แลตะวันสาดแสงลับ..ลาไกล แม่นละม้ายใจน้องเศร้า..โศกศัลย์ พี่เคยชิดเคยชมแฉล้ม..ออดอ้อน รำพัน ใยกลับลืมคืนวันเคยเคียง..ทิ้งน้อง..อาดูร ,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,
12 ธันวาคม 2552 18:04 น. - comment id 1067485
อิอิ..เพื่อนแอ๊บ มาแว้ว สงสัยต้องเปิดบ้านให้ครูกลอนมาสอนตัวต่อตัวซะแร้ววว เพื่อนแอ๊บเอ้ยย
12 ธันวาคม 2552 14:27 น. - comment id 1073233
แลสูรย์ยามส่องหล้า อัสดง ยามห่างใจยังคง ร่ำร้อง ถวิลวันชื่นคืนองค์ ไออุ่น จำห่างฤาจากน้อง ปล่อยให้อาดูร เพื่อนไม่ทิ้งกัน อิอิ มาแล้วจ้าา
12 ธันวาคม 2552 14:57 น. - comment id 1073244
มาอ่านอีกที อ่าา..ท่าจะโคลงเคลงซะแว้ว เพื่อนเหมียวเกลาเอาเองเน้อ
12 ธันวาคม 2552 18:30 น. - comment id 1073269
**แลตะวันลับฟ้า......ลาไกล ดุจดั่งดวงหทัย..........โศกเศร้า คืนวันเปลี่ยนผันไป....วานบอก...พี่เฮย คอยรักจักเคียงเฝ้า......ห่างเจ้าเรียมถวิล.....ฯ สวัสดีค่ะ..น้องพรพันดาว.. ..ขอต้อนรับ..น้องใหม่..ด้วยความยินดียิ่ง...เห็นน้องสนใจการแต่งโคลงสี่สุภาพ...ซึ่งมีแบบแผนเฉพาะ..เป็นฉันทลักษณ์ที่วางไว้..เน้น..เอก 7 โท 4...ตัวอย่าง... ๐ เสียงลือเสียงเล่าอ้าง อันใด พี่เอย เสียงย่อมยอยศใคร ทั่วหล้า สองเขือพี่หลับใหล ลืมตื่น ฤๅพี่ สองพี่คิดเองอ้า อย่าได้ถามเผือ จาก ลิลิตพระลอ ฉันทลักษณ์ ซึ่งเป็นลักษณะบังคับสำหรับการแต่งโคลงสี่สุภาพมี ดังนี้ ๑. คณะ คือข้อบังคับเกี่ยวกับจำนวนบท จำนวนบาทจำนวนวรรค และ จำนวนคำ ของ โคลงสี่สุภาพ คณะของโคลงสี่สุภาพ คือ บทหนึ่ง มี 4 บาท (เขียนเป็น 4 บรรทัด) 1 บาทแบ่งออกเป็น 2 วรรค โดยวรรคแรกกำหนดจำนวนคำไว้ 5 คำ ส่วนวรรคหลัง ในบาทที่ 1,2 และ 3 จะมี 2 คำ (ในบาทที่ 1 และ 3 อาจเพิ่มสร้อยได้อีกแห่งละ 2 คำ) ส่วนบาทที่ 4 วรรคที่ 2 จะมี 4 คำ รวมทั้งบท มี 30 คำ และเมื่อรวมสร้อยทั้งหมดอาจเพิ่มเป็น 34 คำ ส่วนที่บังคับ เอก โท (เอก 7 โท 4) ดังนี้ บาทที่ 1 (บาทเอก) วรรคแรก คำที่ 4 เอก และคำที่ 5 โท บาทที่ 2 (บาทโท) วรรคแรก คำที่ 2 เอก วรรคหลัง คำแรก เอก คำที่ 2 โท บาทที่ 3 (บาทตรี) วรรคแรก คำที่ 3 เอก วรรคหลัง คำที่ 2 เอก บาทที่ 4 (บาทจัตวา) วรรคแรก คำที่ 2 เอก คำที่ 5 โท วรรคหลัง คำแรก เอก คำที่ 2 โท แผนผังตัวอย่าง ๏ กากากาก่าก้า กากา(ส) กากา กาก่ากากากา(ส) ก่าก้า(ท) กากาก่ากากา(ส) กาก่า กากา กาก่ากากาก้า(ท) ก่าก้ากากาฯ ( ส) คือ คำสัมผัส ซึ่งเป็นเสียงสามัญ ส่วน (ท) คือ คำสัมผัส คู่โท (ที่มา : กระทู้ของคุณคนกุลา...เมื่อผมอยากเรียนแต่งโคลง..ครับ...) ...พี่ลองแต่งโคลงสี่สุภาพ...โดยใช้เนื้อหาเดียวกันกับน้อง..แต่ให้ตรงตามฉันทลักษณ์....ลองพิจารณาดูนะคะ...ถ้าน้องฝึกบ่อยๆก็จะแต่งโคลงได้ค่ะ..ลองดูนะคะ...แวะมาทักทายและให้กำลังใจกันค่ะ.....( ลองไปอ่านกระทู้การเขียนโคลง..ของคุณคนกุลาดูนะคะ...จะทำให้มัความรู้เพิ่มมากขึ้นค่ะ ).....
