...กาพย์ห่อกลอน ความในใจครั้งอำลาคำสัญญาคราลาไกล ระยะทางพิสูจน์ใจพบกันใหม่พิสูจน์คน ๑จำได้ไหมในวันที่ฝันดับ แดดพยับร้อนฉ่าดั่งห่าฝน ความเป็นเธอมาปรากฏ ณ บัดดล คลายทุกข์เคยท้อทนของคนแพ้ ๒น้ำใจที่มีให้ใจไหม้ช้ำ สมบูรณ์ล้ำฉ่ำใสไล้รอยแผล หัวใจหนึ่งยังซึ้งซ่านทั้งดาลแด ไร้รักเธอยังยากแท้จะรอดมา ๓จึงผูกสร้อยร้อยกวีนี้มามอบ ขอบคุณเธอที่ปลุกปลอบยามปวดปร่า ยินดีนักมีรักเธอมาพันธนา เป็นของขวัญชั้นฟ้าอันพร่าพราย ๔แม้วันนั้นผันผ่านมานานนัก แต่ความรักแรกเอ่ยมิเคยหาย ฝันไหนจักตกพลัดกระจัดกระจาย แต่เธอยังพริ้งพรายทุกหมายรอ ๕ทุกการรอขอร้องอย่าหมองหม่น มิอาจทนคนดีพี่ร้องขอ น้ำในตาแต่ละหยดที่รดออ อย่าร้องไห้กับการรอพี่ขอร้อง ๖หอมเอยหอมดอกโบตั๋น ในความเงียบงันอันหม่นหมอง ประคองแก้มแฉล้มเนื้อนวลลออง ตระคองหวังยังรังรองอย่าร้องเลย ๗เด็ดดอกไม้ดอกหนึ่งมาพึงปลอบ จากข่ายขอบมอบความนัยจากใจเผย แม้มิอาจเอ่ยอ้างอย่างที่เคย วอนอย่าได้เมินเฉยเคยผูกพันธ์ ๘อยากดูแลหัวใจไม่ให้ห่าง เพราะกลัวรักจักจางเพราะห่างนั้น อยากใกล้กายเหมือนใจเราใกล้กัน อยากได้นอน...เสพย์ฝันกันทั้งคืน ๙มันคือหนึ่งดาวชื่นในคืนหนาว ทั้งที่ทุกย่างก้าวยังขมขื่น มันคือฟืนไฟฝันแห่งวันคืน ทั้งที่ดาวดวงอื่นกระจัดกระจาย ๑๐ในความมืดยืดยาวช่างหนาวสั่น แต่ทุกความเชื่อมั่น บ่จางหาย แม้ภาระพะรุงพะรังไปทั้งกาย เธอก็ไม่เคยหล่นหายก่อนปลายทาง ๑๑ให้ความเงียบความเหงาอันสร้อยเศร้า ผลิพลังปลุกเร้ายามเราห่าง ให้ภาพหลอนที่ลอยเลื่อนอยู่เลือนลาง ผลิพลังปลุกสร้างกำลังใจ ๑๒จับมือกันให้มั่นกว่าวันก่อน ก่อนจะจรจำลาไปฟ้าไหน คำสัญญาจักจำมั่นนิรันดร์ใจ กาลผ่านไปให้พิสูจน์คำพูดรัก ๑๓ทุกคำของคำพูดพิสูจน์สิ้น ใช่แค่ลิ้นลงคำเป็นจำหลัก ใช่ใช้เล่ห์ล่อลวงให้หลงรัก ความเป็นไปจักประจักษ์พิสูจน์ใจ ๑๔ทั้งสมองสองมือยังมุ่งมั่น ทั้งหัวใจยังสั่นทุกหวั่นไหว วันทั้งวันปีทั้งปียังดีใจ ที่ได้จุดเปลวไฟในใจเธอ ๑๕นี่คือความในใจครั้งสุดท้าย ที่เขียนถ้อยร้อยรายหมายเสนอ ทุกคำพูดหมายพิสูจน์พูดหรือเพ้อ อยู่ที่กาลได้เจอ คราวต่อไป ความในใจครั้งอำลา...คำสัญญาคราลาไกล ระยะทางพิสูจน์ใจ...พบกันใหม่พิสูจน์คน ------------------------------------------------ พระอาทิตย์ที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๔๘
17 เมษายน 2548 13:28 น. - comment id 454577
สมสุติว่าถ้าวันลาจะมาถึง ขอร้อยรึงฝากไว้ในปรารถนา พี่ขอเรียกว่ากาพย์ห่อกลอนลา เปิดออกอ่านเถิดกานดาก่อนลาจร
17 เมษายน 2548 13:48 น. - comment id 454585
ร่องรอยรู้สึกบาดลึกเกินใดเปรียบ มิอาจเทียบความเจ็บจากแห่งไหน ก่อนจากลาน้ำตาหนอห่อดวงใจ รดกลางใจของเธอคนดี
17 เมษายน 2548 13:50 น. - comment id 454587
เฮ้อ กลอนลา ความหมายดีนัก...
