บนลานฟ้า

ม้าลาย

บนลานฟ้าราตรีนี้อุ่นอ้อม 
ไอรักล้อมรัดรึงประหนึ่งฝัน 
สัมผัสฟ้าโอบชิดสนิทจันทร์ 
คู่เคียงขวัญกระซิกสรวลรัญจวนใจ 
อุ่นไอหมอกทอดสายโอบกายเคล้า 
ลมโลมเร้าไล้จันทร์จนหวั่นไหว 
พัดเมฆลอยคล้อยเคลื่อนเลื่อนเลยไป 
เผยนวลใสรางชางกระจ่างตา 
กายแนบกายกอดกล้ำดื่มด่ำรส 
จันทร์ทรงกลดรอบพลางสว่างจ้า 
เพลงครื้นครั่นสนั่นครางจากกลางฟ้า 
สอดแทรกสร้อยแผ่วมาพร้อมสายลม 
กระโชกแรงกระชั้นโถมเข้าโจมลึก 
น้ำค้างดึกกลั่นเคล้าเข้าประสม 
จากกลางฟ้าหยดกว้างลงพร่างพรม 
จวบแสงส้มอุษาสางจะจางจันทร์				
comments powered by Disqus
  • tiki

    10 มิถุนายน 2547 00:31 น. - comment id 283620

    :)
  • ภูตะวัน ตะวันรอน

    10 มิถุนายน 2547 02:25 น. - comment id 283632

    บนลานฟ้า...
    ใช้คำเก๋..ดีจัง..
    เคยชิน..แต่การใช้คำว่าลาน..บนดิน..
    
    น่ารักดีค่ะ..
  • ..ยาสีฟัน..

    10 มิถุนายน 2547 04:58 น. - comment id 283649

    ^____^...แวะมาทักคร๊าบ...
  • วนัสนันท์

    10 มิถุนายน 2547 07:03 น. - comment id 283663

    เคยใช้แต่คำว่า...บนลานใจ ค่ะ :)
    
    แวะมาสวัสดีคุณ กลอนแบบนี้ต่อมา่ยล่าย ยังไม่สามารถเลยค่ะ
  • อัลมิตรา

    10 มิถุนายน 2547 13:33 น. - comment id 283718

    เหลียวซ้าย แลขวา .. คุณม้าลายดูต้นทางให้ด้วยนะคะ
    
    ประหนึ่งฟ้าคำรามทำป่วนปั่น 
    พิภพสั่นหวิดแตกแยกเป็นส่วน 
    ต้นไม้โอนแอ่นเอนไม่เป็นขบวน 
    พายุหวนฝนหอบรอบริมบึง
    
     บทเดียวพอล่ะ .. แค่นี้อากาศก็แปรปรวนจะแย่แล้วค่ะ ...
    
    :) 
    
  • A-Z

    12 มิถุนายน 2547 02:40 น. - comment id 284215

    เพราะๆๆ น่ารักดี 
    กลอนอ่านได้ลื่นไหลดีจัง 
    แต่งเก่งดีค่ะ
  • ม้าลาย

    12 มิถุนายน 2547 23:49 น. - comment id 284499

    ขอบคุณครับทุกท่าน คุณ tiki คุณภูตะวัน ตะวันรอน คุณยาสีฟัน คุณวนัสนันท์ คุณอัลมิตรา คุณA-Z
    
    เก็บความรักเอาไว้ในใจหนึ่ง
    แต่กลอนซึ้งแฝงนัยถึงใจสอง
    หากต้องรักมั่นคงตรงครรลอง
    จึงจำมองซ่อนพรางเพียงหางตา
    
    บนลานดินตะวันดับลับภูแล้ว
    เสียงกลอนแว่วยังอ้อนสะท้อนผา
    คำคร่ำครวญกังวานถึงลานฟ้า
    ฉุดลากพาหัวใจไปตามกลอน
    
    ใต้เงาจันทร์ลานใจคนไร้รัก
    ดาวมาทักสวัสดีเท่านี้ก่อน
    แล้วลาลับตัดสวาทจนขาดรอน
    ทิ้งคมศรปักค้างไว้กลางใจ
    
    บนลานจันทร์รัญจวนคร่ำครวญต่อ
    โอ้ละหนอดวงเดือนเหมือนฉันไหม
    ฝูงชะโดว่ายฝ่าหญ้าแฝกไป
    ขอจันทร์ไขคำหนึ่งซึ่งอยากยิน
    
    บนทุกลานทุกใจในหล้าโลก
    คงมีโศกเศร้าสลดมิหมดสิ้น
    กี่บทกลอนหลั่งน้ำตาท่วมฟ้าดิน
    ยังลื่นไหลตราบชีวินแล่นหมดลาน
  • อัลมิตรา

    13 มิถุนายน 2547 22:21 น. - comment id 284894

    .. คุณม้าลายอยากได้คำอธิบาย
    
    บนลานจันทร์รัญจวนคร่ำครวญต่อ
    โอ้ละหนอดวงเดือนเหมือนฉันไหม
    ฝูงชะโดว่ายฝ่าหญ้าแฝกไป
    ขอจันทร์ไขคำหนึ่งซึ่งอยากยิน
    
    
    ... อันที่จริง ฉบับเดิมเขียนแบบนี้ค่ะ ...
    
    ดุจดังฟ้าคำรามทำป่วนปั่น
    แผ่นดินสั่นภพแตกแยกเป็นส่วน 
    ต้นไม้โอนแอ่นเอนไม่เป็นขบวน
    พายุหวนฝนหอบรอบริมบึง 
    
    ปลาชะโดทั้งฝูงมุ่งเริงร่า
    รีบรุดฝ่าหญ้าแฝกแซกซอนฉึ่ง*
    ต่างกระโจนน้ำกระจายไขว่เคล้าคลึง
    ครั้นเมื่อถึงจุดหมายว่ายไม่เป็น  
    
    เมื่อปีที่แล้ว .. อัลมิตราเขียนล้อภาพยนตร์เรื่อง คืนบาปพรหมพิราม ... ฉากนี้เป็นตอนนี้ หญิงผู้น่าสงสารคนนั้น ถูกพวกผู้ร้ายรุมกระทำย่ำยี ลองหาดูนะคะ ในเวปนี้ อัลมิตราเขียนตั้งแต่ต้นจนจบ ค่ะ 
    
    
    ปล. เหนื่อยจัง ที่เหลือ ติดไว้ก่อนนะคะ เขียนถามมาหลายบท ตอบไปสั้นๆ ... แปะโป้งค่ะ
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน