เสียงขลุ่ยครวญร้องร่ำทำนองหวาน แสบสะท้านทรวงในใครจะเหมือน น้องจากนาหายหน้าหลายวันเดือน ทรวงสะเทือนร้อนรุ่มกลุ้มอุรา ขลุ่ยครางครวญหวนนึกถึงคราก่อน ผมบังอรปลิวไสวคล้ายดอกหญ้า กลิ่นเนื้อนางยังตราตรึงซึ้งตรึงตรา สองดวงตางยังเคยพ้อพี่พองาม เสียงจิ้งหรีดกู่ร้องก้องไพรพฤกษ์ กลับบาดลึกดวงหทัยคล้ายหอกหนาม น้องรู้ไหมว่าใครรอขอคนงาม คอยไต่ถามข่าวทางนี้ทุกวี่วัน จดหมายพี่ส่งไปไม่คืนกลับ เจ้าลาลับไปไหนหนอจอมขวัญ ยังคำนึงคิดถึงแต่แจ่มจันทร์ เฝ้ารอวันเจ้านั้นหวนกลับนา เจ้าได้เป็นดอกฟ้าในบางกอก ทิ้งชายหนุ่มบ้านนอกให้โหยหา หรือเจ้านั้นลืมสิ้นซึ่งสัญญา ทิ้งพี่ปวดอุรารวดร้าวราน น้องเจ้าเอยไหนเลยจึงลืมได้ ทิ้งพี่ไว้ท่ามไฟรักยากหักหาญ เจ้ารู้ไหมว่าใครทรมาณ ทุกเวลาทิวาวารยากจักปลง เจ้าลืมสิ้นแม้กลิ่นจำปาหอม ดอกพยอมเจ้าจากไกลใฝ่เป็นหงส์ ไม่คิดฝันเจ้านั้นจะลืมลง เหลืออยู่ตรงนี้มีแต่หัวใจ เสียงเพลงขลุ่ยคงสิ้นลงแค่ตรงนี้ น้องคนดีคงไม่ฟังเสียงร่ำไห้ เจ้าฟังแต่เพลงสตริงซิ่งสะใจ เจ้าลืมได้แม้ขลุ่ยดังกลางท้องนา
6 กันยายน 2552 12:08 น. - comment id 995805
ชอบมากครับ ขออนุญาติก็อบบางบทไปใส่ท้าย msn นะจ๊ะ
29 สิงหาคม 2552 20:51 น. - comment id 1033336
ฝีมือกลอนเจ๋งคะ..อ่านแล้ว สะท้อนได้กับวิถีชาวนา..
30 สิงหาคม 2552 18:07 น. - comment id 1033614
แต่งได้อารมณ์กลอนมากๆ ครับ เป็นเรื่องราวน่าอ่านมากๆ
4 กันยายน 2552 22:18 น. - comment id 1035813
เพราะจังค่ะ ช้อบชอบ