ในลมหนาวฟ้าสกาวดาวระยิบ เสียงกระซิบในสายลมพรมห่มขวัญ เป็นความเงียบเปรียบประหนึ่งของกำนัล รำเพยฝัน..รำพันหวน..นวลคำนึง........ เป็นความห่างเป็นความต่างที่สัมผัส ดูแจ่มชัดในสายลมที่พรมถึง มองไม่เห็นฟังไม่ออกแต่ตราตรึง นวลคำนึงยังไม่ครึ่งของความเงียบ ความเป็นไปของคนไกลดูเฉยนิ่ง แต่ทุกสิ่งดำเนินอยู่อย่างราบเรียบ เสียงระรัวของหัวใจยากจะเปรียบ เศษส่วนเงียบกับทำนองของหัวใจ นวลคำนึงถึงภูไพรไกลสุดฟ้า สุดสายตามิอาจพบจบตรงไหน เป็นรอยต่อความรู้สึกว่าห่วงใย อย่าหลงไปเที่ยวสืบค้นอาจหลงทาง ปล่อยสายลมห่มความเงียบดั่งเก่าก่อน อย่าเร่งร้อนทอดถอนใจจนหม่นหมาง ในความเงียบมีเสียงลมพรมบอกทาง รำเพยบางคล้ายอ้างว้างเพียงลำพัง ความคิดถึงห้วงคะนึงนั้นไร้เสียง อาจเหลือเพียงเสียงสะท้อนแต่หนหลัง ภาพคนไกลดูลางเลือนไม่จีรัง กลับฝากฝังรอยอาธรอยู่ภายใน ฟังลมกล่อมละมุนอ่อนตอนแดดสาย อบอุ่นคล้ายอาบหัวใจให้สดใส ภาษาลมห่มความเงียบมาปลอบใจ สำเนียงไดไม่สำคัญสักสำเนียง เพียงความเงียบเปรียบประหนึ่งครึ่งโลกร้าง อาจอ้างว้างจนเคว้งคว้างเพราะหลงเสียง ระวังตัวและหัวใจเสียงแค่เพียง สรรพสำเนียงเพียงปรุงแต่งภาพมายา ภาษาใจไร้สำเนียงภาษาสื่อ หากยึดถือคงได้เพียงเสียงภาษา ความใสซื่อสื่อถึงใจไร้มายา เพียงหลับตาแม้เงียบกว่า...ทว่า...เข้าใจ........
8 มกราคม 2550 02:06 น. - comment id 644174
แหมเสียงของความเงียบของคุนกุมนี่นุ่มนวลอ่อนหวานจริงนะคะ ไม่เหมือนของเป้....มันเยือกเย็นและน่ากลัว
8 มกราคม 2550 05:59 น. - comment id 644184
ยิ่งเงียบมากเท่าไร....... เสียงแผ่วก็จะดังขึ้นเท่านั้น... แต่พอมีเสียงลมแผ่ว........... เสียงแผ่วย่อมพลันหายไป..... สวัสดียามเช้าครับ..... ทำงานแล้ว
8 มกราคม 2550 07:13 น. - comment id 644191
นวลไม่มา แต่ส่งนิลมาแทนค่ะ อิอิ จุ๊ๆๆๆ เงียบจนได้ยินเสียงหัวใจมันเต้นถี่เลยค่ะ เหะ เหะ ป่วนยามเช้า
8 มกราคม 2550 08:41 น. - comment id 644218
"นวลคำนึงยังไม่ครึ่งของความเงียบ" ช่างหาญเปรียบผิดผิดค่าคิดถึง ลึกซึ้งกว่าคร่ำครวญนวลคำนึง รักสุดซึ้งห่วงล้นนะคนดอย ติดไว้ก่อนนะคะ แล้วจะมาต่อให้จบค่ะ
8 มกราคม 2550 10:00 น. - comment id 644250
เจ็บปวดเงียบกับความเหงา...
8 มกราคม 2550 18:07 น. - comment id 644452
พี่ค่ะ ระหว่างน้ำตาล กะ กลอนของพี่ อะไรหวานกว่ากันค่ะ ????? บางครั้งความเงียบก็ทำให้เราเข้าใจกันและกัน ได้ค่ะ บางครั้งไม่จำเป็นต้องเอ่ยเป็น วาจา เพราะใจมักจะสื่อถึงใจเสมอค่ะ..
