กาลเวลา ผ่านไปดัง สายน้ำ ความชอกช้ำ ไหลรินร่วง กับห้วงเหว ใจดวงน้อย ลอยไป ฝ่าแดดเปลว ดีหรือเลว...ลาลับไป...กับสายลม หากที่เหลือ ยังมิเป็น เช่นสายน้ำ คือความจริง ที่ตอกย้ำ ความขื่นขม หากขอได้...ให้ทุกข์หาย พร้อมสายลม ขอเธอพบ เพียงรื่นรมย์ ชั่วชีวิน ฉันก็ยัง คงเป็น เช่นตัวฉัน ไม่มีวัน ย้อนลับ กับกระสินธุ์ สายลมแว่ว แผ่วผ่านไป ได้ยลยิน ชั่วชีวิน..ไม่ตอกย้ำ..ความเป็นเรา.. ความเป็นเรา...เราเป็นความ...ตามใจเถิด ทุกสิ่งมี...บ่อเกิด...แห่งความเขลา โง่ก็รู้....รู้ก่อนโง่.....โอ้คนเรา เรียนรู้เขา...เพื่อเป็นเรา...อีกเนานาน จริงสินะ ความโง่ เราโง่ก่อน ไม่อาจย้อน กาลเวลา มาผสาน ได้แต่เก็บ บทเรียนไว้ เป็นตำนาน หยุดซมซาน บทเรียนรัก หักอกคน หวังเพียงพ้น ความเจ็บปวด ที่รวดร้าว พ้นความหนาว ที่รุมเร้า จนสับสน พ้นความฝัน ลวงตา พร่าวกวน หนีให้พ้น ใครบางคน ที่เคยรัก หนีอะไร ก็หนีได้...ไม่เย็นยาก แต่หนีจาก ตัวเอง เกรงจะหนัก หลอกตัวเอง ว่าสิ้นไป ในใยรัก มีเพียงตัว ที่ประจักษ์ อยู่กับใจ รู้ทั้งรู้........ว่าหนียากแม้อยากหนี รู้ทั้งรู้........ว่าชีวีโดนผลักไส รู้ทั้งรู้........ว่าต้องปรับกับดวงใจ รู้ทั้งรู้........เขาสิ้นใยไม่หวนคืน แต่จะให้...ต้องลืมเขาเดาไม่ยาก แต่จะให้...ยอมลำบากมิขัดขืน แต่จะให้...ทุกข์เข้าซ้ำทนกล้ำกลืน แต่จะให้...ลืมลืมลืม ลืมไม่ลง ลืม.........ยิ่งลืม ยิ่งย้ำ จำขึ้นจิต ลืม.........ยิ่งคิด ยิ่งพันพัว ยิ่งมัวหลง ไม่..........บังคับ ขอเพียงให้ ใจซื่อตรง ลง.........ไม่ลง...คงมี ทางที่ไป ต่อให้รู้...ว่ายากจะจากพ้น ต่อให้รู้...ก็กังวลจนหวั่นไหว ต่อให้รู้...ว่าเขาเบื่อไร้เยื่อใย ต่อให้รู้...ยากตัดใจ..หากไม่ลืม หรือจะเป็น เช่นกรรม เคยทำไว้ เขาจึงได้ ลวงหลอก บอกให้ปลื้ม แล้วจึงได้ หักอก จนยากลืม ด้วยเผลอดื่ม น้ำผึ้งขม จึงตรมทรวง ถ้าหากเป็น เช่นนั้น ฉันยอมแพ้ ไม่อาจแก้ พรหมลิขิต ที่ใหญ่หลวง ไม่โทษเขา ว่าเรา ต้องลมลวง แม้ช้ำทรวง..อวยพรให้..