17 เมษายน 2548 14:01 น. - comment id 454598
ขอให้เธอได้อ่านสมปราถนาคุณนะครับ แก้วประเสริฐ.
17 เมษายน 2548 14:02 น. - comment id 454599
ดอกลาเวนเดอร์ ชูช่อ รัก แห่ง การรอคอย เวียนร่ำ กรุ่นกลิ่นยังฝัง ย้ำจำ รอยรักครั้งหลัง ย้ำเตือน แวะมาทักทายจ้า P_poet
17 เมษายน 2548 14:24 น. - comment id 454610
= = = = = = = = = = = = = = = = อ่านกาพย์ห่อกลอนลาน้ำตาร่วง ใจหนึ่งดวงปวดปร่าและพร่าไหว อยากยื้อฉุดวันจำพรากลาจากไกล แต่หัวใจรวยระรินสิ้นเรี่ยวแรง = = = = = = = = = = = = = = = = อ่านจบ.. กานดาของคุณคงแทบขาดใจค่ะ
17 เมษายน 2548 15:53 น. - comment id 454649
** อ่านกลอนลาพาใจให้ไหวหวั่น คงถึงวันที่ต้องจากพรากแล้วหนอ แม้นกายห่างร้างไกลใจคงรอ เฝ้าพะนอจำจากลาด้วยอาลัย งามดวงดาวพราวพร่างกลางฟากฟ้า ดาริกาส่องแสงแรงไฉน หากน้ำตาไหลหลั่งทั้งทรวงใน ดั่งดวงใจหายลับดับลงพลัน โอ้วันนี้คงไม่มีเธออีกแล้ว ขอดวงแก้วสง่างามในความฝัน ความรู้สึกสัมผัสได้ที่ใจกัน สื่อสัมพันธ์ด้วยรักจักมิวาย แม้นเวลาผันผ่านมานานนัก ยังคงรักคนดีมิห่างหาย บุญเราสองครองอยู่คู่ใจกาย โลกมลายใจคงภักดิ์รักนิรันดร์.....ฯ บทกลอนให้ความรู้สึกที่ดีมาก...ราชิกา..อ่านแล้วก็..อิน....ลองสมมุตืว่า...มีคนมาลาจากไป..เราจะรู้สึกอย่างไร?...เข้าใจเลยค่ะ.ว่าเป็นอย่างไร..เศร้าอ่ะนะ..!!!.จึงเขียนกลอนแจมไป...น้องแทน เขียนได้ดีมากจ๊ะ...
17 เมษายน 2548 16:37 น. - comment id 454678
คำลา ..กว่าจะกลั่นกรองถ้อยคำออกมาลำบากนัก... แต่การกล่าวกับใครสักคน ยากเย็นยิ่ง..จนบางคนเดินจากไป โดยไม่มีคำลาสักคำ เหลือแต่ความอาลัยทิ้งไว้เบื้องหลัง.. ...
17 เมษายน 2548 17:01 น. - comment id 454690
เตรียมคำนี้ไว้นานแล้วเช่นกันค่ะ แต่ยังไม่กล้าที่จะเอ่ย .
