๏ หนาวน้ำค้างพร่างพรมมาห่มเนื้อ ปรุงกลิ่นเจือหอมบอกถึงดอกแก้ว ถวิลถามหมื่นดาวทุกพราวแพรว ว่าค่ำแล้ว..อุ่นไหมผู้ไกลตา ๏ ส่งคะนึงล่องปรายกับสายเสียง ครวญสำเนียงผ่านสรวงด้วยห่วงหา ผูกทำนองสร้อยคำวันอำลา ขอสัญญาจักทวน..เพียงนวลคอย ๏ กิ่งสะเดาท้ายเรือนคงเตือนอยู่ ใต้ลำพูแอบอิงแสงหิ่งห้อย พลิ้วผืนม่านหม่นจางจนพรางรอย ทุกเหลียวพลอยร่วมพร้องสู่กรองกานต์ ๏ ทานลมหนาว..กว่าหนาวในคราวนี้ แทรกราตรีเย็นเยียบทุกเงียบขาน เกลื่อนแห้งใบปลิดโรยลงโปรยลาน พร้อมหนึ่งจารถามห่วงจากห้วงใจ ๏ อยู่ไกลแสนแดนถิ่นหรือยินถึง เพลงรำพึงยามขับพร้อมหลับใหล ท่ามริบหรี่แสงเพียงตะเกียงไฟ เหมือนอกใครหม่นเศร้าด้วยเฝ้ารอ
24 มีนาคม 2549 08:28 น. - comment id 568209
๏ ทานลมหนาว..กว่าหนาวในคราวนี้ แทรกราตรีเย็นเหยียบทุกเงียบขาน เกลื่อนแห้งใบปลิดโรยลงโปรยลาน พร้อมหนึ่งจารถามห่วงจากห้วงใจ อ่านแล้ว จับใจยังไงบอกไม่ถูก อิอิ สงสัยเหมือนตัวเอง เลยขอยกมาวางไว้ ซักกะนิดนะครับ
24 มีนาคม 2549 10:24 น. - comment id 568210
ถึงเนื้อนวลนอนหนาวสกาวจิต พี่หาได้หยุดคิดถึงเจ้าไม่ แม้วันนี้เราต้องอยู่ห่างกันไกล แต่หัวใจก็มีเธอเสมอเอย
24 มีนาคม 2549 11:46 น. - comment id 568239
หนาวน้ำค้างพลางยินเพลงพิณแผ่ว ท่ามถิ่นแถวทุ่งร้างกลางคืนเหงา ผู้ใดเล่าร่ายเพลงพิณแผ่วเบา สื่อเสียงหม่นปนเศร้าหรือสุขใด รอบกายเงียบสงบอยู่อย่างนั้น ไร้แสงจันทร์ดาวเด่นจึงสุกใส ยลกลอนคล้ายได้ยินเสียงพิณไกว เห่กล่อมใครนะเจ้าเพรง.พเยีย แจมนะคับ
24 มีนาคม 2549 12:40 น. - comment id 568251
งานคุณสวยได้ใจไม่เคยเปลี่ยน มาด้วยใจระลึกถึงค่ะ..
24 มีนาคม 2549 12:56 น. - comment id 568256
น้องนาง เขียนได้งดงามถูกใจพี่ เดี๋ยวจะมาวางด้วย ๑. ลมคิมหันต์รุมร้อนเข้าย้อนอก จนสุดยกย่างหนีหลบลี้หาย แต่ปั้นปึ่งเนตรค้อนลอบย้อนชาย ร้อนยิ่งฉายโชนช่วง...เกินหน่วงแล้ว
24 มีนาคม 2549 13:19 น. - comment id 568262
เสียดาย ณยามนี้ มีแต่ร้อน ยากจะข่มตานอนวอนลมจ๋า ช่วยพัดผ่อนความเย็นไหวเอนมา อาบกายาก่อนจะไหม้เป็นไฟฟืน... อิอิ สวัสดีขอรับคุณเพรง.คนสวย กาแฟร้อนๆสักถ้วยไหมขอรับ
24 มีนาคม 2549 16:07 น. - comment id 568296
อกอะไรจะเหมือนอกที่รกรัก อกจะหักเสียด้วยใจอาลัยหา ไม่เห็นพักตร์รักดิ้นในวิญญาณ์ จะเป็นบ้าเสียเพราะรักสลักทรวง
24 มีนาคม 2549 16:37 น. - comment id 568309
รักบทเพลงรักภาพ งานงามค่ะ
24 มีนาคม 2549 19:21 น. - comment id 568352
ยอดเลย อ่านแล้วซึ้ง ตะลึง กรองคำมาเป็นอย่างดีแล้ว เปลี่ยนหลับไหลเป็นหลับใหลซักหน่อยไหมครับ ?
