แค่บทเพลงขลุ่ยครวญชวนละห้อย

ม้าก้านกล้วย

แค่คำนึงถึงเพลงบรรเลงร้าว
เมื่อครั้งคราวจากลาในหน้าฝน
แค่สัญญาพลั้งปากจากบางคน
เมื่อตัวตนห่างกันมันเลื่อนลอย
แค่จากมาด้วยใจไม่มั่นคง
เพราะเคลิ้มหลงเพลงขลุ่ยครวญชวนละห้อย
หวานแค่ลมเพลงพร่ำแกล้งสำออย
แต่ถดถอยจริงใจไม่เหลือเลย
ไม่อยากจำย้ำใจไปไยเล่า
เพราะสองเราร้างลาอย่างผ่าเผย
อดีตดับลับเลือนเหมือนไม่เคย
จึงไม่เชยชมเสียงเพียงรื้อฟื้น
ขอให้เพลงขลุ่ยผิวปลิวผ่านมา
เพียงแค่พาเหงาใจในยามตื่น
แล้วปล่อยผ่านเลยล่วงมิท้วงคืน
ขอสะอื้นครั้งเดียวพอไม่ขอจำ 
แค่คำนึงถึงครั้งเมื่อยังหวาน
ใจก็กร้านแกร่งกร้าวร้าวระส่ำ
เมื่อปลายทางรักที่มีเป็นสีดำ
เพียงแค่ทำใจปลงมิหลงเพ้อ
แต่อีกในสำนักรู้สึกเหงา
กัดกร่อนเราเฝ้าคำนึงถึงเสมอ
เมื่อขลุ่ยผิวแว่วไกลใจละเมอ
นึกถึงเธอนิดหน่อยปล่อยให้เป็น

(ม้าก้านกล้วย)				
comments powered by Disqus
  • หมึกมรกต

    11 ตุลาคม 2546 02:13 น. - comment id 173638

    ...เสียงขลุ่ยผิวปลิวสลับสับวายุ
       ...บรรเลงคุกล่อมเกลี้ยเคลียคิมหันต์
          ...ผสานสมกลมเฉกเสกจำนรร
             ...ให้นงคราญสราญรับปรับเปลี่ยนใจ
    ****ม้าก้านกล้วยนิพนธ์กลกานท์ได้ไพเราะเหลือ ใคร่อยากจะเป็นศิษย์จริงๆ****
  • ผู้หญิงไร้เงา

    11 ตุลาคม 2546 03:30 น. - comment id 173641

    เมื่อขลุ่ยผิวแว่วไกลใจละเมอ
    เหมือนดั่งเธออยู่ใกล้ให้คิดถึง
    แต่ไม่กล้าจะเอ่ยความตามคำนึง
    แต่ก็ยังคิดถึงไม่รู้ลืม
    
    ***กลอนไพเราะมากเลยค่ะ***
    
  • tiki

    11 ตุลาคม 2546 07:36 น. - comment id 173706

    เสียงขลุ่ยผิวปลิวมาท้าลมหนาว
    ไล่ฝนพราวให้สาดสยบลบรอยฝัน
    เสียงขลุ่่ยหายตายจากซากดำบรรพ์
    เหมือนฟอสซิลในใจฉันเมื่อวันวาน
  • มารแมงมุม

    11 ตุลาคม 2546 11:03 น. - comment id 173726

    เมื่อฝนเยือนเตือนใจให้คิดถึง
    บทเพลงซึ้งเพลงขลุ่ยทุยตัวหม่น
    รวงยังจำสัญญาใจให้บางคน
    พอลมฝนมาอีกทีใจนี้คอย
    
    อยากให้รักคืนหลังดั่งลมหวน
    คะนึงครวญเพลงขลุ่ยเหงาพาเศร้าสร้อย
    แค่จากกันเป็นจากไกลไร้ร่องรอย
    รวงข้าวน้อยอยากคืนรังยังท้องนา
    
    ทุกวันนี้รวงเหงาร้าวใจนัก
    กับความรักที่ร้างช่างโหยหา
    หลับก็พ้อตื่นก็เจ็บ..เก็บน้ำตา
    จะคืนมาเหมือนเก่าไหมใจถามเธอ
    
  • somebody

    11 ตุลาคม 2546 15:18 น. - comment id 173750

    เสียงขลุ่ยครวญควร ควรหา พาหวั่นจิต
    ทำให้คิดถึงเจ้าอยู่เป็นนิจ อยากชิดใกล้
    ยามพลบค่ำเสียงขลุ่ยเพรียก เรียกขวัญใจ
    เหตุไฉนจรจากไป ไม่หวนคืน
    
    ฝนหล่นมาพาใจให้เหงียบเหงา
    รักของเราเฉาลงไปไม่อาจฝืน
    เสียงขลุ่ยเพรียก เรียกเท่าไร ใจกล้ำกลืน
    ทุกข์ระทม ขมขื่น สะอื้นใจ
    
    เสียงขลุ่ยเพรียก เรียกเจ้า แม่สาวน้อย
    พี่เฝ้าคอย คอยเจ้า เหงารู้ไหม
    ดาวเต็มฟ้าพี่ผวาเจ้าลาไกล
    ตัดสายใยเจ้าทำไมทำได้ลง
    
    +---ชอบกลอนของคุณจังเลยค่ะ ม้าก้านกล้วย---+
  • พรระวี

    12 ตุลาคม 2546 22:19 น. - comment id 173995

    ยอดเยี่ยม ครับ
  • Jett

    13 ตุลาคม 2546 01:48 น. - comment id 174044

    แต่อีกในสำนักรู้สึกเหงา ------> เอ่อ สำนักไหนคะพี่ม้า (เส้าหลินป่าว)
    กัดกร่อนเราเฝ้าคำนึงถึงเสมอ
    
    เมื่อขลุ่ยผิวแว่วไกลใจละเมอ
    นึกถึงเธอนิดหน่อยปล่อยให้เป็น
    
    
    บางทีนะคะพี่ม้า เวลาที่เราได้ฟังเพลงบางเพลง
    เราจะนึกถึงคนบางคน เป็นอย่างนั้นทุกครั้ง
    ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ความรู้สึกแบบนี้ เจทท์อยากจะถามพี่ม้าว่า....คิดถุงเจทท์อ่ะป่าวอ่ะ แห่ะๆ :P
    
  • ลำน้ำน่าน

    13 ตุลาคม 2546 09:34 น. - comment id 174071

    นานเนิ่นนับที่เสียงขลุ่ยครวญเราใช้เป็นตัวแทนแห่งความเหงาและเศร้ารานร้าว คิดถึง คะนึกหา   ซึ่งก็เชื่อว่า เป็นตัวแทนได้ดีจริงๆ 
    
    บทกวีขลุ่ยครวญไม่ว่าจะเขียนกี่ครั้งกี่ครั้งก็งดงามเสมอมาครับ
    
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน