนค่ำผ่านไปใจจะคุ้น และไม่ต้องกลัวหนาวนะลูกรัก อีกสักพักพ่อจะไปให้ไออุ่น พ่อจะทิ้งโลกเหลื่อมล้ำที่วายวุ่น สู่อ้อมแขนเสนละมุน..รอพ่อนะ
24 มีนาคม 2545 19:32 น. - comment id 42394
เศร้าอีกแล้ว พี่ตะวัน .....เศร้าจริงๆค่ะ.......
25 มีนาคม 2545 00:07 น. - comment id 42453
ใช้เวลาตั้งใจอ่านถึงสองครั้งด้วยกัน บทกลอนซึ้ง มากและแฝงอะไรบางอย่างให้คิดตามไปด้วย คำที่สื่อดูอบอุ่นแบบเศร้าๆในสองบทสุดท้าย
25 มีนาคม 2545 00:29 น. - comment id 42457
มันเป็นบทต่อน่ะครับคุณคะน้า ต่อเนื่องจากกลอนบทเก่า เรื่องเก่าๆ ของชายขี้เมาเสียสติ จากความฝันที่ถูกขีดคั่น สู่นิรันดร์ของท้องฟ้า บางทีความตาย..อาจเป็นสุดท้ายของปัญหา..ยังไงมันก็แค่ชีวิตไร้ปัญญาของชายเสียสติ (เขาคงไม่เหมาะกับโลกใบนี้)
25 มีนาคม 2545 02:40 น. - comment id 42500
สุดยอดเลยจ้ะ ตะวัน....เขียนได้ล้ำลึกในความรู้สึกเลยล่ะ..@^_^@