ลมหนาวเหมันต์พัดผ่าน วันวานอับเฉาโรยแสง อ่อนโหยเชื่องช้าไร้แรง สิ้นแสงสดใสดังเคย ห้วงยามแห่งความเหว่ว้า เชื่องช้าทอดผ่านความฝัน มวลหมอกห่มคลุมนานวัน ม่านควันความเศร้ามาเยือน เหน็บหนาวเย็นเยือกถึงกระดูก ความมืดคืบรุกเวียนหมุน โศกเศร้าสูญสิ้นอาดูร เยือกแข็งเป็นศูนย์หัวใจ เฝ้ารอตะวันสาดแสง ขับแรงแห่งเหงาเลือนหาย สิ่งเดียวช่วยพาหนาวคลาย คือใจดวงนั้นของเธอ เธอดังแสงส่องสว่าง ส่องทางนำพาใจฉัน เธอเป็นดั่งแสงตะวัน ดวงนั้นที่ฉันเฝ้ารอ...
19 พฤศจิกายน 2552 14:05 น. - comment id 1043759
เฝ้ารอดวงตะวันสาดแสง คลายหนาว แห่งความ เหว่ว้า รอคอยดวงใจ กลับคืนมา แม้ใจอ่อนล้า ยังเฝ้ารอ...
19 พฤศจิกายน 2552 14:41 น. - comment id 1043776
ขอให้พบแสงแห่งหัวใจในเร็ววันนะครับ
19 พฤศจิกายน 2552 15:26 น. - comment id 1043783
อยากเห็นหน้าคนแต่งกลอนนี้จริงๆ
19 พฤศจิกายน 2552 16:41 น. - comment id 1043799
คิดถึงจริงๆครับ อ่านแล้วคิดถึงแฟนละเกิน อิอิ แฟนจ๋าๆๆๆๆๆๆๆ
19 พฤศจิกายน 2552 16:45 น. - comment id 1043801
อือ อือ อือ คุณเขียนได้เพราะมาก
19 พฤศจิกายน 2552 22:17 น. - comment id 1043963
ลมหนาว เย็นยะเยือก พัดเฮือกผ่าน ลนละลาน คว้าผ้าห่ม คลุมตนไว้ แสงสว่าง ของฉัน นั้นเป็นใคร วอนเจ้าไฟ มาส่องแสง ให้อุ่นที โอ้เหมันต์ คงหนาวแน่ อีกทั้งปี เพราะไม่มี คนดี มาส่องแสง ฝ่าลมหนาว จนตัวช้ำ น้ำตามแดง หวังเพียงแสง ไฟด้วยน้อย จากใจเธอ ปล. ไม่ได้หมายถึง ไฟจาก จขกท.นะง้าฟฟฟฟ แหะๆ
20 พฤศจิกายน 2552 10:27 น. - comment id 1066112
แต่งกลอนเพราะดีค่ะ อิอิ แวะมาเยี่ยมแล้วนะคะ