17 เมษายน 2548 18:17 น. - comment id 454721
เห็นด้วยกับคุณกุ้งหนามแดงค่ะ บางครั้งคนเราก็จากกันโดยไม่มีการร่ำลา เศร้าค่ะ
17 เมษายน 2548 18:26 น. - comment id 454732
เสมอ ... จะมีเธออยู่ในดวงใจฉัน มิตรภาพก่อนเก่าของเรานั้น คืนวันมิอาจย่ำทำลาย อ่านงานคุณแล้ว .. นึกถึง ท่อนหนึ่ง จากงานของนักเขียนในดวงใจ ... เศร้า .. แต่อ่านแล้วอบอุ่น .. จังค่ะ ..
17 เมษายน 2548 18:37 น. - comment id 454747
ผมว่าน่าจะเป็นกลอนห่อกาพย์ เพราะกลอนมากกว่ากาพย์ ลาไปมิไกลลับ คงคืนกลับหวนมาหา จำมั่นคำสัญญา รักษาใจไว้ให้ดี
17 เมษายน 2548 21:47 น. - comment id 454849
เห็นกลอนบอกมาว่าลา ปวดใจจังเลยค่ะ อย่าลาไกลนะคะ
18 เมษายน 2548 10:54 น. - comment id 455056
ยอดเยี่ยม ถ้าเราเป็นสาวที่จะลา อ่านแล้วโผเข้าหาลาไม่ลง อิอิ
18 เมษายน 2548 13:35 น. - comment id 455198
มาเอ่ยปากบอกลาก่อนขอจรแล้ว โอ้ดวงแก้วพี่จ๋าน้องน้ำตาไหล ดูทีฤาพี่แทนของน้องแก้วนีดาคนไกล มาบอก ออกปากลาไกลใจขาดรอน เจ็บเอ่ยเจ็บที่ตรงดวงจิต ด้วยพี่แทนมาคิดทอดทิ้งได้ ดูทีหรือพี่ชายคนใจร้ายทำลายใจ น้องน้อยต้องนอนร้องไห้น้ำตาริน ถ้าแม้หมดรักกันแล้วก็ไปเถอะ ไม่ขอฉุดให้พี่หยุดลงที่ตรงนี้ เพราะด้วยรู้ตัวของน้องน้อยดี ว่าพี่แทนคนนี้ยังมีงานใหม่ให้ต้องทำ ไปเถอะนะไป..พี่ชายคนดี เดินทางด้วยใจขอให้โชคดีนะพี่ ถ้าวันใดพี่ชายคนนี้ต้องหมองศรี ขอให้คิดถึงน้องน้อยคนนี้นะพี่ชาย อิอิอิ.........คิดอะไรนะพี่แทน........มาแซวเล่นนะจ๊ะ.........ว่าแต่พี่แทนจะมาลากันไปไหน........เค้าไม่ยอมนะจะบอกให้.........ไม่ให้ไป.......ไม่ให้ไปนะจะบอกให้.......อิอิอิ.........ไม่เชื่อถามเพื่อนๆในบ้านกลอนดูสิว่าใครจะให้พี่แทนไปบ้างละ.......ไม่มีนะพี่แทน........ ไม่ให้ไปไหนนะ.........ไม่ให้ไปนะ.....
18 เมษายน 2548 18:18 น. - comment id 455391
เขียนได้สมคำ เชื่อแล้วล่ะว่าตั้งใจจริง ๆ งานงาม ซ่านซึ้ง ตรึงใจค่ะ ...
18 เมษายน 2548 18:39 น. - comment id 455396
แปะ แปะ (ปรบมือ)
18 เมษายน 2548 21:17 น. - comment id 455475
ัเข้าสวัสดีคุณแทนไท ไหงรีบกล่าวคำลากันล่ะคะ
18 เมษายน 2548 22:02 น. - comment id 455502
คุณจะอยู่ในความรู้สึก จะเป็นเพื่อนที่คิดนึกถึงเสมอ คุณจะอยู่ในความทรงจำอันเลิศเลอ และจะมีชื่อคุณเสมอในหัวใจ *-*กลอนไพเราะมากเลยค่ะ ชื่นชมในผลงานเสมอนะค่ะ*-*
19 เมษายน 2548 10:58 น. - comment id 455754
เช้านี้เศร้าอย่างไนไม่รู้ มาพบกลอนลาอีก ยิ่งหม่นหมอง ยุ่งนิดหน่อยค่ะช่วงนี้ ทักทายช้าไปนิด ไม่ว่ากันนะคะ สวัสดีค่ะ
19 เมษายน 2548 11:37 น. - comment id 455768
ความผูกพันลั่นร้องดังฆ้องโหม่ง ความเกี่ยวโยงยึดจิดติดถวิล ความอาลัยรุกกโรมโถมชีวิน ความเหงารินโรยทั่วถึงหัวใจ น้ำตาพรากพรั่งพรูฝังอยู่ลึก แสนระทึกตรึกสั่นจนหวั่นไหว ความระทมข่มขับไม่หลับไป ความหม่นไหม้หมองเศร้าจึงเข้าเยือน ความพลัดพรากจากกันนั้นมีแล้ว ความแห้งแห้วโหยหาเคยมาเฉือน ความเป็นจริงยิ่งคิดไม่บิดเบือน คอยย้ำเตือนแต่ไหนแต่ไรมา ความรักล้นดลดาลให้หวานชื่น ยามเป็นอื่นอกเอี่ยมก็เกรียมหนา ย่อมหวั่นไหวในลานกาลเวลา อนิจจาลาแล้วคลาดแคล้วกัน
23 เมษายน 2548 14:57 น. - comment id 459105
คุณแม่จิตรครับ... ก่อนจากลาน้ำตาห่อดวงใจ หวังฝากถ้อยคำไว้แทนไมตรี ถ้าวันหนึ่งวันนั้นอาจได้มี จะกลับมาหาคนดีที่พี่รัก
23 เมษายน 2548 14:58 น. - comment id 459106
น้องลอยไปลอยมา... ขอบคุณครับ สมมุติใจว่าถ้าถึงวันลาจะบอกความปรารถนาเธอว่าอย่างไร สบายดีนะครับ
23 เมษายน 2548 14:59 น. - comment id 459107
คุณแก้วประเสริฐครับ... อันที่จริง ถ้าเธอมาอ่านอาจไม่สมปรารถนาผมก็เป็นได้ครับ...ขอบคุณครับ
23 เมษายน 2548 15:01 น. - comment id 459109
คุณ P_poet ครับ เป็นกลอนที่เปรียบได้ดีนักครับ เป็นความคิดถึงที่ย้ำเตือนจริงๆครับคุณ..ขอบคุณนักครับ
23 เมษายน 2548 15:03 น. - comment id 459111
คุณผู้หญิงช่างฝันครับ... พี่นั่งเขียนกลอนลาน้ำตาร่วง ยากจะตวงความสลดเทหมดได้ เมื่อต้องกล่าวคำลาพาหวั่นใจ ให้เหลือแต่เยื่อไยในความจำ ขอบคุณครับ
23 เมษายน 2548 15:05 น. - comment id 459113
พี่ตุ้มครับ.... ส่วนที่เขียนอาจมีจากใจจริงซะมากมาย แต่สมมุติเอากับความปัจจุบันจากใจครับ... แค่คิดแล้วหัวใจผู้ชายก็หวั่นไหวจริงๆครับ.....กลอนพี่ก็ความหมายดีนักครับ ขอบคุณน้ำใจ รักษาสุขภาพนะครับ
23 เมษายน 2548 15:06 น. - comment id 459115
