......ธารสวาทสาดคลื่นอยู่ครืนโครม เรือลำน้อยล่องรี่โถมถลาใส่ โต้กระแสชลธีที่เกรี้ยวใจ มิเกรงกลัวสิ่งใดในสายธาร ......ม่านโลกีย์บังใจให้บ้าคลั่ง ล่องเรืออออกจากฝั่งอย่างกล้าหาญ มีรอยยิ้มอิ่มเอมใจชมสายธาร คลื่นมายาซัดซ่านสู่อารมณ์ ......ล่องลอยไปธาราใสกลับเปลี่ยนแปร เรือรักแพ้พ่ายคลื่นจนขื่นขม เรือกระดาษไม่อาจทานกระแสลม คลื่นรักลวงทำเรือจมกระแสธาร
28 เมษายน 2546 21:46 น. - comment id 132554
มาเป็นกำลังใจนะคะ
28 เมษายน 2546 22:13 น. - comment id 132568
กระดาษโดนน้ำก็เปื่อยและขาดเนอะ ถ้าเปียกน้อยไม่เป็นไร ถ้าเปียกมากก็รุ่ย
28 เมษายน 2546 23:28 น. - comment id 132626
นึกถึงเพลงเรือรักกระดาษเลยค่ะ ความหมายดีจัง
29 เมษายน 2546 00:21 น. - comment id 132653
..ขอบคุณทุกท่านนะครับ ที่ต้อนรับผมจนอบอุ่นเลย ความกลัวจะเชยหายไปเกือบเดี้ยงแล้วครับผม .....ณรังษี.....
29 เมษายน 2546 09:23 น. - comment id 132809
ชะรอย....น่าสงสารเรือลำน้อยจังเลย ต้องเอาน้ำยาแห่งรักมาทาจิ จาได้แข่งแกร่ง แล้วก็เหนียว ไม่ขาดง่าย คิคิ
29 เมษายน 2546 11:23 น. - comment id 132860
แต่งเพราะจัง อ่านกลอนของคุณกี่อันๆก็เพราะทุกอันเลย เก่งจังเลยค่ะ
29 เมษายน 2546 11:42 น. - comment id 132876
เรือรักกระดาษ...คลื่นสาดในธารโลกีย์...ฯ แจมชอบเพลงนี้มากนะ.. ขอบคุณที่เขียนให้ได้อ่าน
22 พฤษภาคม 2546 00:04 น. - comment id 139928
อยู่ไกลฝั่งเฝ้าพะวังมองจุดหมาย หวังค้นพบผืนทรายที่ใฝ่ฝัน ผ่านน่านน้ำน่านฟ้ามานานวัน ยังไม่พบฝั่งฝันเลยสักครา ......เทียบเรือคอยลอยลำจนซ้ำซาก พบสวะหลายหลากลอยมาหา คลื่นกระทบกระแทกเรือโคลงธารา กระทั้นเรือออกจากท่ามายาลวง .......ทิ้งหัวใจไว้ที่ปลายฟ้าอีกฝั่ง มุ่งนาวาคืนรังแผ่นดินหลวง กลับมาสู่เรือนรับประทับทรวง ชมคลื่นลวงล้อลมชมทะเล ขอบคุณครับ..ตู่นุดี..น้ำมันพราย...สีน้ำฟ้า