(ญ) ฝากวจีกวีร่าย... ก่อนเคยนอนเกยหนุนอุ่นผืนหญ้า เหม่อมองฟ้าเห็นดาวพราวเวหน ระยิบระยับวับผ่านไปในตำบล แสนฉงนจันทร์อยู่ไหนใจรำพึง จึงถามเธอว่าจันทรานั้นอยู่ไหน ทำอย่างไรจึงเห็นเช่นเงื้อมถึง ฤๅปลดม่านราตรีดำที่ขึงตึง หอบดาวซึ่งเกลื่อนฟ้ามากล่อมไกว (ช) ตอบเอยตอบถ้อย... ขอตอบคำจำนรรจ์ว่าจันทร์เจ้า อยู่เป็นเงาราตรีที่สดใส เป็นเพื่อนฟ้าราตรีที่จริงใจ ยังรักใคร่หมู่ดาวพร่างพราวพราย อยากเอาจันทร์นั้นไว้ในอ้อมรัก มิยากนักถึงกับลับสลาย ต้องตักตวงลวงล่อขุดบ่อทราย ยามจันทร์ฉายในบ่อที่ล่อมา เห็นแหล่งน้ำทำเงาเจ้าจันทร์ไหม เชื่อหรือไม่เพราะเล่ห์เสน่หา มิต้องถึงดึงผ่านม่านเมฆา แล้วทำฟ้าเศร้าสร้อยจนน้อยใจ เสน่ห์รักหนักเล่ห์หากเหหัน ดุจดังจันทร์เกเรเถลไถล ท้องฟ้าหม่นปนโศกถึงโลกไกล เพราะฟ้าไร้จันทร์งามยามราตรี นอนหนุนหญ้าคว้าไขว่ทำไมเล่า ปล่อยฟ้าเขาคู่จันทร์นั้นสุขขี มาหนุนแขนแสนชื่นเถิดคนดี ให้เป็นที่ปรารถนาประสาเรา..
12 กันยายน 2546 09:34 น. - comment id 167224
โหยยยยย.....หยดย้อยเลย
12 กันยายน 2546 11:19 น. - comment id 167238
คู่นี้เมื่อไรแจกการ์ด รำพึงรำพันได้ไพเราะจริงๆ อ่านแล้วนึกถึงเพลงเก่าๆเพลงหนึ่ง ตอบเอยตอบถ้อย เกิดแต่เห็นน้องน้อยอย่าสงสัย ตาประสบตารักสมัครไซร้ เหมือนดังให้อาหารสำราญครัน ได้ยินตอนเด็กๆตอนนี้ไม่มีเปิดเลย อิอิ
12 กันยายน 2546 12:10 น. - comment id 167241
อยากจะฝากรักไว้ในใจเจ้า คงต้องเฝ้าแต่รำพึงคนึงหา ในเมื่อใจทรามวัยมีใครมา ปลอบประโลมทุกเพลา อุ๊ย!!!อิจฉาจริง...... ........... อยากรู้ว่าเมื่อไหร่จะแจกการ์ด จะทิ้งงานหลวงงานราษฎร์ไปทุกสิ่ง เพื่อยินดีกับสาวน้อยที่รักจริง ขอสุขยิ่งในทุกสิ่งนะแก้วตา... ......... แจกกร์าดเมือไหร่อย่าลืมบอกเค้านะตะเอง อิๆๆๆๆๆๆๆ
12 กันยายน 2546 12:16 น. - comment id 167243
มาลุ้นแกะ แวะดู คู่สาวหนุ่ม ที่แอบซุ่ม ซ่อนหากัน ฝากจันทร์เจ้า ให้ฉ่ำหวาน พบพานสุข ทุกเรื่องราว ลืมเรื่องเศร้า สร้างสรรค์ สัมพันธ์ใจ
12 กันยายน 2546 13:39 น. - comment id 167269