8 มกราคม 2550 23:31 น. - comment id 644511
ภาษาใจไร้สำเนียงส่งเสียงบอก แต่ดูออกแค่แววตาพาลุ่มหลง ให้รักมอบชอบให้ใฝ่ภวงค์ เหมือนประสงค์จะสื่อสารผ่านสายตา แต่งได้เยี่ยมจริง ๆ ค่ะ ชอบบทสุดท้ายมากเลยค่ะ
9 มกราคม 2550 13:20 น. - comment id 644564
สวัสดีครับคุณเพียงกาล นวลคำนึงยังไม่ครึ่งของความเงียบ ใช่เปรยเปรียบไปส่งส่งให้นวลหลง หากแต่เสียงของความเงียบนั้นยืนยง อย่าพะวงจนหลงเสียงความเงียบเลย ขอบคุณสำหรับเพลงเพราะๆครับ ชื่อเพลงไรครับ??? อย่าลืมไปแปะเพลงบ้านเพียงกาลให้จบนะ รอฟังอยู่ครับ.. วันนี้ว่างป่าวน๊า...
9 มกราคม 2550 13:00 น. - comment id 644633
สวัสดีครับเป้.... เสียงความเงียบของแต่ละคนไม่เหมือนกันหรอกนะ เป้กลัวเสียงความเงียบของตัวเองหรือครับ?? แล้วเสียงที่ว่านั้น เคยให้คนอื่นได้ยินไหม??? ขอบคุณที่แวะมาครับ..
9 มกราคม 2550 13:04 น. - comment id 644635
สวัสดีครับคุณวิภาวดี ใช่ครับ..ยิ่งเงียบเท่าไรยิ่งได้ยิน ยินดีที่รู้จักครับ...
9 มกราคม 2550 13:09 น. - comment id 644637
สวัสดีครับน้องเฌอ หัวใจเต้นถี่ความดันจะขึ้นน๊า..อิ อิ... ตกลงนวลส่งนิลมาแทนแน่นะ??? ขอบคุณครับ
9 มกราคม 2550 13:13 น. - comment id 644638
เปล่าส่งมาน้า เค้ามาเอง อิอิ ไปเล่นซ่อนหากันสักชั่วโมงค่ะ
9 มกราคม 2550 13:25 น. - comment id 644642
สวัสดีครับคุณนางน้อย เจ็บปวดเงียบ..แปลว่าเจ็บปวดอยู่เพียงลำพังใช่ไหมครับ??? เป็นกำลังใจให้นะครับ...
9 มกราคม 2550 13:32 น. - comment id 644644
เจ้าหญิงน้อยๆ น้ำตาลหวานกว่าแน่นอนครับน้อง... พี่ชอบความเงียบมากๆ "เสียงของความเงียบ" เป็นนิทานของZENเรื่องนึง น้องรีเคยอ่านไหมครับ?? ทำงานให้สนุกทำร่างกายให้อบอุ่นด้วยนะ... ขอบคุณน้องสำหรับการ์ดปีใหม่และคำอวยพรด้วยครับ...ขอบคุณ...
9 มกราคม 2550 13:36 น. - comment id 644646
สวัสดีครับน้องตูน ขอบคุณในคำชมครับ...
9 มกราคม 2550 14:31 น. - comment id 644665
รีก็ชอบความเงียบเหมือนกันนะค่ะ แต่ขอ เป็นช่วงเวลาที่ใช้ความคิดค่ะที่จะเงียบ ๆ ได้ เพราะส่วนใหญ่รีจะฟังเพลงไปเรื่อย ๆ ไม่ค่อยจะเงียบสักเท่าไหร่ ฟังบ้าง ไม่ฟังบ้าง แต่ ก็เปิดเพลงเป็นเพื่อนค่ะ...... นิทานที่พี่ว่ารีไม่เคยอ่านหรอกค่ะ....เป็นอย่าง ไรค่ะ เล่าสั้น ๆ สักสองบรรทัดก็ได้......
