ห้องใจร้างขาดรักนานนักแล้ว และวี่แววความหวานป่วยการหวัง คนที่ถูกเขาทิ้งเหมือนชิงชัง ภาพความหลังคอยหลอนจนอ่อนแอ เป็นหัวใจที่มันหวั่นผวา กลัวใครมาใกล้ชิดสะกิดแผล ใจไร้ค่าไร้คู่คอยดูแล จึงมีแต่ความตรมทับถมใจ ผ่านคืนวันอ้างว้างอย่างปวดร้าว ผ่านความหนาวเนิ่นนานเกินทานไหว ผ่านทุกข์ร้อนที่รุมเหมือนสุมไฟ ผ่านหมองไหม้ฟ้ามืดฝันชืดชา คนว้าเหว่วังเวงรอเพลงหวาน ทรมานใจมากแทบอยากบ้า จนกระทั่งมีเธอเผลอเมตตา ปลุกศรัทธาอีกทีชุบชีวิต รอยระแหงแห่งใจในคราวขื่น กลับชุ่มชื่นด้วยรักที่ศักดิ์สิทธิ์ เธอคนดีดั่งน้ำอำมฤต ช่วยถอนพิษสมานแผลแก้โรคใจ ขอบคุณเธอเทวีที่แสนหวาน สำหรับการเยียวยารักษาไข้ จากคนเคยหมดค่าทอดอาลัย ฉันยิ้มได้วันนี้เพราะมีเธอ
30 มิถุนายน 2546 12:51 น. - comment id 150558
สวัสดีค่ะ แวะมาทักทายค่ะ ชื่อเรื่องน่าสนใจ เลยแวะเข้ามาดู พออ่านกลอน ก็ชอบค่ะ จะแวะมาอ่านเรื่อย ๆ นะคะ
30 มิถุนายน 2546 13:08 น. - comment id 150560
ค่ะ ชอบค่ะ ...สวัสดีค่ะ...
30 มิถุนายน 2546 13:19 น. - comment id 150566
คนว้าเหว่วังเวงรอเพลงหวาน ทรมานใจมากแทบอยากบ้า จนกระทั่งมีเธอเผลอเมตตา ปลุกศรัทธาอีกทีชุบชีวิต เผลอเมตตา.. นี่ถ้าเธอไม่เผลอคงไม่มีความรักกะเขานะเนี่ย.. :) ถ่่อมตัวจริงๆลุงเวทย์เรา :)
30 มิถุนายน 2546 14:25 น. - comment id 150579
เจ้าสาวฯ.....ขอบคุณครับ อ้อม.....ได้รับเมลลุงหรือยังเอ่ย หมอกจาก.....คนอาภัพก็แบบนี้แหละ ขนาดบ่นไปคนก็ยังไม่เชื่อ แงๆๆๆ
30 มิถุนายน 2546 14:43 น. - comment id 150582
...ได้รับแล้วค่ะลุง ตอบลุงไปแล้วค่ะ ลุงตอบอ้อมมาด้วยนะค่ะ อิๆๆ รออยู่ค่ะ ขอบคุณค่ะ (^_^)....