น้าสิบ.. โอ๊ยยย ..มดกัดไหมคะ คุณฤกษ์.. การ์ดไม่มี มีแต่ซองผ้าป่าค่ะ สนมั๊ย บทกลอนที่คนคัดมาเป็นพระราชนิพนธ์ ตามนี้ค่ะ @ความเอยความรัก เริ่มสมัครชั้นต้น ณ หนไหน? เริ่มเพาะเหมาะกลางวางหัวใจ, หรือเริ่มในสมองตรองจงดี? แรกจะเกิดเปนไฉนใครรู้บ้าง? อย่าอำพรางตอบสำนวนให้ควรที่ ใครถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงระตี ผู้ใดมีคำตอบขอบใจเอยฯ @ตอบเอยตอบถ้อย เกิดเมื่อเห็นน้องน้อยอย่าสงสัย; ตาประสบตารักสมัครไซ้ร์ เหมือนหนึ่งให้อาหารสำราญครัน; แต่ถ้าแม้สายใจไม่สมัคร เหมือนฆ่ารักเสียแต่เกิดย่อมอาสัญ, ได้แต่ชวนเพื่อนยามาพร้อมกัน ร้องรำพรรณสงสารรักหนักหนาเอยฯ เวนิส วานิช พระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ยัยไหม.. เป็นงงกับคารมเพื่อนจอมป่วน เซี้ยวจัง .. หาได้มีผู้ใดมาฝากรัก เพียงแค่พักคำกานท์สมานฉันท์ คอยกูลเกื้อเผื่อแผ่ให้แก่กัน ผูกสัมพันธ์ไมตรีมิมีเลือน คนหนึ่งซึ่งอยู่ไกลอีกขอบฟ้า ยังห่วงหาติดตรึงซึ้งใดเหมือน ยามเพ่งมองปองจันทร์ดั่งฝันเตือน คิดถึงเพื่อนผู้อยู่ห่างกลางดวงใจ คุณชัยชนะ .. หนึ่งคนเขียนเพี้ยนจึงตอบ-ถามถ้อย เป็นเรื่องร้อยเรียงรักประจักษ์แจ้ง ใช่สองคนด้นความตามชี้แจง หรือแสดงความนัยจากใจตน ..
12 กันยายน 2546 14:28 น. - comment id 167283
เห็นคุณฤกษ์ถามเมื่อไหรร่จะแจกกร์าด(นี่) ไหมจึงพลาดหวังไปให้ใจหาย เเลยถามเลยว่าจะวันใด จะทำใจอยู่ให้ได้ไม่มีเธอ .................... มาต่อ แบบชอบป่วนน่ะอิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
12 กันยายน 2546 17:09 น. - comment id 167323
v อ่านแล้วเพราะจริงๆนะคะ เห็นภาพกระหนุงกระหนิงน่ารัก
12 กันยายน 2546 23:25 น. - comment id 167406
ขอถามเธอจันทร์นั้นอยู่ไหน อยู่แห่งใดในแคว้นใดถิ่นที่ ช่วยบอกหน่อยซิจ๊ะนะคนดี เพราะฉันนี้อยากรู้อยู่แห่งใด แล้วงามไหมดวงจันทร์ที่ฉันถาม เธอเคยเห็นความงามนั้นหรือไม่ ช่วยตอบหน่อยตอบให้ฉันเข้าใจ ว่าฉันนั้นอยู่ไหนและสวยไหมเล่าคนดี ***กลอนไพเราะมากเลยค่ะ ชอบจังเลย แต่ฝ่ายหญิงสั้นแต่งสั้นไปหน่อยนะค่ะ***
12 กันยายน 2546 23:55 น. - comment id 167417
....ไม่ต้องถึงดึงฟ้ามายังโลก ด้วยเป็นโชคที่ดีไม่มีเหงา ทุกนาทีที่ครบไม่ซบเซา อย่าปล่อยเปล่าผ่านไปให้เสียดาย เพราะโลกใหญ่ใบนี้มีหลายอย่าง เป็นคู่สร้างสมกันนั้นมากหลาย เกิดเป็นคู่ดูแลจนแก่ตาย ยังเวียนว่ายกันหมดชดใช้กรรม ได้เวลานาทีที่เป็นสุข ต้องซบซุกคว้าไว้ให้อิ่มหนำ อย่าสนใจใครเลยขอเอ่ยคำ มาพรอดพร่ำตามใจที่ได้เคียง... ....................สวัสดีครับ.............