คุณกุ้งครับ... เคยต้องกล่าวคำลาครับ แบบลาแล้วความสำพันธ์ขาดผึง เหมือนฝ่าผ่ากลางใจครับ โลกงันเงียบในบัดดล...ขอบคุณครับ เห็นด้วยกับคำคุณ
23 เมษายน 2548 15:07 น. - comment id 459117
คุณเพลง.พเยีย ช่างเป็นคำที่เอ่ยยากจริงๆครับ แต่เมื่อทุกอย่างสุกงอมก็ต้องพร้อมเอ่ยคำครับ
23 เมษายน 2548 15:09 น. - comment id 459118
คุณคนเมืองลิง... ความเสียใจอย่างสุดซึ้งอย่างหนึ่งคือ เมื่อรู้ตัวว่าต้องจากกันเป็นนิรันดร์แต่ไร้โอกาสบอกกล่าวดั่งใจปรารนา เพราะคำกล่าวครั้งสุดท้ายมีหลายความหมายและมากความรู้สึก ล้วนยิ่งใหญ่ สุขมาก ทุกข์หนัก อาลัยยิ่งครับ
23 เมษายน 2548 15:12 น. - comment id 459120
คุณกีกี้ครับ... คำว่าเสมอเสมอ หรือสม่ำเสมอครั้งหนึ่งเมื่อล่วงมาสักหลายปีก่อนผมหยิบจับมาบอกกล่าวจนเป็นปัจจุบันใจ แต่ยามนี้มีความรู้สึกและอารณ์นั้นให้ได้กล่าวไม่มากนัก คงเพราะเมื่อความสัมพันธืที่หมายใจเปลี่ยนไป ความงดงามที่เหลืออยู่ที่เนื้อใจไม่ใครมีโอกาสได้แสดงแจ้งเจตนาใจเท่าใดนัก...วันนี้ความเสมอเสมอและความสม่ำเสมอจึงได้แต่บอกและสอนรู้สึกนึกคิดตัวเองครับ.... ขอบคุณครับคุณ...ขอให้ทุกวันของคุณมีแต่ความสบายดีนะครับ จากใจ
23 เมษายน 2548 15:14 น. - comment id 459121
คุณชัยชนะครับ... จริงดั่งคุณว่าครับกาพย์บทแรกจะห่อกลอนได้ยังไง ผิดพลาดจริง ... แต่ถ้าเป็นความหมายในบทแรกของกาพย์น่าจะห่อทุกความคะนึงของกลอนสุภาพที่เขียนซะยาวเหยียดได้ดีครับคุณ.... ขอบคุณที่มานะครับ
23 เมษายน 2548 15:15 น. - comment id 459122
คุณดาหลา.... บางครั้งเมื่อเข้าใจ และยอมรับ ทุกอย่างก็ยากหลีกเลี่ยงครับพี่
23 เมษายน 2548 15:20 น. - comment id 459124
คุณฤกษ์ครับ.... ขอบคุณครับ สำหรับการมาเยือน
23 เมษายน 2548 15:21 น. - comment id 459125
น้องแก้วนิดา.... แหมน้องแก้วนิดามาแซวซะ พี่รู้ดดอกว่าน้องแซวเล่น แต่ขอบคุณไมตรีนักครับ ทุกการมาบ้านพี่อบอุ่นยิ่งขึ้นครับ ขอบคุณจากใจมีแต่วันที่ดีดีนะครับ
23 เมษายน 2548 15:24 น. - comment id 459128
คุณฟา.... ตั้งใจจริงๆครับ อ่านงานท่านวณิชชื่อกลอนลายังติดในความทรงจำเลยครับ ดั่งนี้ครับ มิรู้ถูกผิดรึปล่าวขออภัยถ้าไม่ถูกต้อง.. กลอนลา (วาณิช จรุงกิจอนันต์) เราจะลาจากกันแล้ววันนี้ ทั้งทั้งที่หวาดผวาและว้าเหว่ ฉันคือเรืออิสระล่องทะเล จะโล้เร่ร้างไกลฝั่งใจเธอ เสียดายวันสงสารวัยความใกล้ชิด ไกลกันนิดก็ปานว่าน้ำตาเอ่อ ละไมยิ้มพิมพ์หัวใจละไมละเมอ คงยิ้มเก้อแล้วละหนอต่อแต่นี้ โถ...