24 มีนาคม 2549 21:12 น. - comment id 568373
เพรง.พเยีย wrote: ๏ อยู่ไกลแสนแดนถิ่นหรือยินถึง เพลงรำพึงยามขับพร้อม[u]หลับไหล[/u] ท่ามริบหรี่แสงเพียงตะเกียงไฟ เหมือนอกใครหม่นเศร้าด้วยเฝ้ารอ -------------------- [b]หนาว[/b] -------------------- ๏ หนาวน้ำค้างพร่างพรายปลายยอดหญ้า ตามทิวนาต้นข้าวคราวแม่พ่อ หกคะเมนเล่นกันตะวันยอ เคยร้องขอจับเคียวเกี่ยวข้าวข้ามงาม ๏ จับด้ามเคียวเกี่ยวข้าวเมื่อคราวนั้น ลมเหมันต์ผ่านมาอุราหวาม เสียงพิณแคนแดนดินยลยินตาม ลมพัดข้ามท้องทุ่งจรุงใจ ๏ ดอกกระโดนด้นเก่าสกาวพรั่ง ดูเปล่งปลั่งดังฝันอันสดใส ดอกแคฝอยร้อยช่อต่อกันไป ข้างลอมข้าวกองใหญ่ในลานดิน ๏ หลังเก็บเกี่ยวเคี่ยวมัดจัดเป็นฟ่อน ตะวันรอนรวมหาบอาบไอกลิ่น ข้าวเม็ดงามหอมหวนชวนยลยิน บรรเลงพิณเพลงลูกทุ่งผดุงนา ๏ วันนี้ต้องจำจากพรากไกลห่าง เดินอีกทางสู่กรุงมุ่งสร้างค่า สู้ขายแรงในเมืองเพื่องเงินตรา อนิจจาถูกหลอกชอกช้ำทรวง ๏ อีกคนรักจากมาสัญญามั่น ก็มีอันเปลี่ยนใจมิใยห่วง อนาถนักรักจรตอนถูกลวง ทุกทั้งปวงถาโถมเข้าโรมรัน ๏ อยากจะกลับคืนนาข้าเคยอยู่ สุดอดสูยิ่งนักรักเหหัน เงินค่าแรงพอจ่ายเก็บไม่ทัน แสนหวาดหวั่นหนาวใจในนคร ---------------------- บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก ๒๔ มีนาคม ๒๕๔๙
24 มีนาคม 2549 22:31 น. - comment id 568391
แวะมาชื่นชมผลงานที่งาดงดเสมอค่ะ
25 มีนาคม 2549 06:09 น. - comment id 568411
๒. ฟ้าครามหมู่เมฆขาวใต้ราวฟ้า สกุณาส่งเสียงอยู่เพียงแผ่ว ลำตะวันสาดสรวงทุกช่วงแนว ส่งพราวแพรวโลมอาบทุกบาปบุญ ๓. เพียงครั้งคราวห้วงฝันชีวันหนึ่ง ความตราตรึงบรรจบแสนอบอุ่น กระแสธารเสน่หาได้การุญ เอื้อละมุนละไมหวาน...วาบผ่านใจ
25 มีนาคม 2549 06:35 น. - comment id 568412
๔. จึงครั้งนั้นไพจิตรนิมิตช่วง โลกทั้งปวงปรากฏความสดใส ถ้วนรสหวานกลิ่นหอมพะยอมใด เหมือนหลั่งไหลอบร่ำทุกค่ำคืน ๕. ดาวจะเลื่อนเดือนจะลับไม่รับรู้ เหลือเพียงผู้คะนึงหาเกินฝ่าฝืน โชติหมายอย่างแจ่มชัดทุกหยัดยืน จนยากกลืนกลบละมุนอบอุ่นนั้น
25 มีนาคม 2549 06:49 น. - comment id 568414
๖. เพียงคราวครั้งตรึงติดในจิตหนึ่ง ความคิดถึงบีบใจจนไหวหวั่น คมอาวรณ์เสียดชีพคอยบีบคั้น เกินบากบั่นก้าวถอยจากรอยกรรม
25 มีนาคม 2549 10:51 น. - comment id 568425
.....คุณปักษาวายุ บทที่ยกมา ชอบมากที่สุดเหมือนกันค่ะ ......คุณปราญ์ชเบอลิน สวัสดี และ ยินดีได้รู้จักค่ะ ......คุณ nig ยินดีที่แวะมาแจมค่ะ ......คุณผู้หญิงช่างฝัน ช่วงนี้ ไม่ค่อยเห็นเขียนกลอนมาลงเลย ระลึกถึงเช่นกันค่ะ ......ท่านเมจิคเชี่ยน บรรเทาอากาศอันแสนร้อนไงคะ น่านะ ร้อนจัดๆ ก็แค่ 2-3 เดือนเอง อาบน้ำ ทาแป้งเย็นๆ ซักเดี๋ยว เหงื่อก็ออกอีก อิอิ ......คุณดอกบัว ชอบชื่อจัง .....พี่พุด สวัสดีค่ะ พี่พุดสบายดีนะคะ