ไม่เศร้าใจ หากเชื่อว่า ด้วยบุญนำ และกรรมแต่ง จะเชื่อใน น้ำแรง แห่งรักไหม รักสามารถ ดลจิต พิชิตใจ ให้หัวเราะ และร้องไห้ ได้คราวเดียว คิดเสียว่า เป็นเรื่องดี ที่ประสบ ครั้งหนึ่งพบ คนห่วงใย ให้แลเหลียว ครั้งหนึ่งที่ มีรักชม เคยกลมเกลียว แม้เพียงเสี้ยว เวลา...น่ายินดี เป็นมนุษย์สุด ประเสริฐ ในเลิศหล้า เพราะชะตา แสนเศร้า เราหลีกหนี ด้วยกระทำ คุณค่า แห่งความดี ทุกชีวี หลีกหนีกรรม ด้วยนำใจ เมื่อลงมือ ลงแรง ด้วยแรงรัก ความดีจัก โน้มนำ ทำจิตใส บางคราหัวเราะ บางครา อาจร้องไห้ แต่ชื่นใจ ด้วยความดี ที่เหลียวแล อาจจะสุข หรือทุกข์บ้าง หว่างชีวิต อาจถูกผิด ต้องรั้งรอ อย่าท้อแท้ ฟ้าหลังฝน งามงด จดดวงแด ไม่มีใคร เป็นผู้แพ้ ไปทุกคราว คือความใน จากใจ ของสายรุ้ง หวังผดุง ความแจ่มใส ในห้วงหาว หวังเพียงเห็น ฟ้ายิ้มแย้ม แข่งแสงดาว จึงร่ายเป็น เรื่องราว...วันร้าวราน
11 กันยายน 2548 08:34 น. - comment id 514117
แวะเวียนมาเป็นกำลังใจให้ก็แล้วกันนะครับผม
11 กันยายน 2548 09:24 น. - comment id 514122
เคยผ่านความรู้สึก แบบนั้นมาแล้ว เรียกมันว่า *ซมซาน* แทบขาดใจเลยทีเดียว แต่วันนี้ โผบินสู่ฟ้าใสใสด้วยใจสวย เกลื่อนด้วยรอยยิ้มพริ้มหวาน สิ้นโศกร้างหมองครองมานาน ขอล่าฝัน...บินผงาด....ด้วยอาจอง บินขึ้นฟ้า ฝ่าไป ด้วยใจมั่น แม้นฟ้ากว้างกางกั้นมิพลัดหลง เปี่ยมด้วยหวัง ด้วยพลัง ทรนง สักวันคงพบฝัน ตะวันสีทอง
11 กันยายน 2548 09:52 น. - comment id 514126
เนื้อดินดีเพาะพืชพันธุ์เนื้อใจนั้นเพาะความดี ..... นั่งโดดเดี่ยวเปลี่ยวใจริมทะเลกว้าง โลกอ้างว้างร้างไร้ใจสลาย ขอบฟ้าไกลน้ำจรดฟ้ายิ่งเดียวดาย ใจสลายคล้ายเศษแก้วแล้วนะใจ... ก้มลงกอบหัวใจหวังคืนกลับ เศษแก้วยับกับธุลีที่ร้าวไหว หยาดน้ำตาราวหยาดฝนตกต้องใจ หยาดเลือดไหลไหวสะเทือนเตือนเจ็บจำ.. ใจดวงงามนิ่งงันกับฝันร้าย โลกสลายหายวับรับรอยช้ำ ใจดวงหวานรานร้าวทุกข์ระกำ จนบอบช้ำย้ำรอยแผลแพ้ทั้งใจ... ทรุดกายลงแหงนวอนฟ้าท้าลมฝน พระเบื้องบนทอดทิ้งลูกฤาไฉน