14 กันยายน 2546 01:25 น. - comment id 167646
ขอบคุณค่ะ คุณทิกิ คุณผู้หญิงไร้เงา คุณแก้วโนรี ยัยไหม ..ฮื่มมมม
14 กันยายน 2546 09:50 น. - comment id 167689
เช็ดน้ำตา เถิดหนาเจ้า อย่าเหงากลุ้ม มรสุม เลวร้าย กลายหลีกหนี มอบสุขใจ สายสัมพันธ์ มั่นไมตรี จันทร์เพ็ญนี้ ดูสิเย็น เด่นงามตา คนเรานั้นบางครั้งนั้นก็ไม่อาจกระทำตามความปรารถนาของจิตใจตนเองได้ ถ้าจะทำอะไรอีก ก็ขอให้คิดคำนึงถึงชื่อเสียงที่สะสมมา และศรัทธาของมิตรกลอนที่มอบให้ จะอย่างไรเราก็ยังอยู่ด้วยกันค่อย ๆ สายฝันไปเพื่อให้เกิดความสุขใจของทุกคน
14 กันยายน 2546 12:02 น. - comment id 167709
สำนวนทั้งหญิงและชาย ก็สำนวนคนเดียวกันเขียน ลูกลิงหลอกชาวบ้านอีกแล้ว เอ..หรือชาวบ้านหลอกตัวเองหว่า ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
14 กันยายน 2546 12:04 น. - comment id 167710
ก็เพียงล้อก้อเพียงหยอกใช่ชอกช้ำ ใช่ระกำห่างเหินเมินไปไหน ยังเป็นเพื่อนมิแรมร้างห่างไปไกล แค่มีใจคอยหยอกล้อยอดพธู ...........
14 กันยายน 2546 13:56 น. - comment id 167731
คุณคนหนึ่งในบ้านเรือนไทย(โพเอ็ม) .. เพ็ญเยือนหล้าแต่ข้ากลับไม่เห็น หรือเมฆเข่นกลบนภาข้าโศกศัลย์ เพียรขุดบ่อด้วยทรายไม่เว้นวัน หวังเพียงจันทร์ตกหล่มจมบ่อใจ .. ลุงเวทย์คะ .. คือว่า อ่านคอมเม้นท์แล้วก็เริ่มจะงง เหมือนกันแล้วค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า .. อยากไปทะเลตรัง ตั้งแคมป์ที่นั่น ตั้งใจว่าจะไปเดือนหน้า แต่ตอนนี้ติดขัดบางอย่างทำให้ไปไม่ได้ .. ทำให้อกหักอย่างไรไม่รู้ ชอบกล..บอกไม่ถูก จันทร์ก็เป็นอะไรที่ชอบมากๆ เขียนถึงอยู่บ่อยๆค่ะ เลยวาดฝันไว้..ริมทะเล ขุดบ่อทราย แล้วให้เงาจันทร์อยู่ในบ่อทรายนั้น .. ใกล้แค่เอื้อม ไม่ไกลสุดคว้า .. ยัยไหม .. เพียงคำหยอกบอกกล่าวเรื่องในจิต แม่มิ่งมิตรอย่าชอกช้ำระกำหมอง แหย่ยั่วนิดมิถือผิดในทำนอง ยังปรองดองดุจเกลอเสมอมา