12 ธันวาคม 2552 18:58 น. - comment id 1073296
มาขอเรียนด้วยคน ขอบคุณครูตุ้มค่ะที่เสียสละเวลามาแนะนำ
12 ธันวาคม 2552 19:13 น. - comment id 1073304
เพียงตะวันผ่านฟ้า ลาลับ รอนแรม จันทร์จ่างแสงแสดง เด่นหล้า เสมือนหนึ่งสำแดง กาลเปลี่ยน เวลา ผันผ่านวันคืนแล้ว ดั่งย้ำ เตือนตัว. ได้ไหมอ่ะ คุณพี่ราชิกาขา รบกวนแนะแนวให้ด้วยนะคะ ขอบพระคุณมากมากค่ะ
12 ธันวาคม 2552 19:44 น. - comment id 1073319
เพียงตะวันผ่านฟ้า ลาลับ จันทร์จ่างในคืนดับ ผ่องแผ้ว วันคืนเปลี่ยนเวียนนับ วันใหม่ มิรอ เฉกเช่นดังนี้แล้ว เร่งสร้าง ทางบุญ ุ งั้นอีกอันค่ะ พยายามสัมผัสให้ได้อ่ะค่ะคุณครู แต่คำไม่สวย ไม่รื่นหูเลยค่ะ เกลาให้หน่อยนะคะ
12 ธันวาคม 2552 19:51 น. - comment id 1073322
...น้องพรพันดาว.... บังคับ เอก7 โท 4 เริ่มได้แล้ว..แต่สัมผัสยังไม่ถูกต้องนะคะ...พี่ขอยกตัวอย่างโคลงนี้นะคะ **แลตะวันลับฟ้า......ลาไกล ดุจดั่งดวงหทัย..........โศกเศร้า คืนวันเปลี่ยนผันไป....วานบอก...พี่เฮย คอยรักจักเคียงเฝ้า......ห่างเจ้าเรียมถวิล.....ฯ แผนผังตัวอย่าง ๏ กากากาก่าก้า กากา(ส) กากา กาก่ากากากา(ส) ก่าก้า(ท) กากาก่ากากา(ส) กาก่า กากา กาก่ากากาก้า(ท) ก่าก้ากากาฯ ( ส) คือ คำสัมผัส ซึ่งเป็นเสียงสามัญ ส่วน (ท) คือ คำสัมผัส คู่โท ไกล....สัมผัส หทัย..ในบาทที่ 2 ไกล....สัมผัส..ไป...ในบาทที่ 3 เศร้า...สัมผัส เฝ้า..ในบาทที่ 4 ลองฝึกอีกครั้งนะคะ..ฝึกบ่อยๆ..เดี๋ยวก็คงแต่งได้ดี...พี่เอง..ก็ฝึกหัดเช่นเดียวกัน..ถือว่าแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันนะคะ...