30 มิถุนายน 2546 16:34 น. - comment id 150593
เพราะอ่ะฮะ ชอบวรรคสุดท้ายมากๆๆๆๆๆๆๆๆ
30 มิถุนายน 2546 17:06 น. - comment id 150601
ชอบท่อนที่ว่าผ่านหมองไหม้ฟ้ามืดฝันชืดชา จังเลยค่ะ รู้สึกว่าเป็นคำที่ตรงกับอารมณ์มากๆเลย
30 มิถุนายน 2546 17:39 น. - comment id 150605
อ้อม(อีกรอบ).....ลุงก็ตอบกลับไปอีกหนแล้ว ก้อง.....นี่ถ้าไม่เห็นว่า login ก็จะคิดว่าใครปลอมมา เพลง.....โห! เขียนตั้ง 24 วรรค ชอบแค่วรรคเดียวเองเหรอ แหงะ
30 มิถุนายน 2546 17:52 น. - comment id 150611
อ้อรู้แล้วลุงเวทย์อกหัก หรออ้ออ...................................................อย่างนี้นีเอง อย่างนี้ต้องร้องเพลง หากเป็นนก ฉันจะโผ บิน แค่ได้ยิน เธอนั้นหลาย ใจ ฉัน คง บินไป ไม่ไหว ปีก หัก ทันใด เพราะเธอ หากเป็นนก ฉันคงเหลิง ลม สิ่งที่ชม คือความ พร่ำเพ้อ ความรัก ชักนำพบ เจอ กลับเห็นเธอ นั้นมีคู่ ใจ ซม ซาน ทรมาน หัวใจ หมอง ไหม้ ดั่ง นก เจ็บปวด ใจ แอบ ร้องไห้ หัวใจรัก พัง หากเป็นนก ฉันคงหลง ลม สิ่งที่ ชม คือความ สิ้น หวัง ความรัก ฉันรักจริง จัง ต้อง ผิดหวัง อ้างว้าง เดียวดาย ซม ซาน ทรมาน หัวใจ หมอง ไหม้ ดั่ง นก เจ็บปวด ใจ แอบ ร้องไห้ หัวใจรัก พัง ...ดนตรี.............. (นา น่า นา น้า น้า นา น้า) ..ซม ซาน ทรมาน หัวใจ หมอง ไหม้ ดั่ง นก เจ็บปวด ใจ แอบ ร้องไห้ หัวใจรัก พัง หากเป็นนก ฉันคงหลง ลม สิ่งที่ ชม คือความ สิ้น หวัง ความรัก ฉันรักจริง จัง ต้อง ผิดหวัง อ้างว้าง เดียวดาย ต้อง ผิดหวัง อ้างว้าง เดียวดาย
30 มิถุนายน 2546 19:58 น. - comment id 150655
ไพเราะมากค่ะ..คุณลุงเวทย์...กุหลาบสีขาว..คือความรักบริสุทธิ์..ที่มอบให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน... ชื่นชมมากค่ะ...ด้วยใจจริงนะคะ.. .
30 มิถุนายน 2546 20:08 น. - comment id 150658
idaho.....น่าสงสารมั๊ยล่ะ อิอิ ราชิกา.....:)
30 มิถุนายน 2546 20:12 น. - comment id 150660
ขอชื่นชม......ด้วยใจ....ที่เปี่ยมด้วยความชื่นชอบ..และศรัทธาค่ะ.....
30 มิถุนายน 2546 20:20 น. - comment id 150663
ได้รับแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ อ้อมรู้สึกว่าการแต่งกลอน ยากขึ้นเยอะเลยค่ะ อิๆๆ แต่จะลองทำการบ้านค่ะ ไว้รอลุงมาตรวจงาน ค่ะ ...............(^_^).............
30 มิถุนายน 2546 21:03 น. - comment id 150682
รอยระแหงแห่งใจในคราวขื่น กลับชุ่มชื่นด้วยรักที่ศักดิ์สิทธิ์ เธอคนดีดั่งน้ำอำมฤต ช่วยถอนพิษสมานแผลแก้โรคใจ --------- ชอบบทนี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โดนใจๆๆ (ปล. อันข้างบนทำมัยมัน post ไม่ครบหว่า)
30 มิถุนายน 2546 21:19 น. - comment id 150688
ครูมล.....ขอบคุณครับ อ้อม.....แล้วจะรู้ว่าง่ายกว่าที่คิด นักเดินทาง....ลบอันที่ไม่ครบออกให้แล้วนะ
30 มิถุนายน 2546 21:22 น. - comment id 150691
โอ๊ย หัวใจผมเดาะ แหมจำเพาะมาเดาะเอาตรงหัวใจ ... อะ..แฮ่ม !!!
30 มิถุนายน 2546 21:52 น. - comment id 150704
๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ ยอดคำ ......... ลุงนะลุง กลอนนี้โดนมากค่ะ เล่นทั้งสัมผัสนอก ใน อักษร เสียง โห.......... นับถือๆๆๆ
1 กรกฎาคม 2546 00:59 น. - comment id 150745
นี่ถ้าไม่รู้จัก อาจจะหลงคารมไปแล้วแน่ๆ
1 กรกฎาคม 2546 06:24 น. - comment id 150767
:)
1 กรกฎาคม 2546 09:57 น. - comment id 150800
ลูกลิง.....เอาเหล็กดาม หรือเอาโซ่ล่ามดีล่ะ พิมพ์.....หนูก็พูดเกินปายยยยยยยย ละอองน้ำ.....พูดแบบนี้เดี๋ยวคนอื่นเข้าใจผิดนา อิอิ ไข่เจียว.....ยิ้มมีเลศนัยอ้ะ
1 กรกฎาคม 2546 14:44 น. - comment id 150850
^*^ ^*^ ^*^.....สละสลวยงดงามมากๆเลยค่ะ....^*^ ครบทุกรส หมดจดงดงาม อารมณ์ พริ้วไหวตามในอักษร จนต้องอ่านสามรอบเลย เยี่ยมค่ะ ^*^..................^___^.....................^*^
1 กรกฎาคม 2546 14:50 น. - comment id 150853
ขอแก้อีกทีพร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่ครับ ก็ยังรัก ๏ ทุกวันยอมตรมอยู่เป็นผู้แพ้ ด้วยรู้แน่รักอนาถขาดวาสนา เธอควรหงส์ฉันควรอยู่เคียงคู่กา อันความรักหรือมีค่ากว่าเงินทอง ทั้งที่รู้อยู่กับใจเธอไม่รัก ยอมจมปลักใจตนยอมหม่นหมอง ทั้งหญิงอื่นมากมายให้หมายปอง แต่ใจร้องเธอเท่านั้นมั่นแอบอิง ทั้งรู้ว่าเธอเกลียด...เธอเหยียดหยาม ซ้ำเยาะเย้ยทุกยาม...ยอมทุกข์ยิ่ง แต่เหมือนฉันมองไม่เห็นความเป็นจริง ฝันคอยกิ่งฟ้าโน้มประโลมใจ ฉันคงเป็นคนต่ำให้เธอข่ม เห็นเธอควงคู่ชมหน้าใหม่ใหม่ พร้อมสายตาเยาะเย้ยผ่านเลยไป คงสาสมสุขในใจของเธอ ห้ามสายตาไม่ให้มองจ้องดูเขา สายตาเรากลับมองจ้องยามเผลอ หักห้ามใจไม่ให้รักไม่อยากเจอ ใจยิ่งเพ้อยิ่งสลักรักจีรัง ทุกวันยอมตรมอยู่เป็นผู้แพ้ ด้วยรู้แน่รักนี้ไม่มีหวัง หักใจห้ามเท่าไหร่ใจไม่ฟัง แม้รู้ว่าเธอชัง...ก็ยังรัก ๚ ๑ กรกฎ ๒๕๔๖ ลุงเวทย์ ลบข้างบนให้ด้วยครับ
1 กรกฎาคม 2546 15:21 น. - comment id 150863
แนทตี้.....บินอยู่ข้างบนเหงาละสิ ถึงมาหลอกลุงให้ลอยขึ้นไปหา จอมยุทธฯ.....กลอนบทที่ฝากไว้นี่ เอาไปลงเมื่อไร เรตติ้งนายเวทย์คงตกไปแยะ คนหนีไปอ่านของจอมยุทธฯ แทน อ้อนซะขนาดนี้......
1 กรกฎาคม 2546 15:56 น. - comment id 150875
เทวีหวานละลายใจคือใครหนอ ให้เวทย์รอให้หลงรักภักดิ์เพียงนี้ พุดพัดชาชอบคำวอนอ้อนแบบนี้ แต่ไม่มี..ใครสักคน..สนใจเลย..ฮือๆๆอิจฉาจัง.. (ยังจะหวังอีกหรือนี่..)
