เพชรน้ำค้างวูบหล่นพรมไพรพฤกษ์ ยิ่งยามดึกหรีดหริ่งยิ่งสรวลสันต์ ขับแสงนวลชวนใจในเงาจันทร์ หยาดสวรรค์พร่างมาจากฟ้าไกล หอมระรินกลิ่นบัวทั่วคุ้งน้ำ สายชลงามร้อยดาวพราวไสว จิตดึกด่ำล้ำลึกผลึกเงาใจ หมู่มวลไม้ร่ายรำจันทร์เดือนเพ็ญ ดั่งน้ำค้างกลางฟ้าที่ปรากฏ หล่นงามงดกระทบใจในแรกเห็น ชโลมโลกพรมฤทัยให้ฉ่ำเย็น รักระเด่นรออุษามาเนิ่นนาน จนดาวเลือนเดือนลอยคล้อยเคลื่อน ยิ่งย้ำเตือนมั่นรักอักษรสาสน์ จะอยู่เคียงเรียงข้างนางนงคราญ ดุจน้ำค้างเกาะเกี่ยวเรียวบุษบง ตราบอรุณทอแสงแห่งขอบฟ้า สกุณาเจื้อยแจ้วแว่วเสียงหลง มวลดอกบัวคลี่ใบในแดนดง น้ำหล่นลงบ่มงามกลางบ่วงใบ เผยผลิค่าน้ำฟ้าอุษาส่อง ตามครรลองระเหยเปรยรักไว้ จากหยดน้ำเกาะพรายกลายเป็นไอ น้ำค้างไพรดั่งรักร้างตามเตือนมา เห็นดวงจิตเห็นสัจความพรัดพราก รอยร้างจากพรากไปให้ห่วงหา แม้นงามหยดรดใจให้ตรึงตรา ถึงเวลาต้องปลิดพรากไปจากใจ อีกความนัยซ่อนเร้นเช่นหยดน้ำ ระบัดงามครองทั่วบัวน้ำใส กลิ้งเกลือกกลอกยอกย้อนบอนบัวใบ ล่อดวงใจให้หลงตามนานชั่วกัลป์ .............................. อ่านบทกวีบทหนึ่งของ จิระนันท์ พิตรปรีชา ในกวีพรรณาถึงความงามของหมู่มวลดอกไม้ที่เบ่งบาน กับ อหังการแห่งดอกไม้ ให้กลับมานึกว่าทุกอย่างในโลกใบนี้ย่อมมีสองด้านในงามนั้น...เพียรมองให้เห็นงามและเห็นคติแห่งตามธรรมชาติ แล้ววันหนึ่งเราอาจจะรู้ว่าธรรมชาตินั้นตะโกนโหวกแหวกสอนธรรมให้แก่เราทุกๆ วินาที เพียงเปิดใจรับฟัง......
6 มิถุนายน 2546 00:21 น. - comment id 143382
ชอบ .. ทั้งลำน้ำน่าน และอหังการ์ของดอกไม้ ค่ะ
6 มิถุนายน 2546 00:40 น. - comment id 143390
เคยเขียนเกี่ยวกับบัวชื่อ..บัวริมบึงบัวบังใบ..ไว้ยาวมาก.เกี่ยวกับประโยชน์ของบัวตั้งแต่รากเหง้าถึงใบ..ลองหาอ่านดูนะคะ จะดีใจมาก.. บทนี้..ขอต่อสดๆสั้นๆดังนี้นะคะ ดอกบัวบานผ่านพ้นน้ำงามเยือนหล้า รอเวลาอรุโณทัยไขม่านฝัน หยาดน้ำค้างกลางใบบัวสลายพลัน น้ำค้างฝันน้ำค้างใจงามแค่ไหนเหมือนในบัวก็อำลา..มิถาวร!
6 มิถุนายน 2546 06:14 น. - comment id 143398
มาชื่นชมครับ
6 มิถุนายน 2546 09:31 น. - comment id 143409
ไพเราะมาก ให้แง้คิดดีค่ะ
6 มิถุนายน 2546 13:40 น. - comment id 143454
หยดน้ำที่อยู่บนใบบัว ถ้ามองลึกๆแล้ว. . . . มันทำให้เราคิดอะไรได้หลายอย่างเลยนะค่ะ (แถมใจยังไหวๆ ด้วย) =^_______^=
6 มิถุนายน 2546 13:45 น. - comment id 143455
ไพเราะมากเลย แวะมาชื่นชมความงามของดอกบัวจ๊ะ
6 มิถุนายน 2546 16:00 น. - comment id 143494
วู้ๆๆ ว้าวๆๆ ยอดเยี่ยมมากเลยครูนิว...
6 มิถุนายน 2546 20:37 น. - comment id 143573
หอมระรินกลิ่นขจรวอนให้รู้ ว่ามีผู้เฝ้าพะวงและหลงใหล อักษราหวานบทกลอนสอนจิตใจ มอบแนวคิดแห่งพฤกษ์ไพรในกวี ดั่งน้ำค้างพราวพร่างกลางใบบัว จะดีชั่วอยู่ที่ตัวของเรานี้ น้ำค้างกลิ้งกลับกลอกบอกวาที อันนารีมีวันพรากและจากไกล สัจธรรมน้อมนำใจให้ได้คิด ทำชีวิตให้สว่างกระจ่างใส ว่างที่จิตสงบนิ่งในหทัย หลุดพ้นไป..อยู่ที่ใจ..ของเราเอง....ฯ บทกวีไพเราะ..ให้แนวคิดในหลายมุมมอง..ขึ้นอยู่ว่าเราจะมองในมุมไหน...งามด้วยภาษาและลีลากลอน...ชอบมากค่ะ
6 มิถุนายน 2546 21:17 น. - comment id 143588
^J^ ................... อืมมม์...........ดีครับ........ได้แนวคิดสะกิดใจ...ฯ
6 มิถุนายน 2546 23:57 น. - comment id 143633
ทุกบทกลอน..ของพี่นิว.. สวยงาม..กับความรู้สึก.. เรน อยากเขียน.. แบบพี่นิวจัง.... มีสาระ .. ให้แง่คิด .. สื่อ..ได้ตรง.. ..เรน..ชื่นชม นะคะ.. แบบว่า เรน ตาร้อน..เล้ยยแระ!!
7 มิถุนายน 2546 00:39 น. - comment id 143649
ชอบภาพทุกภาพของลำน้ำน่าน รักทุกบทกวีที่พิสุทธิ์ใสพร่างพรมห่มให้เนื้อใจทุกดวงนวลงาม มาดูภาพอีกคราครั้งค่ะ
7 มิถุนายน 2546 23:54 น. - comment id 143896
ขอบคุณครับทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันเสมอ ที่อยากจะบอกว่า การเขียนกลอนแต่ละครั้งนั้นก็นึกถึงกำลังใจของทุกดวงใจที่มอบให้กันในไทยโพเอ็มแห่งนี้ครับ..... ขอบคุณครับผม
9 มิถุนายน 2546 16:37 น. - comment id 144192
ไพเราะมาก ทุกตัวอักษรสวยงามไปหมดเลย
12 มิถุนายน 2546 12:40 น. - comment id 144630
เห็นน้ำใสที่กลอกกลิ้งบนใบบัวแล้วนึกถึงน้ำใจใครคนหนึ่ง