12 ธันวาคม 2552 20:10 น. - comment id 1073328
เพียงตะวันผ่านฟ้า ลาลับ จันทร์จ่างในคืนดับ ผ่องแผ้ว วันคืนเปลี่ยนเวียนนับ วันใหม่ มิรอ เฉกเช่นดังนี้แล้ว เร่งสร้าง ทางบุญ โคลงนี้..เริ่มดีขึ้นค่ะ...คำบังคับ..และสัมผัสได้แล้ว....ดูความหมายอีกครั้งนะคะ... พี่ลองเกลาให้นะ... เพียงตะวันผ่านฟ้า ลาลับ ศศิธรในคืนดับ ผ่องแผ้ว เวลาเปลี่ยนเวียนนับ วันใหม่ หวนนา เฉกเช่นดังนี้แล้ว เร่งสร้าง ทางบุญ ....ฯ คงพอได้นะคะ..ไม่อยากให้ความหมายเปลี่ยนค่ะ..เอากำลังใจมาให้ค่ะ...ไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยกันใหม่นะคะ...
12 ธันวาคม 2552 21:13 น. - comment id 1073354
ดีใจที่ได้รับเกียรตินี้ครับ ....แต่ความจริงเรื่องกลอนไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่....ถ้าสืบประวัติดูช่วงแรกๆก็เมือนกับน้องนี้แหละครับ.... อยากแต่งอะไรก็แต่งอยากคิดอะไรก็เขียนลงไป.....ที่พี่คิดว่าง่ายคือกลอน... กลอนแปด เป็นคำประพันธ์อีกชนิดหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมกันทั่วไป เพราะเป็นร้อยกรองชนิดที่มีความเรียบเรียงง่าย ต่อการสื่อความหมาย และสามารถสื่อได้อย่างไพเราะ ซึ่งกลอนแปดมีการกำหนดพยางค์และสัมผัส มีหลายชนิดแต่ที่นิยมคือ กลอนสุภาพ กลอนสุภาพนับเป็นกลอนหลักของกลอนทุกชนิด ซึ่งจำแนกเป็นกลอน 6 กลอน 7 กลอน 8 และกลอน 9 ซึ่งมีหลักของการแต่งคล้ายคลึงกัน ในที่นี้จะกล่าวถึงหลักการแต่งกลอน 8 ซึ่งเป็นกลอนที่นิยม ดังนี้ จำนวนคำของกลอนแต่ละวรรคมี 8 คำ หรือ 9 คำ , 2 วรรคเป็นหนึ่งบาท , สองบาทเป็นหนึ่งบท คำสุดท้ายของวรรคหน้า (วรรคที่ 1) ต้องสัมผัสกับ คำที่ 3 หรือคำที่ 5 ของวรรคหลัง(วรรคที่2) คำสุดท้ายของวรรคที่ 2 ต้องสัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ 3 คำสุดท้ายของวรรคที่ 3 ต้องสัมผัสกับ คำที่3 หรือคำที่ 5 ของ วรรคที่ 4 ( แต่งครบ 4 วรรค หรือ สองบาท เป็น หนึ่งบท ) ถ้าจะขึ้นบทใหม่ ต้องให้คำสุดท้ายของวรรคที่ 4 ของบทที่หนึ่ง สัมผัสกับคำสุดท้ายของ วรรคที่ 2 ของบทใหม่ คล้องจองอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ดังแผนผังข้างล่าง...ตามตัวอย่าง แลตะวัน สาดแสง ลงแหล่งหล้า โอน้องยา ของพี่ นี้โศกศัลย์ พี่เคยชิด เคยออด พรอดรำพัน ใยลืมวัน เคยเคียง ที่เถียงนา
12 ธันวาคม 2552 21:35 น. - comment id 1073369
มาเป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ ๆ ค่ะ
12 ธันวาคม 2552 22:21 น. - comment id 1073392
อืม....แวะเข้ามาทักทายและเป็นกำลังใจให้ครับ
13 ธันวาคม 2552 07:42 น. - comment id 1073464
ขอบคุณงามงาม กะคุณปรางทิพย์ ค่ะ ที่มาชมผลงานน้องใหม่ และให้กำลังใจกัน สู้ตายค่ะ
13 ธันวาคม 2552 07:43 น. - comment id 1073465
ขอบคุณคุณสุริยันต์ค่ะ ที่เข้ามาให้กำลังใจ ไงจะส่งผลงานให้ติชม แนะนำด้วยนะคะ