อันบุปผาแม้งามยามแฉล้ม ไม่งามเท่ารอยแย้มขนิษฐา ฝนว่าฉำชื่นจิตอนิจจา ไม่เท่าคราเจ้าทักชื่นหทัย สกุณาที่ว่าเสียงเสนาะ ไม่อาจเพราะเทียบเทียมเสียงเจ้าได้ ไม้ว่าหอมแสนหอมไม่ตรึงใจ เท่าเนื้อกายน้องนุชสุดตรึงตรา จันทร์รักดาวข้าวรักนาปลารักนำ ไม่เท่าคำพรำรักเจ้านักหนา เสือรักป่าฟ้ารักดินหินรักหญ้า ไม่เท่าข้าแสนรักปักดวงใจ ดั่งอาทิตย์ทอทอดทองอร่าม สว่างยามสว่างหล้าสว่างใส ให้โลกาสัตวาพนาไพร ได้พึ่งพิงพึ่งใช้พึ่งตะวัน ดั่งสายนำฉำไหลระรินหลั่ง ให้ชีพยังอยู่ได้อย่างใจฝัน ระเรื่อยปลอบมอบพลังแด่ชีวัน ชอุ่มพรรณชอุ่มชุกชอุ่มชล ดั่งสายลมล้อหลอกหยอกยอดไม้ พัดโบกไกลไม่เคยพักเลยสักหน คอยปัดเป่าเหล่าทุกข์ที่ผจญ ได้เย็นยลเย็นยิ่งด้วยเย็นลม ดั่งผืนดินหินกล้าภูผาใหญ่ ทระนงกายหมายมั่นในศักดิ์สม โอบชีวิตโอบกล้ามาโอบชม ได้รื่นรมย์ระรื่นหล้าระเริงดิน เจ้าดั่งไฟนำลมและดินธาตุ แม้พี่ขาดปราศน้องต้องถวิล ทั้งกายากมลหมายจะพังภิณท์ พี่สิ้นจิณต์สิ้นรักหากสิ้นเธอ
9 มกราคม 2548 14:35 น. - comment id 402817
โอ้โห กวียุคเก่ามาเองเลยรึเปล่าเนี้ย
9 มกราคม 2548 14:41 น. - comment id 402820
-*งามต้องตาน่าชมภิรมณ์มั่น เนื้อนางนั้นผิวสีผาดสะอาดสะอ้าน ดูคราใดใจพี่พร่ำซมซาน ทรมานราวมีมีดมากรีดใจ-*
9 มกราคม 2548 20:27 น. - comment id 403075
ชมนางไหนหรือคะ อิ อิ...
10 มกราคม 2548 07:13 น. - comment id 403400
อยากเจอคนคนนั้จังคงงามสมคำชื่นชมเลย