25 มีนาคม 2549 10:59 น. - comment id 568426
.....คุณครูใหญ่ ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำผิดที่แจ้งมา .....คุณนิพนธ์ เจอคำผิดแล้ว ขอบคุณนะคะ คุณนิพนธ์คะ code คำสั่งสำหรับเว็บนี้ ใช้เครื่องหมายวงเล็บ < แบบนี้ค่ะ .....คุณ Silky ขอบคุณค่ะ .....พี่สดายุ บทนี้นางเขียนจากความประทับใจหนังเรื่อง \"คู่กรรม\" ฉากที่อังศุมาลินกำลังเล่นขิมที่ริมชานเรื่อนในคืนหนึ่ง กับความคิดคำนึง และ ความห่วงใย ถึงวนัส ที่ไปเรียนต่อเมืองนอกขณะนั้น นางได้ยินเพลงที่บรรเลง แล้วรู้สึกชอบมาก จึงเขียนถ่ายทอดจากภาพในความทรงจำค่ะ นวนิยายเรื่องนี้ นางอ่านกี่ครั้ง ก็น้ำตาซึมทุกที รออ่านบทที่พี่กำลังเขียนอยู่ด้วยนะคะ
25 มีนาคม 2549 12:50 น. - comment id 568440
25 มีนาคม 2549 13:46 น. - comment id 568454
เรนก็เคย..เล่นขิม..ในงานของโรงเรียนด้วยนะคะ.. ตอนนั้น.. เรนถูกมองว่าเป็นตัวตลกด้วยดิคะ.... .. เรนขำไม่ออก.. ไม่กล้าลุกไปไหน.. เห็นภาพ.. ทำให้เรนนึกถึงตอนนั้นจัง.. หิวข้าว..ก็ไม่ได้กิน..ทรมานที่สุดในโลก.. ยิ้ม..และยิ้ม.. เพียงเพื่อ.. รางวัลของมี้.. ... เด็กดี..ที่เชื่อฟัง.. พี่นาง..เขียนบทกลอนได้ไพเราะ..มากเลยนะคะ.. ของพี่ชายสดายุ.. ก็เช่นกัน.. เป็นบทที่งดงาม.. และอ่อนโยนในความรู้สึกของเรนด้วยดิคะ.... เรน..คิดถึง..
25 มีนาคม 2549 19:19 น. - comment id 568499
หวัดดีอีกครั้งน้องนาง น้องเรน ๗. คือร่องรอยบริบทความสดชื่น มีรมย์รื่นขื่นครบให้อบร่ำ มีมดเท็จเจ็บแสบคอยแอบอำ มีสูงต่ำคุณค่า ในท่าที ๘. หวานเอยหวาน...ชายตอบอีกรอบแล้ว ส่งพร่างแพร้วเอ่อกมลแทบล้นปรี่ กลบอดีตกลืนยุคเคยคลุกคลี จนหมดที่หมดทาง....ระหว่างกัน
25 มีนาคม 2549 20:33 น. - comment id 568503
๙. ร้อยเป็นห่วงผ่านลมที่บ่มพัด หวังเลาะรัดบ่มยิ้มกลางคิมหันต์ งามเจ้าเหมือนแรงหน่วงจากช่วงบรรพ์ ให้มุ่งมั่นแต่เห็น...ไม่เว้นวาย ๑๐. เหมือนยูงงามรอแอ่นรำแพนหาง เห็นเยื้องย่างแต่ไกลแล้วใจหาย แววขนย่อมเหลื่อมค่าสู่ตาชาย สูงส่งในความหมาย...จนคล้ายไกล ๑๑. แต่เวียนอยู่ไม่ยั้งสักครั้งคิด จักมีสิทธิ์ถวิลหา...ก็หาไม่ เวียนครุ่นครวญก่อเกื้อสานเยื่อใย น้อยใจ..ใจ..เหนี่ยวรั้ง..ไม่ฟังกัน ๑๒. มาปองงามทรามสวาดิในชาตินี้ ควรหรือที่ฝ่าข้ามไปตามฝัน หิ่งห้อยหรืออาจแข่งกับแสงจันทร์ กี่ช่วงชั้นเล่าจะบินถึงถิ่นฟ้า
26 มีนาคม 2549 05:51 น. - comment id 568530
