สายลมพลิ้วปลิวพัดสะบัดไหว แค่กิ่งไกว-หากรากลึกผนึกหนา โอบกอดเธอที่ริมน้ำ...เห็นน้ำตา ยังตอกย้ำคำสัญญากล้ายืนยัน รักไม่อาจตัดขาดได้ดั่งสายน้ำ ดุจแว่นแก้วแวววับวามส่องความฝัน ลมไม่อาจหักไม้ใหญ่ให้ขาดพลัน รักของฉันย่อมไม่พราก...จากเธอไป เพราะไม่มีกำแพงใดไหนมาพราก ตราบห้วยแก้วยังเชี่ยวกรากและยิ่งใหญ่ เขื่อนทำนบหรือจะกั้นบั่นหัวใจ ขอโอบกอดเธอเอาไว้ชั่วฟ้าดิน ฉันรักเธอเพราะว่าฉันมั่นในรัก ฉันกอดเธอด้วยใจภักดิ์จนหมดสิ้น ไม่เคยมีสงสัยใดในดวงจินตน์ พร้อมส่งวิญญาณของฉัน...นั้นให้เธอ ที่มาของบทกลอน "น้อยไจยา" "แว่นแก้ว ลูกท้าว ไชลังกา ถูกพ่อแม่หมั้นหมายจะให้แต่งงานกับ ส่างนันตา ซึ่งเป็นเงี้ยวที่ร่ำรวย แว่นแก้ว ไม่ได้มีใจผูกสมัครรักใคร่กับ ส่างนันตา เพราะนางเองได้มอบหัวใจรักให้แก่ น้อยไชยา .....น้อยไชยารู้ข่าวการหมั้นหมาย จึงร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง จึงนัดหมายแว่นแก้วให้ไปพบตนที่น้ำตกห้วยแก้ว เพื่อปรึกษาหารือกัน . เมื่อวันนัดมาถึง ทั้งสองต่างมากับพี่เลี้ยง เมื่อถึงน้ำตกห้วยแก้ว ต่างก็พูดคุยกัน น้อยไชยาก็ตัดพ้อต่อแว่นแก้ว ว่าดอกแก้วดอกนี้จะไปเป็นของคนอื่นเสียแล้วแว่นแก้วก็บอกว่า นั้นเป็นตามลมที่พัดกิ่งใบมันให้ไหวต่างหาก ส่วนต้น หาได้ไหวตามไม่ ก็ยังเป็นแว่นแก้วเงาใสอยู่เช่นเดิม . แล้วแว่นแก้วก็ถามว่า รักตนจริงหรือว่าแค่หยอกเล่นกันแน่ น้อยไชยาก็บอกว่า รักจริงแท้แน่นอน หมายจะเอามาเป็นเมียแพงแนบข้าง แว่นแก้วก็บอกว่าหากพ่อแม่ไม่เห็นแก่ความรักครั้งนี้ ก็จะหนีตามน้อยไชยาไป ขณะที่นัดหมายกันอยู่นั้น ส่างนันตา ก็มาพบเห็นพอดี แล้วบอกว่า แว่นแก้วนี้ ตนเองได้หมั้นหมายไว้แล้ว ทำอย่างนี้จักได้อย่างไร ก็จะขอนำเรื่องนี้ไปฟ้องพ่อท้าวไชลังกา และอาจถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล . เมื่อกลับบ้าน ส่างนันตา ก็นำความไปฟ้องแก่ ท้าวไชลังกา จากแค่หมูบอกเป็นช้าง จากแค่แมวบอกเป็นเสือ ท้าวไชยลังกาจึงตามแว่นแก้วมาซักถาม แว่นแก้วก็ปฏิเสธและบอกว่าตนเองไปขายตลับเงินที่ที่ตลาดหัวสะพานใกล้กับคุ้มหลวง(คุ้มเจ้าแก้วนวรัฐ) ริมน้ำปิง ไม่ได้ไปพบใคร ส่างนันตา เห็นดังนั้นจึงนำความขึ้นศาล เมื่อศาลสอบความ สอบพยานต่าง ๆ แล้ว จึงตัดสินให้ แว่นแก้ว มีสิทธิ์ในการเลือกคู่ครองเอง และแล้ว แว่นแก้ว กับ น้อยไชยา จึงได้แต่งงานกันในที่สุด หลังจากที่ แว่นแก้ว แต่งงานกับน้อยไชยาแล้ว ทั้งสองนึกถึงความหลังครั้งไปพบกันที่ห้วยแก้ว จึงพากันไปยังที่ห้วยแก้วอีกครั้ง ขณะที่ทั้งสองชื่นชมกับธรรมชาติอันงดงามอยู่นั้น หาได้รู้ไม่ว่าอันตรายได้รออยู่ข้างหน้า ส่างนันตา ที่ผูกพยาบาทได้ลอบติดตามมา เพื่อรอโอกาส พอได้โอกาส ส่างนันตา ก็ยกปืนขึ้นเล็ง ไกปืนที่เหนี่ยวพร้อมกับเสียงปืนที่กึกก้องสะท้อนไปตามหน้าผา ร่างของน้อยไชยาก็ทรุดลง สิ้นใจลงตรงนั้นเอง เวบไซต์อ้างอิง http://www.oknation.net/blog/print.php?id=8531
26 กรกฎาคม 2552 21:36 น. - comment id 1019762
