สายลมทุ่งพริ้วพรายยามใกล้ค่ำ โบกโบยพร่ำปลายนาเมื่อฟ้าหมอง สายวสันต์ปลิวปรายรายละออง เป็นฝอยฟ่องพรมชื้นทั่วผืนนา ดอกนมแมวกลิ่นกรุ่นลมุนเศร้า คนใจร้าวสะท้านทรวงด้วยห่วงหา ให้อัดอั้นกลั้นสะอื้นกลืนน้ำตา ในเวลาสายัณห์อันลางเลือน ขลุ่ยบ้านนาใครหนอมาคลอแผ่ว วะหวิวแว่วบาดใจปานใครเฉือน เป็นเพลงรักเพลงพ้อปนล้อเตือน ถึงผู้เพื่อนหม่นตรมขมอุรา.... ว่าเพื่อนเอย......คนเราก็เท่านี้ ความสุขสมเคยมีอาจหนีหน้า อย่ามัวแต่ตรอมตรมจมน้ำตา ในปลายฟ้าความหวังยังรอเรา ขลุ่ยหรี่เสียงขับขานเพลงหวานพริ้ว เลื่อนไหลนิ้วกล่อมกมลของคนเหงา สดับเพลงดื่มด่ำลำนำเนาว์ ณ ถิ่นเก่าปลายนาใกล้ราตรี.
11 ตุลาคม 2546 18:56 น. - comment id 173765
พรระวีคะ ดีใจมากที่กลับมาเขียนงานธรรมชาติงามอีกครั้ง ไม่ได้เข้ามาหลายวันค่ะ และอีกไม่กี่วันจะลงไปสงขลา หากมีเวลาจะแวะบ้านดอนนะคะ คิดถึงและอยากตอบกลอนมาก ขอเวลาก่อนนะ
11 ตุลาคม 2546 19:47 น. - comment id 173773
ลำนำเสียงขลุ่ยโหยหวน ดั่งคร่ำครวญความในใจที่บอบช้ำ บทเพลงรักเคยหวานแว่ว..ยังจดจำ แต่ตอนนี้เสียงขลุ่ยย้ำ ..สุดระกำทรวง :)
11 ตุลาคม 2546 21:51 น. - comment id 173789
1.ท่านพี่พุด ผมค่อนข้างขลุกขลักอยู่หลายเรื่อง ระบบงานเปลี่ยนแปลงไปสู่ CEO ทำให้มั่วไปหมดกว่าจะเข้าที่เข้าทางต้องใช้เวลาสักหน่อย ไม่ค่อยมีเวลา ขอประทานอภัย แวะบ้านดอนก็เหมือนแวะบ้านตัวเอง ดีจัง 2.ท่านอัลมิตรา มหามิตรผู้ประเสริฐ ผู้มีน้ำใจงดงามต่อมิตรเสมอ งานของท่านระยะนี้เข้าขั้นวรรณกรรมแล้ว
11 ตุลาคม 2546 22:31 น. - comment id 173798
ไม่หรอกค่ะ คุณพรระวี .. อัลมิตราเพียงเขียนเพื่อตนเองเท่านั้น ให้ตนเองเป็นที่ชื่นชอบเป็นพอ ยังไม่มีความสามารถเขียนให้คนอื่นชื่นชอบหรือเข้าใจในนัยยะที่เขียนได้หรอกค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ที่เป็นกำลังใจให้เสมอมา
11 ตุลาคม 2546 22:44 น. - comment id 173801
งดงามเสมอนะครับ แม้จะ โดน ซีอีโอ เล่นงาน (เหมือนผม) อานไปเลย
11 ตุลาคม 2546 22:57 น. - comment id 173808
แต่งได้ไพเราะมากๆๆๆเลยค่ะ
12 ตุลาคม 2546 01:27 น. - comment id 173849
...ก่อนอื่นขอชมก่อนแต่งกลอนได้ไพเราะยิ่งนัก.... ...เสียงขลุ่ยผิวปลิวสลับสับวายุ ...บรรเลงคุกล่อมเกลี้ยเคลียคิมหันต์ ...ผสานสมกลมเฉกเสกจำนรร ...เสียงครวญโลกโศกศัลย์บรรลัยลม ....แวะมาทักทายครั้งแรกครับ และนำกำลังใจมามอบให้ แต่งกลอนไพเราะให้เราได้อ่านเยอะๆนะครับ
12 ตุลาคม 2546 08:01 น. - comment id 173872
..ยังคง..ไพเราะ..ในความรู้สึก... ..เรน..แวะมา..ทักทาย..พี่ชาย..นะคะ.. ...
12 ตุลาคม 2546 08:33 น. - comment id 173882
เสียงขลุ่ยครวญที่เคล้าฝนสั่งฟ้าในวันนี้ คล้ายกับจะบรรเลงเพลงอันรวดร้าว วสันต์ตกต้องพร้อมหรีดหริ่งไรไร ในจิตนาการ ช่างงดงามและรานร้าวอยู่ในที บทกวีกับเสียงขลุ่ยครวญกระชากหัวใจให้ลอยลิบลิ่วยั่งนักแล้วครับ ด้วยชื่นชม
12 ตุลาคม 2546 10:15 น. - comment id 173891
บทกวีสวย กินใจค่ะ
12 ตุลาคม 2546 10:37 น. - comment id 173894
เสียงขลุ่ยครวญชวนให้ใจพร่ำเพ้อ บอกกับเธอจงหายคลายความเหงา เสียงขลุ่ยหวานกังวานแว่วแผ่วเบาเบา แนบนานเนาว์ความหวังยังรอคอย.....ฯ มาร่วมฟัง..เสียงขลุ่ยครวญ...ด้วยค่ะ... เป็นบทกวีที่ไพเราะ...หวานปนเศร้า...ประทับใจค่ะ...จะติดตามผลงาน..และเป็นกำลังใจต่อไปนะคะ...
12 ตุลาคม 2546 17:03 น. - comment id 173938
น้อมคารวะรับคำติชม- -ท่านม้าก้านกล้วย เพื่อนร่วมบ้านไทยโพผู้คุ้นเคยและนับถือในฝีมือมานานนับปี -ท่านผู้หญิงไร้เงา ผู้มีพลังสร้างสรรในกวีวรรค เหลือคณานับ -ท่านหมึกมรกต มิตรใหม่สำนวนเรียบรื่นลื่นไหลดั่งสายน้ำ -ท่านน้องเรน น้องเล็กผู้น่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มไม่เว้นวายเสมอมา -ท่านลำน้ำน่าน ผู้เป็นดวงดาวเรืองโรจน์เจ้าของปรัชญาล้ำหน้าเสมอ -ท่านราชิกา มิตรผู้ส่งความปราถนาดีต่อมิตรเป็นนิรันดร์ ขอบคุณอีกครั้งครับผม.
12 ตุลาคม 2546 19:03 น. - comment id 173953
เป็นบทกลอนที่ดีมากๆเลยค่ะ อยากแต่งได้เก่งแบบคุณจังเลยค่ะ ++เป็นเสียงขลุ่ยที่ไพเราะจับใจมากเลยค่ะ++
13 ตุลาคม 2546 03:39 น. - comment id 174055
ยินดีได้อ่านงานของท่านนักกลอนรุ่นก่อนของไทยโพเอ็มค่ะ ผลงานดีเด่น...เสียงขลุ่ยดุเพราะจับใจค่ะ