ร่างทั้งร่างทั้งเลือดเนื้อและหัวใจ ท่านใช่ไหมรู้ดีที่เป็นมา.. ก้มลงกราบกินดินทรายขอหมายมาด กี่ภพชาติให้ลูกพ้นพิพากษา จากคำคนผู้ไม่รู้ไม่เห็นในวิญญาญ์ ลูกเหว่ว้าหาทางธรรมน้อมนำใจ.. สวดขอพรกี่พันครั้งหาทางออก ลบช้ำชอกสร้างพลังเริ่มหวังใหม่ ลืมเงาเศร้าลบรอยร้าว เคี่ยว..เนื้อใจ.. หวังหว่านไถเพาะพืชพันธุ์สร้างฝันดีมอบโลกงาม
11 กันยายน 2548 09:54 น. - comment id 514128
ลืม.....ให้สิ้นซาก ฉันยกหูโทรศัพท์ แล้ววางลง เป็นครั้งที่เท่าไร จำไม่ได้เลย รู้แต่ว่าวางลง โดยที่ไม่..แม้แต่ จะกดเลขหมาย ซึ่งจำได้อย่างแม่นยำ ไม่น่าเชื่อเลยว่า.....ใจของฉันจะสับสน ได้ถึงเพียงนี้.... หลายปีมาแล้ว..ที่ฉันจะต้องโทรถึงคุณ ในวันนี้ เดือนนี้ เพื่อ อวยพรวันเกิดให้คุณ นอกเหนือจากความปรารถนาดีที่อยากให้คุณ มีความสุขมากที่สุดแล้ว ฉันก็อยากให้คุณรู้ว่า ฉันยังคงคิดถึงและรักคุณเสมอมา....นะคนดี ทุกปีเช่นกันที่เสียงคุณจะตื่นเต้น ดีใจ ไม่เปลี่ยนแปลง คุณคงดีใจและแสนภูมิใจ ที่ยังมีผู้หญิงคนนี้ ยังคงโง่งม..เฝ้าหลงรัก หลงคอย โดยรู้ว่า..ไม่..แม้แต่จะได้พบกัน ไม่..แม้เพียงรอสบตา..หาคำตอบ.. ฉัน..เคยบอกคุณว่า..อยากพบคุณสักครั้ง ก่อนที่จะตัดใจ เดินไปจากชีวิตคุณแบบไม่ค้างคา ไม่ไยดี ไม่หวนไห้ คิดถึง รำพึงรำพัน ถึงคืนวันเก่าก่อนที่แสนดีมีค่า ในความทรงจำรำลึก ของเราอีกต่อไป ฉันยินดีจะไปเสียทีอย่างที่ลูกผู้หญิงที่ยังมีศักดิ์ศรี ควรจะยอมรับความจริง... ว่า...โลกนี้ ไม่เหลือเยื่อใย ต่อไปอีกแล้ว ระหว่างเรา และไม่เหลือแม้คำว่าคิดถึงและห่วงใย ที่จะเกาะเกี่ยวให้ดวงใจ ช้ำทุกข์ตรมอีกยาวยืน........... ฉันแค่อยากนั่งตรงหน้าคุณ มองตาคุณตรงๆ และขอถามคุณ เพียงคำถามเดียว แม้กายใจอยากจะโผ เข้าหาอ้อมกอดคุณที่เคยแนบแน่น เร่าร้อนรุนแรงอย่างที่เคยเป็น ด้วยแรงรักแรงคิดถึง นานเนาของการพรากจากมานับเป็นสิบปี คำถามเดียวนี้ ที่ต้องการแค่คำตอบเดียว เท่านั้นกลับมา ที่ฉันได้เตรียมใจ พร้อมรับฟัง คำพิพากษา และพร้อมจะกล่าวคำลา ไปจากคุณทั้งในโลกนี้ และโลกหน้า ไม่ให้ตามติดทั้งกายและจิตวิญญาณ แบบขอกรวดน้ำ คว่ำขัน แก่กันนะคนดี ในดวงใจ ที่ไม่อยากพบเจออีกแล้วไม่ว่าชาตินี้ชาติไหนระหว่างเรา คำถามหนึ่งเดียวในใจดวงนี้ ของลูกผู้หญิงคนหนึ่งคนนี้ ที่เคยเททุ่มทอดใจ พลีให้ อย่างหมดจิตหมดใจ คำถามมีว่า...ในใจคุณนั้น เคยมีฉันอยู่บ้างไหม แบบผู้หญิงคนพิเศษ.. เหมือนดังใจฉัน ที่แอบซุกซ่อนคุณไว้ เป็นหนึ่งเดียวในใจ มิรู้เลือนลืม... แต่มาวันนี้...แปลกสิ้นดี ที่แม้อยากจะถามคุณมากสักเพียงใด ฉันก็ไม่ต้องการ แกล้งโง่ หลอกตัวเองให้หลงรอคำตอบ..ต่อไปอีกแล้ว... ดวงตาฉันใส ดวงใจฉันสว่าง เพราะฉันฉลาดขึ้น และหาคำตอบนั้น ให้ใจตัวเองพบแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องถามคุณเลย... ระหว่างเรานั้น ถ้าฉันไม่หลอกตัวเองมานานนับสิบปี แบบคนที่งมงายอยู่กับโลกแห่งความฝัน ฉันก็น่าจะรู้ว่า มันจบกันไปนานแล้ว ... คำตอบนั้น มันอยู่ที่ตรงนี้ต่างหาก ตรง ที่..ใจของฉันเอง ..ใช่เธอ! คำๆเดียวที่ง่ายๆสั้นๆ.ตรงไปตรงมา ตรงใจ ...อย่างที่สุด.. เพียงถ้ามีปัญญาและเปิดใจยอมรับ.. คำนั้นคือคำว่า....ลืม!.............ลืม........... ลืมเสียเถิด อย่าคิดถึง!........ และ..ลืม!........เถิดนะว่า ...เราเคยรู้จักกัน...และ ระหว่างเรานั้น.......สวย...ที่สุด ถ้าจะ..จบสิ้นกัน.... ด้วยคำๆนี้ .... ลืมเสียที..... ลืมทุกสิ่ง.... ให้สิ้นซาก....จากนี้ไป...จนวันตาย
11 กันยายน 2548 11:53 น. - comment id 514152
แวะมาปลอบใจค่า อิอิ เก็บสายรุ้งเส้นฝันวันฟ้าใส มาอิงแอบแนบใจให้ใฝ่ฝัน เธอเหน็บหนาวร้าวเรื่องอะไรกัน หากไหวหวั่นก็เพียงวันแล้วผ่านไป อย่าจ่อมจมขมขื่นสะอื่นร่ำ กับรอยช้ำครั้งเก่าในเงาไหม้ ฉันยังอยู่ตรงนี้ให้พิงใจ เป็นเพื่อนเธอนี่ไงอย่าเศร้าเลย..
11 กันยายน 2548 13:43 น. - comment id 514183
รู้ทั้งรู้ว่ารักเขาเราจะเจ็บ มิอาจเก็บอาการใจให้รักหลง ผลได้รับคือหมองหม่นจนต้องปลง อยากสาบส่งความรักที่หนักใจ....