1 กรกฎาคม 2546 16:25 น. - comment id 150886
พุดพัดชา..... คือเทวีที่เจอตอนเพ้อฝัน ตื่นก็พลันพร่าเลือนเหมือนภาพหลอน ชีวิตจริงต่างหากจากบทกลอน แค่เริ่มอ้อนเธอก็เอ็ด...เข็ดจริงเออ
2 กรกฎาคม 2546 12:00 น. - comment id 150908
ใกล้หรือห่างต่างกันแค่ฝันใฝ่ ไกลหรือใกล้ใช่จะเป็นเช่นขวางหนาม ขอแค่เพียงใจนี้มีพยายาม รักก็ข้ามความห่างไกล..ไปหาเธอ . . . . . . .. . . หวังว่าคงได้เจอเทวีที่หัวใจ คนนั้นเร็วนะจ้ะ
2 กรกฎาคม 2546 12:08 น. - comment id 150909
Mercury.....น่าจะชวน Cupid มาด้วยนะ เฮ้ออออ
2 กรกฎาคม 2546 19:38 น. - comment id 151024
อยากรู้จังเทวีคนนั้นคือใคร.. .................................................... ;) มาชื่นชมค่า
3 กรกฎาคม 2546 08:36 น. - comment id 151212
ฟองอากาศ..... คือเทวีแสนหวานหลังม่านฝัน ที่ทุกวันผู้ชายเขาเฝ้าแสวง ที่อบอุ่นละมุนละไมไม่เปลี่ยนแปลง ที่ไม่แล้งน้ำใจอันใสเย็น
5 กรกฎาคม 2546 10:38 น. - comment id 151859
...เสียงออดอ้อนถึงเทวีหลังม่านฝัน ใครคนนั้นคือใครที่ไหนหนอ ใครให้คุณลุงเวทย์เฝ้าคอยง้อ ใครที่รอคงงดงามหวานละมุน...
5 กรกฎาคม 2546 12:24 น. - comment id 151879
ร้อยกรอง.....ฝันสลายไปนานแล้วน่ะ โฮๆๆๆ
5 กรกฎาคม 2546 14:40 น. - comment id 151888
ทั้งคำอ้อนคำหวานละลานบอร์ด จะแทรกสอดความเห็นเป็นต้องเขิน อาจเป็นคนเซ่อใสใจแข็งเกิน เลยอ่านเพลินแล้วผ่านหวานไม่พอ คิดๆแล้วน่าจะอ่านบ่อยๆมากกว่านะเนี่ย จะได้หวานเป็นกะเค้ามั่ง จริงมะคะ อาเวทย์ อิอิ ~^_^~
5 กรกฎาคม 2546 20:31 น. - comment id 151961
เพราะดีครับ มี3คำที่จะบอกออกจากปาก คำนี้หวานมากๆอย่าพึ่งเขิน เเม้ไม่ชอบก็ต้องฟังอย่าละเลิน คำที่บอกนั้นคือฉันรักเธอ คนที่ชื่อเวทย์นี่เเก่เเล้วหรอเนี่ยว้าไวรุ่นระเซ็งหิหิ555เพราะมากเลยครับ
6 กรกฎาคม 2546 09:33 น. - comment id 152115
ส้มโอ.....หวานอมเปรี้ยวตามเคย ก็สมชื่อนะ ไม.....เพลง ฉันรักคนแก่ ก็เคยฮิตนา ขอบอก อิอิ
10 กรกฎาคม 2546 18:37 น. - comment id 153378
ไม่ได้ผ่านแวะเวียนมาเขียนนาน กลอนลุงเวทย์ยังหวานพริ้งไม่ทิ้งก่อน อ่านกี่ครั้งยังหวานรสในบทกลอน ให้หลานย้อนมองรักเก่าเคยเศร้ามา แม้วันนี้รักไม่สมหวังดั่งวาด ใช่หมายว่าไม่สามารถสู้ฝันฝ่า บางครั้งการอยู่คนเดียวเปลี่ยวเวกา สอนให้เรารู้จัก ค่า ในตนเอง ป.ล.ข้างบนมันไม่ลงชื่อน่ะค่ะ ตามฝัน เองนะคะ :)