..๏ สุดแขนคิดไขว่คว้า.................ศศิธร พรรณผ่องมองอาวรณ์...................ก่อนร้าง จำจากพรากบังอร.........................เรียมพี่ เพียงพจน์บทโคลงอ้าง..................ห่างเจ้าคราวคืน ๚ ..๏ มาตรแม้นลาลับแล้ว................แสงสูญ พินิจจิตอาดูร...............................ดั่งช้ำ คำนึงถึงมาธูร*.............................ใจสลด คราวก่อนตอนพรอดย้ำ.................เนื่องน้องครองขวัญ ๚ ..๏ ปวดปร่าครารักร้าว..................ทุรนทุราย ทุกข์เทวษเกินคิดคลาย.................ข่มข้าม ห้วงจินต์ประหนึ่งวาย...................วิญญ์ดับ ใครจักอาจหาญห้าม.....................หักไห้โศกหาย ๚ ..๏ เกินกานท์ลิขิตถ้อย..................เพรียกพยางค์ จิตลุ่มหลงคงนาง..........................นิ่มน้อง ฤๅกรรมย่ำใจพลาง.......................พรากพี่ ไกลฤา จึงโศกสลดร้อง.............................รุ่มร้อนฟูมฟาย ๚ะ๛
7 เมษายน 2547 17:59 น. - comment id 242976
ด้วยดวงจิตคิดรั้ง...............ยอดชู้ จึงปวดปร่าน่าอดสู..............เยี่ยงน้อง ขอปล่อยปลงลงรู................ไปเถิด แม่เฮย จงปล่อยวางอย่าข้อง............อย่างนี้จิตสบาย
7 เมษายน 2547 18:00 น. - comment id 242977
ย.แย้ กลับรู... ด้วยดวงจิตคิดรั้ง...............ยอดชู้ จึงปวดปร่าน่าอดสู..............เยี่ยงน้อง ขอปล่อยปลงลงรู................ไปเถิด แม่เฮย จงปล่อยวางอย่าข้อง............อย่างนี้จิตสบาย
7 เมษายน 2547 18:12 น. - comment id 242982
ยอมรับว่าแปลบางคำไม่ออกนะคะ..แหะ ๆ แต่อ่านแล้ว..ให้เข้าใจถึงคำว่า..ฟูมฟาย..อย่างถ่องแท้เลยค่ะ ............ มาชื่นชมค่ะ..แต่งเก่งจัง ^_^
7 เมษายน 2547 18:28 น. - comment id 242989
คิดเหมือนคุณผู้หญิงสีม่วงค่ะ คิดถึงๆๆ
7 เมษายน 2547 20:03 น. - comment id 243046
งาม..เพราะ..เลิศหรู..อลังการ..แจ่มแจ๋ว *-*เบญจกลอนสี่สุภาพ..*-* เอางี้เลยล่ะครับ *-* ไม่รู้ว่าจะชมยังไงให้เหมาะกับกลอน...*-* อนุรักษ์ไว้นะครับเจ็บใจที่เราเองแต่งไม่ค่อยเก่ง เลยได้แค่กลอนวัยรุ่น..แต่บางทีก็มีกลอนแปดนะครับ แบบว่าพยายามมากน่ะครับ *-* มาเยี่ยมนะครับ *-*
7 เมษายน 2547 20:04 น. - comment id 243050
งาม..เพราะ..เลิศหรู..อลังการ..แจ่มแจ๋ว *-*เบญจกลอนสี่สุภาพ..*-* เอางี้เลยล่ะครับ *-* ไม่รู้ว่าจะชมยังไงให้เหมาะกับกลอน...*-* อนุรักษ์ไว้นะครับเจ็บใจที่เราเองแต่งไม่ค่อยเก่ง เลยได้แค่กลอนวัยรุ่น..แต่บางทีก็มีกลอนแปดนะครับ แบบว่าพยายามมากน่ะครับ *-* มาเยี่ยมนะครับ *-*
7 เมษายน 2547 20:35 น. - comment id 243071
ไดอะซิแพม 2เม็ด...น้ำอุ่น... อย่าลืมห่มผ้า..ฝันดีนะ..
7 เมษายน 2547 21:39 น. - comment id 243112
แต่งได้ไพเราะมากเลยค่ะ...ชื่นชมผลงานนะคะ
7 เมษายน 2547 21:41 น. - comment id 243114
...หมดจด งดงาม... *แวะมาเยี่ยมน่ะ การบ้านเยอะไหม* ..พักผ่อนบ้างน่ะ.. ..
7 เมษายน 2547 23:54 น. - comment id 243191
รอยรักจารึกไว้ กลางใจ เหลือข่มรอยโศกหาย หมดสิ้น ตราบดินถล่มทลาย กลบร่าง วิญญาณไม่ดับดิ้น ไม่รู้โรยรัก ก็ยัง งง ๆ ว่ารักกันทำไม อิอิ
8 เมษายน 2547 00:30 น. - comment id 243206
....เป็นหยาดหยดหนึ่งน้อย........ความโศก หลายเที่ยวมอบถึงโลก...............ขื่นเศร้า ฟูมฟายแด่อับโชค.....................รุมเร่า เริงร่ายากหาเข้า........................สู่เหย้าเรือนใจ... .........................สวัสดีครับ............................
8 เมษายน 2547 11:17 น. - comment id 243365
ยัยไหม .. อ่านแล้วเป็นงง แย้ลงรู หืมม.. คุณผู้หญิงสีม่วง.. มาธูร แปลว่า หวานหรือไพเราะ ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ คุณตฤณ .. ขอบคุณมากค่ะ คุณพู่กันของหูกวาง .. อัลมิตราก็หัดขีดๆเขียนๆค่ะ ต้องปรับปรุงอีกเยอะเช่นกันค่ะ คุณฟ้าใหม่ .. ขอบคุณสำหรับความห่วงใย :) คุณ Imagine .. ขอบคุณมากค่ะ คุณกุ้งหนามแดง .. จ๊ะ คุณกุ้งขอบคุณค่ะ การบ้านไม่เยอะเท่าไหร่ค่ะ พอไหว คุณฤกษ์ ..ขอบคุณมากค่ะ จะตอบเป็นกลอนรวบกับคุณใบบอนแก้วเลยนะคะ ..๏ สะอึกสะอื้นขื่นขมระทมนัก สุดจะหักอารมณ์ข่มคลายขืน พร่ำเพรียกหาแต่เจ้าทุกคราวคืน น้ำตาชื้นสองเนตรเทวษใจ ก่อนยังเคยเคียงคลอพนอน้อง อกอุ่นป้องกอดก่ายมิคลายไหน กลับร้างลาลบเลือนดุจเบือนไกล เกินคว้าไขว่อิงแอบแนบชิดชม ต้องเพ้อพร่ำครวญหากี่คราครั้ง จึงสมดั่งความนัยใจขื่นขม ที่โหยหารักแท้แน่ภิรมย์ กลับช้ำตรมหม่นหมองนองน้ำตา ฤๅสูญสิ้นสายใยในชาตินี้ ทุกข์ทวีร่ำไห้อาลัยหา จะขอเพ้อละเมออ้างอย่างเคยมา ก่อนอำลาลับไกลในนิรันดร์ ๚ะ๛
8 เมษายน 2547 17:30 น. - comment id 243610
มาเยี่ยมอีกฅนนึงค่ะ ยังไม่ช้าไปนะคะ ไม่ค่อยได้เข้าเนตค่ะพี่อัล