กาลเวลาพาทุกสิ่งให้แปรเปลี่ยน โลกหมุ่นเวียนพาทุกอย่างห่างไกลแสน เป็นอดีตแห่งใจไร้พรมแดน หาก..ว่าแม้นหายไปให้จาบัลย์ มาวันนี้พบเจอเธอคนนั้น เธอที่ฉันเฝ้าหาพาสุขสันต์ แม้เป็นเพียงเสียงสื่อห่างไกลกัน นับคืนวันพบพักตร์รักมิคลาย แต่แล้ว..ม่านประเพณีที่ผูกมัด สุดจะขัดแข็งขืนเกินจะหมาย เหมือนอดีตแรกพบหวังเคียงกาย คงมิวาย..ได้เพียง..แค่เคียงใจ อดีตที่หาเจอเพ้อฝันผ่าน กลับยิ่งห่างหายเช่นเป็นไฉน ด้วยเหตุนี้ผลนั้น..กั้นสายใย ต่อนี้ไปเป็นเพียงเงาเศร้านิรันดร์
11 มีนาคม 2550 19:09 น. - comment id 668758
สมัยนี้ยังมีม่านประเพณีอีกหรือคะ..น่าเศร้าใจจังค่ะ..
12 มีนาคม 2550 10:28 น. - comment id 669117
ตื่นแล้วก็เลือนลางแล้ว
17 มีนาคม 2550 20:11 น. - comment id 672196
จะว่าม่านประเพณีก็ไม่เชิง...เอมันอะไรละ..กำแพงศีลธรรมก็แล้วกัน..อิอิ.คุณกุหลาบขาวจ๋า....ขอบคุณครับที่เข้ามาให้กำลังใจ.. คุณแมงกุ๊ดจี่..(ชื่อน่ากินจัง..ขั้วดีๆห่อใบกะโดนจ่ำแจ่ว..อิอิอิ..) ขอบคุณครับที่เข้ามาชม..
29 มีนาคม 2550 14:01 น. - comment id 677990
อดีตคือความฝัน.....ปัจจุบันต่างหากคือความจริง.....เราทุกคนไม่สามารถย้อนอดีตได้....เฉกเช่นแม่นำไม่หวลกลับ......เราไม่สามารถย้อนวัน...เวลาที่ผ่านพ้นไปแล้วให้กลับมาเหมือนเดิมได้......คุณโชคดีมากที่หาอดีตเจอ...และใจตรงกัน......ขออวยพรให้คุณและเธอจงมีความรู้สึกดี ๆ ให้กันตลอดไป....ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงเงา.....ขอส่งกระแสจิตให้กำลังใจคุณและเธอ.......จงยึดมั่นในคุณงามความดี(ที่อาจจะทรมาณใจตนเอง ) ตลอดไป
2 เมษายน 2550 22:05 น. - comment id 679425
จริงดั่งคำของคุณ..นิรนาม..กล่าวแท้แน่นอนแล้วแหละ..คงเป็นได้เท่านี้..มีความรู้สึกดีๆให้กันตลอดไป....
20 มีนาคม 2553 00:48 น. - comment id 1112547
บทกลอนบทนี้ของคุณเศ้าจัง....อ่านแล้วใจหาย....ถ้าเป็นภาพยนต์คงนำตาท่วมจอเป็นแน่แท้.......