มองสายฝน หล่นมา จากฟ้าครึ้ม ยังนั่งซึม เหมือนใจ ไร้แรงสู้ หลายสิ่งเข้า เร้ารุม สุมน่าดู ช่างหดหู่ จริงหนอ ชักท้อใจ แลสายชล ล้นริน หมดสิ้นแล้ว มันส่อแวว จะต้อง หม่นหมองไหม้ เห็นผืนนา เวิ้งว้าง ช่างกระไร น้ำขุ่นไหล บ่ารวม นั้นท่วมนอง นานั้นล่ม จมหาย กับสายน้ำ ใจก็ช้ำ ตรอมตรม ระทมหมอง คนรักที่ ตัวเรา นั้นเฝ้าปอง ไม่มามอง งอนเง้า น่าเศร้าจัง พอยินคำ ย้ำว่า สัญญามั่น มอบให้กัน วันชื่น คืนฝนหลั่ง รักเราสอง ต้องมี ความจีรัง เมื่อได้ฟัง ยังปลื้ม ถึงลืมตรม ว่าละเมอ เผลอใจ ก็ใช่หรอก มานเคยบอก เตือนตัว กลัวขื่นขม เหตุว่าด้อย ศักดินา ค่านิยม เกรงไม่สม ขึ้นมา น้ำตาริน รู้ความใน ใจเจ้า เรายิ้มรื่น วันมะรืน น้ำลด คงหมดสิ้น มีแรงใจ ไถนา มุ่งหากิน ยังถวิล ร่วมเรียง เคียงนงราม พลายแก้ว
23 มกราคม 2555 13:18 น. - comment id 1221634
หากล้ม จงลุก อย่าทุกข์ท้อ เพียงขอ ใจสู้ กันสักตั้ง ตราบเท่า ที่เรา มีพลัง ความหวัง ไม่ไกล เกินใฝ่ปอง สวัสดีค่ะ แวะมาเยี่ยม ดิฉันสมัครใหม่รอรหัส แต่ก็ยังเข้าเมลไม่ได้อีกแหละ เพราะหิมะตกหนัก เน็ตเออเร่อ เซ็งเลย..เฮ้อ ชอบบทกลอนคุณมาก เกี่ยวกับชนบทดีค่ะ
25 มกราคม 2555 16:27 น. - comment id 1221988
ขอเป็นกำลังใจให้สมหวังในความรักนะค่ะ