ดวงจันทร์ผ่องนภา กระจ่างฟ้าทอแสงนวล หมู่ดาวระยิบยวน จับเวหนแข่งแสงจันทร์ ต้องธาราที่รินไหล ทอดเป็นสายทาบผิวธาร บรรจบจำเนียรกาล เพ็ญสิบสองครรลองไทย ประเพณีแต่คราเก่า ยังคงเฝ้าหวงแหนไว้ ลอยประทีปลำน้ำใหญ่ บูชาแม่พระคงคา อีกโคมประทีปส่อง ลอยละล่องท้องนภา ตั้งจิตน้อมบูชา พระเขี้ยวแก้วจุฬามณี ธูปเทียนทั้งมาลา อีกบุปผาหลายหลากสี นิ้วทั้งสิบสองกรนี้ ประนมหัตถ์ด้วยดวงใจ ยกกระทงเหนือเกศา เจตนาอันยิ่งใหญ่ ร่วมจิตผูกดวงใจ ให้ผองไทยได้ร่มเย็น ขอพระองค์บรมบพิตร ธ สถิตคลายทุกข์เข็ญ สองพระองค์ราเชนทร์ ชนมายุยั่งยืนนาน ทั้งพระบรมวงศา ป้องไทยมาเป็นสุขศานต์ ทุกพระองค์ทรงสราญ สถิตคู่ไทยนิรันดร์ ขอดวงจิตพระพี่นาง พระเดินทางสู่สวรรค์ ปกป้ององค์ราชันย์ และผองไทยให้ร่มเย็น ขอพระรัตนตรัย ปกป้องไทยหายทุกเข็ญ ทุกผู้อยู่ร่มเย็น เป็นน้ำเดียวใต้ธงไทย แล้วปล่อยกระทงน้อย ให้ล่องลอยไปตามสาย สู่ฝั่งอันแสนไกล ดลเทพไท้ท่านรับรู้ แล้วประสิทธิ์พรประเสริฐ ให้บังเกิดแด่ทุกผู้ ใจสุขกายสุขอยู่ ถ้วนทั่วกันนิรันดร์เทอญ.
30 พฤศจิกายน 2551 09:07 น. - comment id 919510
สวัสดีค่ะพี่สุ...ปีหนึ่งผ่านไปกลับมากลอนพี่ก็ยังน่าติดตามเหมือนเดิม...คิดถึงเสมอนะคะ..
30 พฤศจิกายน 2551 10:53 น. - comment id 919545
สวัสดีค่ะพี่สุ...ปีหนึ่งผ่านไปกลับมากลอนพี่ก็ยังน่าติดตามเหมือนเดิม...คิดถึงเสมอนะคะ.. สาวน้อย ขอบคุณมากมายค่ะสาวน้อย...น่าเสียดายที่ไม่ได้ลงกลอนในพาสเดิม..กาแฟไหม อ่ะ สาวน้อยไม่ทานกาแฟนี่หน่า...งั้นน้ำเสาวรสละกัน..รสชาดทำเองรับรองค่ะ.อิอิ..