เคยเป็นบัวดอกหนึ่งในบึงใหญ่ ที่สดใสงดงามฟ้าครามสวย น้ำก็เย็นฉ่ำชื่นรื่นระรวย อุดมด้วยปลาน้อยใหญ่ในวารี แล้ววันหนึ่งฉันถูกดึงจากบึงนั้น เขาเด็ดก้านบัวหักไร้ศักดิ์ศรี เพียงแค่เห็นเป็นสิ่งลองของสวยดี จึงย่ำยีสิ่งเบื้องล่างอย่างง่ายดาย ฉันถูกโยนใส่อ่างน้ำสีดำเข้ม เติมน้ำเต็มถึงปากอ่างน้ำยังใส น้ำในอ่างชุบชีวิตและจิตใจ บัวรอดตายเพราะน้ำคอยค้ำจุน แล้วดอกบัวกับน้ำใสในอ่างเข้ม ก็เติมเต็มแผ่เผื่อคอยเกื้อหนุน ปรับชีวิตธรรมชาติที่ขาดดุล เป็นเพื่อนกันอบอุ่นละมุนละไม บัวมอบความสดใสให้น้ำเห็น ทุกเช้าเย็นเห็นกันพลันเฉิดไฉ เห็นน้ำสุขบัวก็สุขทุกทีไป บัวตั้งใจอยู่เคียงข้างอย่างปรองดอง วันเวลาผ่านไปไม่คงที่ น้ำเคยดีในอ่างบัวเริ่มมัวหมอง อาจเพราะบัวที่ทำน้ำขุ่นนอง บัวเริ่มมองตัวอีกทีพิจารณา สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงทีละนิด ก็รู้สึกนึกผิดคิดรักษา น้ำจะไม่ แย่กว่านี้ ที่เป็นมา โอ้ฉันพาความทุกข์เยือนถึงเพื่อนตน บัวต้องออก จากอ่างไป ให้จงได้ ต้องข่มใจ ยอมตาย ให้เหตุผล จึงปลิดดอก สลัดกิ่ง ทิ้งตัวตน ให้หลุดพ้น จากน้ำรัก เคยพักพิง แต่น้ำนั้นได้ซึมผ่านเต็มก้านแล้ว ได้เกิดเยื่อเป็นแถวตามแนวกิ่ง เพราะเยื่อนั้น.. ก้านไม่ขาด กลับพาดพิง พันผูกให้ ไม่อาจทิ้ง ยิ่งทรมาน เยื่อบางบางแต่เกาะกุมความนุ่มเหนียว พันเป็นเกลียวเกิดก่อรักที่ถักสาน บัวเจ็บปวดแสนสาหัสเกินทัดทาน เจ็บกว่าการ ตายช้าช้า ก่อนมาเจอ..
27 มีนาคม 2548 16:18 น. - comment id 445174
คุณเขียนเก่งมาก ยอดมาก คุณนึกได้เป็นเรื่องเลย ธรรมชาติฟาดแสงแรงทุกรส ปริบทหยดหยาดผงาดหงาย ไยถูกหั่นควั่นรักทิ้งหลากลาย อ่างสลายกลายบัวเป็นจอกชวา
27 มีนาคม 2548 20:32 น. - comment id 445269
เรน ..เป็นห่วงคุณจัง.. ได้แค่หวัง .. ให้คุณ.. อย่าหวั่นไหว.. หากมีสิ่ง.. กังวล ..จากภายใน จะอย่างไร .. จงต่อสู้ .. เพื่อรู้..ทาง หาใช่ .. จะเดียวดาย.. สู่จุดหมาย .. ไร้คน..ที่เคียงข้าง เส้นใย .. เพียงบางๆ.. ก่อเป็นฐาน .. สาน.. หัวใจ .. อย่าท้อดิคะ .. เรนจะ.. ขอเป็น ..ดาวใส.. นำ.. สื่อ..ความห่วงใย.. เพื่อมอบให้ .. ด้วย.. ใจจริง.. แบบเรน.. หัดแต่งเอง นะคะ .. บทกวี .. ของคุณ .. เศร้ามากเลยคะ .. เรนแค่ ..อยากให้รู้ .. ว่า ..ทุกคน ห่วงใยคุณนะคะ.. บทกวี .. ไพเราะ .. ที่สุดเลยคะ..