๑๓. เหมือนวับวาวรุ่งมณีเหลื่อมสีพร้อย ประดับรอยเนตรชวนคร่ำครวญหา ครั้ง...อัปสรล่อแก้วผ่านแววตา ให้ต้องตนยักษาจนอาวรณ์ ๑๔. จนสิ้นแรงร่วงร่างระหว่างสรรพ ยังระยับเนตรผกายเกินถ่ายถอน จะไล่โลมโฉมล้ำกลางอัมพร ยังเกรงร้อนฤทธีมณีพราย ๑๕. แต่นิลเนตรหนึ่งส่องมาต้องพี่ ยิ่งมณีอัปสรนั้นชอนฉาย ส่งวาววับสดใสจับใจชาย ชีพก็หมายยอมแล่งด้วยแสงนิล ๑๖. พินิจหน้านวลหนึ่งด้วยซึ้งซาบ หรือบุญบาปภพใดยังไม่สิ้น จึงตราเป็นเลศกลรอยมลทิน ให้เดือดดิ้นปฏิพัทธ์สุดทัดทาน ๑๗. แต่เฝ้าชมสมโฉมประโลมเนตร สร้างเงื่อนเหตุ/งดงาม/หอม/หวาม/หวาน ร้อยเรื่องราวในฝันแห่งวันวาร ได้เอ่อซ่านเอิบสายเริ่มว่ายวน
27 มีนาคม 2549 11:17 น. - comment id 568672
มาช้าดีกว่าไม่มา คอมฯผมเจ๊งไปสามวัน ซ่อมอารมณ์คนด้วย เผอิญผมไม่ได้เป็นกลางทางการเมือง ก็เลยเครียดมากหน่อยอะครับ เห็นที่กระทู้แล้ว ตั้งใจว่าจะเขียนกลอนมาแจม แต่ไม่รอดอะครับ ใช้ภาษาสวยๆแบบที่คุณ เพรง.เพยียใช้ไม่เป็น แต่ชอบอ่านมาก ชอบทั้งภาพ ทั้งภาษา ชอบที่คุณ สดายุ เขียนบทกลอนละเมียดละไม น่าอ่านมาก เขียนมาเรื่อยๆ นะครับ ผมตามอ่านเสมอๆ
28 มีนาคม 2549 21:19 น. - comment id 568981
.....คุณบินเดี่ยวฯ คงบินเดี่ยวอีกไม่นานแล้วแน่เลยค่ะ .....น้องเรน พี่เอง หลังจากดูหนังเรื่องนี้ ได้ฟังเพลงนี้ ก็เกิดอยากตีขิมเป็นขึ้นมาทันที เลยแอบไปเรียนเอาตอนโตจนทำงานแล้ว ไปสมัคร ก็บอกครูเลยว่ามาเรียนเพราะอยากจะเล่นเพลงนี้ ชื่อเพลง \"นางครวญ\" ที่ได้ยินในกระทู้นี้ไง แต่ครูไม่ยอมสอนจนกว่าจะผ่านขั้นพื้นฐานได้ เพราะถือเป็นเพลงเอกสำหรับเครื่องดนตรีขิม เกือบสองปี กว่าพี่จะผ่านขั้นพื้นฐานของครู และยอมสอนให้ น้องเรนได้เรียนเพลงนี้ด้วยหรือเปล่า ได้ตีออกงาน แสดงว่าตีเก่งสิจ๊ะ แล้วยังฝึกตีอยู่อีกหรือเปล่า พี่เองพักหลังไม่ค่อยได้จับไม้เลย เพลงอื่นๆ ลืมโน๊ตเกือบหมด ก็จะมีเพลงนี้แหล่ะ ที่ยังจำโน๊ตได้ขึ้นใจ แล้วแวะมาคุยกันอีกนะจ๊ะ .....พี่สดายุ ขอบคุณจากใจนะคะ สำหรับทุกอย่าง .....คุณร้อยแปดพันเก้า ไม่บอกก็รู้ ว่าคุณร้อยแปดอยู่ข้างไหน เหตุการณ์ตอนนี้ก็เครียดจริงๆ เพราะใกล้จะถึงวันที่ 2 เมษา แล้ว นี่ขนาดผลตัดสินเรื่องแปรรูปไฟฟ้าออกมาแบบนี้ ผู้นำบ้านเรายังหน้าชื่นตาบาน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะหวังให้ลาออก คงต้องเพ้อฝันพอๆ กับที่ ฝันรอให้พวกทุษจริตหมดไปจากเมืองไทยนั่นแหล่ะค่ะ นางไม่ชอบทักษิณ แต่ก็ไม่ได้ไปร่วมขบวนม๊อบ วันที่ 2 นางจะปั๊มช่อง ไม่ลงคะแนนค่ะ บทต่อไป ว่าจะลองเขียนแนวการเมืองดูบ้าง ไม่รู้จะเขียนรอดหรือเปล่า