เหม่อมองเดือนเคลื่อนคล้อยจนลอยลับ
สายตาจับดวงดาวพราวไสว
พระพายพัดผ่านมาพฤกษาไกว
หอมกลิ่นไอบุปผาแห่งราตรี
แอบส่งใจกับลมที่พรมผ่าน
ฝากเป็นสาส์นสื่อกลอนอักษรศรี
ถึงคนเคยรู้จักทักวจี
ป่านฉะนี้เป็นสุข ทุกข์อย่างไร
คงนิทรากับหมอนแต่ตอนค่ำ
พระพายพร่ำไม่รับเจ้าหลับใหล
สงสารดวงหัทยาเฝ้าอาลัย
ร้อยกรองไปไร้ค่าช่างอาภัพ
จนน้ำค้างพร่างพรมไร้ลมพัด
ดึกสงัดวังเวงแว่วเพลงขับ
หากเจ้าตื่นลืมตาขึ้นมารับ
จะกำชับสายหมอกให้บอกแทน
เสียงเจื้อยแจ้วไก่ขันเริ่มวันใหม่
ทอดถอนใจกับโลกอันโศกแสน
ราวเราสองเหินห่างคนต่างแดน
แท้ก็แขนเอื้อมถึงคะนึงนวล
แสงอุษาสาดส่องทาบท้องฟ้า
ซบใบหน้าร่วงโรยจิตโหยหวน
ไร้วี่แววขานรับขับเพลงครวญ
แสนรัญจวนป่วนเปลี่ยวฝันเดียวดาย
สิงหาคม ๒๕๓๐