27 มีนาคม 2548 20:46 น. - comment id 445277
หนูแวะมาชมกลอนค่ะพี่ กำลังอยู่ในขั้นศึกษาวิทยายุทธ
27 มีนาคม 2548 21:08 น. - comment id 445287
แต่งได้ดีมากเลยค่ะ เป็นเรื่องราวที่บรรยายได้สุดยอดเลยค่ะ ชอบจัง
27 มีนาคม 2548 21:19 น. - comment id 445290
เหลือใยเดียวที่เหนี่ยวก้านบัวบานไว้ เป็นเยื่อใยมิขาดผึงตรึงเศร้าหมอง ไว้วันหนึ่งขึงไม่ไหวขาดร่วงกอง คงสมปองบ่ดองแล้วแคล้วลืมลง ใย = ผูกพันธ์ ในที่นี้หมายถึงความเศร้า ขาดไปเลยดีกว่าไม่แย่หรอก อย่าน้อยก็ลืมเขาได้
27 มีนาคม 2548 22:49 น. - comment id 445363
....ทุกคำความหวามไหว....โอ้ใจหาย สื่อความหมายแฝงความเศร้าแสนโศกศัลย์ สะท้อนภาพวิถีรักประจักษ์พลัน เรื่องราวนั้นล้วนจบลงตรงตรอมตรม ....เวทีโลก...มีสุขเศร้าเคล้าชีวิต อาจเจือพิษความรักอันหนักขม วันเวลาย่อมสมานรานระทม ทุกข์ทับถมย่อมมีวันลาญมลายฯ คุณแต่งได้เยี่ยมมาก ขอชมเชยด้วยใจจริง ขอเป็นกำลังให้ ครับ.... จาก มนต์มณิกานท์
27 มีนาคม 2548 22:56 น. - comment id 445367
ตรึงใจมาก ๆ สำหรับผม
28 มีนาคม 2548 01:01 น. - comment id 445416
ขอบคุณครับที่เข้ามาชื่นชม... จริง ๆ แล้วต้องยกเครดิตให้ผู้อ่านทุกคนที่สามารถเข้าถึงบทกลอนได้แม้ว่าตัวคำกลอนจะดูเชย ๆ ใช้ภาษาพื้น ๆ ก็ตามที เพราะผมเองก็แค่มือสมัครเล่นที่ต้องการระบายออกด้วยบทกลอนครับ.. ขอบคุณอีกครั้งสำหรับการเยี่ยมชม คำชม กำลังใจ ความห่วงใย และความคิดเห็นครับ
28 มีนาคม 2548 07:14 น. - comment id 445461
สายใยยังไม่ขาด ความเจ็บย่อมทุเลา แวะมาเป็นกำลังใจให้นะครับ
28 มีนาคม 2548 09:28 น. - comment id 445496
ความหมายคุณดีนะ บอกตรง ๆ มาอ่าน รอบสอง อิอิ ชอบครับ กินใจดี
29 มีนาคม 2548 02:42 น. - comment id 445914
แต่งได้ดีครับ...ขอชื่นชม
2 เมษายน 2548 10:08 น. - comment id 448027
++ แต่งได้งดงาม.. ...ตั ด บั ว ยั ง เ ห ลื อ เ ยื่ อ ใ ย .. ++ เป็นกำลังใจให้จ่ะ..ผ่านมาได้แล้ว..เยี่ยมเลย.. ++ ^___^ font>