ให้อ้อมกอดแห่งรักโอบกอดไว้ ยามอ้อมใจอ่อนล้าหาอกอุ่น แทนอ้อมแขนอ้อมนี้ที่เคยคุ้น แทนอ้อมอกที่เคยกรุ่นรักอุ่นไอ ถึงเวลาแล้วสินะต้องลาจาก เวลาพรากสองเราอย่าสงสัย ถึงเวลาแล้วต้องลาต้องจากไกล คงต้องไปตามคำสั่งของเวลา คงไม่มีฉันอีกแล้วในวันนี้ คงไม่มีฉันอีกแล้วอย่ามองหา ให้ที่รักมองไปตรงขอบฟ้า ฉันคือแสงส่องหล้าของตะวัน แม้ความมืดปกคลุมจนมืดมิด ฉันคือแสงศักดิ์สิทธิ์บนฟ้านั่น แสงแห่งดาวพร่างพราวเพราะผูกพัน ยามหลับตายามหลับฝันยังพบเจอ
30 กันยายน 2547 16:54 น. - comment id 341478
อ่า บทกลอนไพเราะมากขอรับ.. ฉันสัญญาจะเข้มแข็งและแกร่งกล้า ไม่ร้องไห้เสียน้ำตาให้ล้าไหว ขอที่รักจงอย่าห่วงในดวงใจ แม้เธอไกลฉันจะอยู่สู้เพื่อเธอ... แวะมาทักทายนะขอรับ : )
30 กันยายน 2547 19:27 น. - comment id 341582
แม้ฉันลาจากไกลอย่าไหวหวั่น เพราะจริงแล้วตัวฉันไม่ไปไหน จากแต่ตัวหัวใจให้คนไกล ด้วยเพราะว่าห่วงใยจึงให้เธอ *-*กลอนแต่งได้ดีมากๆๆๆๆเลยค่ะ*-*
30 กันยายน 2547 22:07 น. - comment id 341763
อัลมิตราเป็นคนนิสัยไม่ค่อยจะดีเลย เวลามีหนังสือนิยาย ขอแอบอ่านหน้าท้ายๆก่อน หากเรื่องจบอย่างเศร้า ก็จะผละจากหนังสือไปสักสองสามวัน กว่าจะทำใจให้กล้าๆหยิบขึ้นมาอ่าน ทีละบท ทีละตอน ใจเปราะบาง ก็เนื่องด้วยอารมณ์อ่อนไหว เห็นบทโศกก็ปวดรวดร้าวใจ คู่กันอาจมิได้คู่เคียง สงสารตัวละครที่ต้องเหลือลำพังในฉากจบ มิอยากประสบนั้นเลย หากแต่จะเป็นไป ขอเป็นฝ่ายที่ล่วงหน้า เสียยังจะดีกว่า เฮ้อ ..
1 ตุลาคม 2547 07:00 น. - comment id 341951
สวัดีครับ............. เข้ามาเพื่อเป็นกำลังใจให้คนที่แสนดี กำลังใจจากข้างในส่วนลึก ไม่ต้องฝึกต้องหามาให้เห็น จะแดดร้อนตอนสายจนบ่ายเย็น จะคอยเป็นกำลังใจให้ดนดี
1 ตุลาคม 2547 14:19 น. - comment id 342188
ขอบคุณนะคะ คุณผู้หญิงไร้เงา และคุณอะลมิตรา คุณคือกำลังใจทีดีมากๆๆๆเลย นวนิยาย หรือภาพยนตร์ประเภทนี้ เรียกน้ำตาได้ทุกครั้ง เพราะมีอีกมุมของความรักที่ไม่ได้จบอย่างมีความสุข.. เพราะฉะนั้น ทำให้คิดได้ว่า ควรรักกัน ดีต่อกันมากๆตอนยังมีชีวิตอยู่