รอยเท้าก้าวหรือถอยก็รอบเท้า เมื่อเราก้าวกันใกล้ในทุกที่ จะเร้นรอยให้ฝันร้ายอีกหลายปี เมื่อไม่มีรอยเท้ามาก้าวเคียง เสียงหัวเราะเคยล้อต่อกระซิบ รินระริกดังน้ำรินก็สิ้นเสียง เคยสำเหนียกลำนำถ้อยสำเนียง จะเหลือเพียงลำนำในสำนึก คืนที่เคยนั่งคู่กันดูดาว จะนั่งเดียวเดี่ยวหนาวเมื่อคราวดึก ตาสบตาบอกความหมายล้ำลึก จะรู้สึกได้อย่างไรเมื่อไกลตา หวั่นว่าห่วงเสน่หาลับลาหาย มั่นใจหมายกลับมาเห็นเพ็ญดวงหน้า นี่มิใช่คำมั่นแห่งสัญญา แต่ทว่า เป็นคำฝากจากหัวใจ รักแค่เพียงคำพูดพิสูจน์ยาก แต่เมื่อจากคงพิสูจน์คำพูดได้ ใจของเราเราย่อมรู้อยู่ที่ใคร กับคนใกล้หรือคนไกลใจคงรู้ ฉันมิใช่ขุนน้ำมีตำหนัก เพียงมีแรงแห่งรักเป็นนักสู้ เธอคือคนที่จะเปิดประตู ฉันไปสู่สนามชัยในชีวิต ขอบคุณอย่างมากจากหัวใจ ที่กล้าให้โอกาสซึ่งอาจผิด เพราะอย่างน้อยชีวิตนี้ก็มีทิศ หมายนิมิตสิ่งซึ่งฝันถึงมัน ไม่ต้องคิดถึงวันที่ฉันกลับ ไม่ต้องนับวันเวลารอท่าฉัน ขอให้คิดถึงบ้างเพียงบางวัน และสวดมนต์ให้กันเท่านั้นพอ เก็บดอกไม้แห่งกมลไว้บนทิ้ง อย่าทอดทิ้งให้เศร้าอับเฉาช่อ ขอน้ำตาสักหนึ่งหยดรอไว้คลอ และการรอจะช่วยให้ดอกไม้บาน ฉันลาก่อน...เขียนกลอนลาว้าเหว่นัก และกลอนรักคงจะไร้ยามไกลบ้าน หลังการลาเริ่มการรอทรมาน ฉันเกรงการกลับมาเก้อ เมื่อเธอลืม
23 เมษายน 2548 15:25 น. - comment id 459129
น้องลูกเป็ด... ขอบคุณครับน้อง เสียงปรบมือ ขอดอกไมด้วยจิ... ออิ
23 เมษายน 2548 15:26 น. - comment id 459130
ขอบคุณครับคุณตูน
23 เมษายน 2548 15:27 น. - comment id 459132
เช้านี้เศร้าหรือครับพี่ปราย หวังว่าตอนผมตอบพี่ปรายนี้เรื่อยราวไม่สบายใจคงหายไปแล้วนะครับ.... ขอบคุณที่มานะครับ
23 เมษายน 2548 15:28 น. - comment id 459134
คุณผ่านมามอบไว้ให้ ทำให้กลอนลามีความหมายขึ้นครับ ไพเราะและมากความหมายนักครับ... คารวะครับคุณ ขอบคุณจริงๆ
9 มิถุนายน 2548 16:08 น. - comment id 477581
จะกี่วันจะกี่คืนจะเคลื่อนคล้อย หวานหยดย้อยมิเคยหดมิเคยหาย สิ่งที่แทนเป็นแทนยากแทนใคร สิ่งที่มีในใจยากใครแทน
9 มิถุนายน 2548 16:12 น. - comment id 477588
จะกี่วันจะกี่คืนจะเคลื่อนคล้อย หวานหยดย้อยมิเคยหดมิเคยหาย สิ่งที่แทนเป็นแทนยากแทนใคร สิ่งที่มีในใจยากใครแทน
15 พฤศจิกายน 2550 12:10 น. - comment id 788825
การจากลาในวันนี้ฉันอยากรู้ว่าเทอคนดีจะลืมฉันไหมฉันจะไปเมื่อใจเทอไม่ต้องการ
16 ธันวาคม 2551 11:15 น. - comment id 924610
กลอนแต่ละบทซึ้งมาก รักทุกคนที่เขียนมา
24 มกราคม 2552 08:55 น. - comment id 940311
ขอบคุนคร่าที่ให้อ่านกลอนเพราะๆๆๆๆๆขอบคุนคร่า