9 มกราคม 2550 14:57 น. - comment id 644677
ความเงียบเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ครับ การฟังเพลง การได้ยินสรรพสำเนียงรอบตัวไม่ได้แปลว่าไม่เงียบนะครับ นิทานเรื่องนี้เป็นเรื่องของพระในนิกาน"เซน"ที่ประเทศญี่ปุ่นสองรูป เป็นปริศนาธรรมที่อาจารย์ถามศิษย์รูปหนึ่ง ให้ไปค้นหา"เสียงของความเงียบ" ลูกศิษย์ก็ค้นหาอยู่หลายวัน คิดว่าพบคำตอบก็กลับมาบอกอาจารย์ คำตอบที่พบก็อย่างเช่น เสียงหรีดหริ่งเรไรยามค่ำคืนบ้าง เสียงลมบ้าง เสียงใบไม้ไหวบ้าง เสียงน้ำไหลในลำธารบ้าง เสียงลมหายใจบ้าง เสียงของหัวใจบ้าง แต่ทุกคำตอบที่ได้มาหาใช่ไม่..... พี่ยังไม่บอกน้องนะครับว่าแล้วเสียงนั้นคืออะไร น้องรีว่าคำตอบน่าจะเป็นอะไรครับ??? นิทานเซนเรื่องนี้ไม่อาจจบในสองบรรทัดครับ ลองดูนะ อย่าเสียงานนะครับ...
9 มกราคม 2550 15:18 น. - comment id 644689
คำตอบในความคิดของรี รีว่าไม่น่าจะเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเราหรอกค่ะ แต่คิดว่าน่าจะเป็น "ใจ" ของเรามากกว่ามั้งค่ะ เพราะถ้าใจสงบนิ่งทุกสิ่งทุกอย่างก็จะไม่วุ่นวายค่ะ (ในความคิดของรีเท่านั้นนะค่ะ) เพราะรีไม่ทราบคำตอบจริง ๆ ค่ะ รีก็ไม่คิดว่าแค่สองบรรทัดจะได้เนื้อหาที่ครบเสียเมื่อไหร่ค่ะ ขนาดหนังสือที่รีอ่านแต่ละเล่มก็ไม่ต่ำ 200-300 หน้าแล้วค่ะ...... ปล.ไม่เสียงานหรอกค่ะ พักได้เป็นช่วง ๆ เพราะว่ามันคือตัวเลข ถ้าดันทุรังต่อไปก็ไม่ได้คำตอบอยู่ดีแหละค่ะ....
9 มกราคม 2550 15:36 น. - comment id 644696
มาพี่จะเล่านิทานต่อนะครับ วันสุดท้ายอาจารย์ก็ถามหาคำตอบจากลูกศิษย์ แต่เที่ยวนี้กลับไม่ได้รับคำตอบเหมือนแต่ก่อน ศิษย์ได้เพียงแต่สงบนิ่งไร้วาจา อาจารย์จึงกล่าวว่า " นี่ไงคือสิ่งที่เจ้าค้นหา" น้องสาวเก่งนะครับที่เข้าใจ ความเงียบไม่มีเสียงครับแต่ทำให้สรรพสิ่งนิ่ง เมื่อใจนิ่งก็ไม่ต้องไปค้นหา ดังนั้นเสียงของความเงียบจึงไร้เสียง แต่หากเมื่อไดใจนิ่งดีแล้วจะได้ยินครับ...เก่งครับ... ถ้าล้าๆเมื่อยตาก็ออกไปเดินหน่อยก็ดีนะ ดีแล้วครับคนเราไม่ควรดันทุรัง ทำงานให้สนุกนะครับ....
9 มกราคม 2550 16:23 น. - comment id 644729
ขอบคุณสำหรับนิทานนะค่ะ..... แล้วจะเข้ามาให้พี่เล่าให้ฟังอีกค่ะ เตรียมเรื่องไว้ให้น้องสาวด้วยนะค่ะ (ทั้งการ์ตูนและนิทาน ทั้งอ่านและก็ดูชอบพอ ๆ กันเลยค่ะ) ถูกด้วยหรือค่ะขนาดคิดในแนวความคิดของรีนะนี่......... ดูแลสุขภาพด้วยนะค่ะ..........