12 กันยายน 2548 01:55 น. - comment id 514313
คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ ขอบคุณที่แวะเวียนมาให้กำลังใจครับ คุณศรีวิจิตรา เห็นด้วยกับความรู้สึกที่ว่า แต่ก่อนจะทำ..ต้องตัดใจก่อน..ในกลอนจึงมารำพึงรำพันเฉยๆ ณ วันนี้ มีฝัน อันสวยสด จึงของด ความเศร้า ที่เฝ้าหา จะขอบิน ฝ่าไป ในฟากฟ้า กางปีกอ้า เหิรลม ไม่ตรมใจ ท้องฟ้ากว้าง กางกั้น นั้นสีฟ้า มีดารา มีตะวัน วันสดใส มีเมฆรับ สีรุ้ง ปรุงเมฆใจ ที่ฝันใฝ่ คือใจสงบ พบทางธรรม
12 กันยายน 2548 02:10 น. - comment id 514314
คุณพุดครับ กลอนนี้เป็นเรื่องของการตัดใจบอกลา...ใครบางคน... มีมิ่งมิตรมาตอบกลอน...ปลอบใจ...ให้คลายเหงา เรื่องใดใดในโลกล้วนแต่ผันแปรไม่แน่นอน ขอบคุณในความห่วงใย.... คำว่า \" ลืม\" เป็นคำที่สั้นๆง่ายๆ แต่ทำยาก... แต่ไม่ต้องห่วงครับ... \"เมฆา\" นั้นเป็นคล้ายหมอกควันที่บางเบา...ไม่ยึดติด ขอฝากกลอนไว้ครับ... ร่ายลำนำ..เป็นคำกลอนตอนพลัดพราก รู้ว่ายากจะหักใจที่ขื่นขม แต่สามารถตัดใจไม่ตรอมตรม เพราะอารมณ์มุ่งมั่นฝันในธรรม พิจารณาลมหายใจทั้งเข้าออก จิตตื่นบอกตัดใจไม่ถลำ พุทธคุณรำลึกไว้ใจโน้มนำ โลกธรรมทั้งแปดไซร้ไม่นำพา ก็มีบ้างบางครั้งยั้งไม่อยู่ จิตแวบสู่เรื่องราวร้าวทรวงหนา จึงเสกสรรถ้อยคำจำนรรจา จงถือว่าเป็นเรื่องเล่าต้องเข้าใจ ก่อนจะนอนไหว้พระละทางโลก คลายจิตโศกคลายเศร้าทำจิตใส มรณานุสติประจำเข้าทำใจ ประดุจตายทุกวันมั่นทุกคืน พิจารณาเรื่องราวทุกเช้าค่ำ เหตุใดนำเหตุใดสร้างมิอาจฝืน บุญกุศลผลกรรมสนองคืน จิตจึงตื่นรับรู้ผลของกล...กรรม ขอบคุณอีกครั้งสำหรับ...ความเป็นห่วง...
12 กันยายน 2548 02:31 น. - comment id 514315
คุณชลกานต์ ขอขอบคุณที่รักของสายน้ำ ปลอบความช้ำที่ผ่านไปเกินใจฝัน เป็นเรื่องเก่าหนาวเหน็บเก็บนานวัน จึงสะบั้นสายใยในวันวาน ความไหวหวั่นวารวันผ่านไปแล้ว จิตจึงแผ้วผ่องใสให้ขับขาน ร่ายอักษรวอนมิตรใจในกลอนกานท์ สุขสำราญ..ให้เธอเห็น..เป็นเกลอกัน ขอบคุณที่แวะมาปลอบใจครับ... คุณคนทะเล รู้แล้วว่า รักเขาเราจะเจ็บ มันหนาวเหน็บ เกินยั้งใจความใหลหลง ผลตอบแทน คือหมองไหม้ใจจึงปลง ไม่ลุ่มหลง ในใยรักหักใจลา...
12 กันยายน 2548 08:21 น. - comment id 514335
แวะมาทักทายครับ อย่างน้อยตอนนี้ก้อต้องชนะใจตัวเองก่อนล่ะ ขอให้เป็นผู้ชนะในเร็ววันนะครับ
12 กันยายน 2548 12:48 น. - comment id 514408
ไพเราะสวยงามค่ะ
12 กันยายน 2548 23:59 น. - comment id 514596
คุณกุ้งก้าม ขอบคุณที่แวะมาทักทาย ขอบคุณสำหรับคำเตือนและคำอวยพรครับ.. คุณลมรำเพย ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียน ขอบคุณสำหรับคำชมครับ
14 กันยายน 2548 11:40 น. - comment id 515104
15 กันยายน 2548 23:19 น. - comment id 515843
สายน้ำไม่ไหลกลับ ลับหาย สายลมพัดผ่านเพียงกาย ให้อุ่น สายใยต่อเติมฝัน วันละมุน สายสัมพันธ์เคยคุ้น ยิ่งยากลืม อยากลืม ยิ่งจำ อยากจำ กลับลืม .....
18 กันยายน 2548 10:44 น. - comment id 516500
ตัดใจเสียเถอะท่านไฟใต้ฟ้า