เคยสบซึ้งในแววตาพาใจซึ้ง ซ่านคะนึงดวงจิตเฝ้าคิดฝัน มอบไมตรีแช่มชื่นในคืนวัน มีรักปันอุ่นไอให้แอบอิง บัดนี้ไร้แววตาพาใจฝัน ความผกผันแปรไปในทุกสิ่ง ภาพน้ำตาพร่าเห็นความเป็นจริง รักทอดทิ้งเลือนร้างบนทางรัก สิ้นแววหวานซ่านจิตให้คิดถึง ให้ตรมตรึงอยู่ในใจหน่วงหนัก สิ้นอุ่นไอเคยอิงเคยพิงพัก ต้องมาหักน้ำตาด้วยอาลัย เคยพะนอคลอเคล้าเคยเย้าหยอก เคยพร่ำบอกว่ารักเจ้ามากเท่าไหน เคยถนอมยอมใจภักดิ์รักเท่าไร เคยชื่นในห้วงรักต้องหักตรม ภาพน้ำตาพร่าพรายเป็นสายโศก ชั่วหรือโชคในรักยื่นความขื่นขม ภาพอดีตกรีดเฉือนเรือนอารมณ์ ร้าวระทมไม่สิ้นถวิลครวญ เก็บความช้ำถมถ่วงความห่วงหา ดินและฟ้ารั้งใจอย่าได้หวน ฝากหัวใจร้างเร่คนเรรวน หวังลืมนวลเนื้อนิ่มที่พิมพ์ใจ รินน้ำตาล้างใจให้ลืมสิ้น ตัดถวิลที่อาวรณ์เลิกอ่อนไหว ทิ้งภาพแห่งน้ำตาเลือนลาไป ตัดอาลัยตรมเศร้าที่เร้าตรึง จุดประกายแห่งหวังตั้งต้นใหม่ พร้อมก้าวไปข้างหน้าอีกคราหนึ่ง ภาพน้ำตาที่เคยช้ำไม่รำพึง จะไม่หวนคิดถึงให้ช้ำทรวง --------------------------ลานเทวา----------------------------
12 กุมภาพันธ์ 2550 20:48 น. - comment id 656254
สวัสดีค่ะ แวะทักทายๆๆ ค่ะ อยากจะเขียนกลอนนะคะ แต่สมองไม่ลื่นเลยค่ะ
14 กุมภาพันธ์ 2550 16:08 น. - comment id 657087
สวัสดี โต้ง ณ.ภูตะนาว ครบเครื่องจริงๆ....ยอมรับสุดยอด กลอนรัก ก็กินใจไม่เบาเลยเพื่อน ไม่ใช่แค่ กลอนประชด เสียดสี แดกดันโลก และสังคม