เนื้อเพลง น้อยใจยา........ คุณจรัล มโนเพ็ชร & และคุณสุนทรีย์ เวชานนท์ ชาย ปวง ดอกไม้ เบ่งบานสลอน ฝูงภมร ภู่ผึ้งสอดไซร้ ดอกพิกุลของเปิ้นต้นใต้ ลมปัดไม้มาสู่บ้านตู๋ ฮู้แน่ซัดเข้าสอดสองหู ว่าสีจมปู ถูกป้อมเก๊าเนิ้ง เก๊ามันต๋าย ป๋ายมันเซิ่ง ลำกิ่งเนิ้ง ต๋ายโก่นตวยแนว ดอกพิกุล ก่คือดอกแก้ว ไปเป๋นหองเปิ้น แล้ว เหนอ หญิง แปม เก๊าเนิ้ง กิ่งมันบ่ถอน บ่ไหวคลอนเฟือนเตี่ยงมันแต้เล่า ต๋ามกำลม เปิ้นปัดออกเข้า มีแต่เก๊า ไหวหวั่นคลอนเฟือน กิ่งมันแต้ บ่แซสะเหลือน บ่เหมือนลมเจย ลำเพย ก่จะนั้น ใจ๋คำญิง นี้หนิมเตี่ยงมั่น บ่เป๋นหองเปิ้นคนใด ยังเป๋นกระจก แว่นแก้วเงาใส บ่ไหวคลอนเงี่ยง จาย เหนอ ชาย ตั๋ว ปี้น้อยจักขอถาม ต๋าม กำลมเปิ้นมาเล่าอู้ ว่านายมีจู้ อยู่บ้านวังสิงห์คำ ฝ่ายตางปู้นเปิ้นมาใส่ผะจ๋ำ บ้านวังสิงห์คำ เปิ้นมาหมั้นก่ไว้แล้ว ตางฝ่ายปั๋นตั๋ว น้องนางแว่นแก้ว ก่ตกลงแล้ว บ่ไจ่กาหา เปิ้นจะกินแขก แต่งก๋านก่วิวาห์ เมื่อใดจา ปี้น้อยไคร่ฮู้เก้า ส่วนไจยาบ่สมเปิงเจ้า เพราะเขียมเข้าของเงินทอง ฝ่ายตางนาย บ่หมายเกี่ยวข้อง มาละหมองต่ำ ก้อย เหนอ หญิง ตั๋ว น้องนี้บ่ลาไหลหลง ก๋านตกลงก่ยังบ่แล้ว จึงเจิญตั๋วปี้มาห้วยแก้ว เพราะใคร่ฮู้กำฟู่กำจ๋า จึงเจิญน้อย ปี้มาเปิกษา จะว่าใดจา ตั๋วน้องก่ไคร่ฮู้ ก๋านตี้มาฟู่อู้ จะเอาเป็นจู้กาว่าเอาเป๋นเมีย หรือจักลบล้างลืมลายหน่ายเสีย บ่เอาเป๋นเมีย หรือจักทิ้ง เสียแล้ว หรือเอาเป๋น เมียนางจ้างแก้ว อยู่เป๋นกู้ ข้างเตียมคิง ขอบอกนายหื้อแน่ใจ๋จริง บ่อำพรางนาถ น้อง เหนอ ชาย บ่จุ๊หรอกน้อง หื้อหม่นหมองหมาง บ่ล่อลวงพรางแม่นางฮ้างแค้ว ปี้หมายเอาเป๋นเมียนางจ้างแก้ว บ่หื้อคลาดแคล้วเรื่องกำสีเนห์ หลอนแก้วน้องใจยังบ่เหว เตี่ยงสมคะเน เหมือนปี้กึ๊ดเล่า หลอนปี้จุ๊ก็ยังล่ายเจ้า ขอหื้อฟ้าผ่าหัวแม่เมียตาย ลูกแม่ญิง อู้เล่นก่บ่ดาย ลูกป้อจาย อู้แต้ก่บ่ปัง หลอนนายต๋ายไปเป๋นไก่ตั้ง ปี้น้อยจักต๋ายเป็นพื้น ฟู่บ่ถูก วันฟูกก่บ่ขืน ฟู่ม่าคืนตึงบ่ขืนเมื่อจ้าว ก๋านฮักกั๋นหองข้าตึงเจ้า เผียบเหมือนเหล้ากับปาง ปากกำไดปี้ก็ตึงอ้าง บ่ไจ่จางจาก น้อง เหนอ หญิง หลอน ว่าแต้เหมือนดั่งกำจา น้องขอสัญญากับตั๋วปี้น้อย บ่ขอฮักไผ ซักเต้ากึ่งก้อย ขอฮักปี้น้อย ไจยานี้ก่คนเดียว คนอื่นนับร้อยตึงบ่แลบ่เหลียว จะขอฮักเดียวจายเดียวก่เต้านี้ หลอนว่าน้องจุ๊หรือสัปปะรี้ ขอหื้อฟ้าผ่าหัวพ่อผัวต๋าย ลูกแม่ญิงบ่ไจ่ว่าบ่ดาย ลูกป้อจายขี้จุ๊ก่แต้ๆ กิ๋นก่ยังตึงแก้ สะเรียมยำใส่แย้ บะเขือแจ้ยำใส่เตา หลอนปี้น้อยไจยาฮักแต้ข้าเจ้า ก็ยินดีจิ่ม แต้ เหนอ...
26 กรกฎาคม 2552 22:12 น. - comment id 1019797
ริมน้ำปิง ชิงรัก หักสวาท ฝันที่วาด พลาดแล้ว นะแก้วพี่ ริษยา อาฆาต ดาดฤดี อเวจี ที่มอบ ตอบแทนมา ก็เศร้าจังเลยค่ะ เคยแต่ฟังเพลงนะคะ แต่เรื่องราวก็เพิ่งรู้เนี่ยค่ะ ขอบคุณค่ะ
27 กรกฎาคม 2552 11:21 น. - comment id 1019926
27 กรกฎาคม 2552 12:49 น. - comment id 1019967
เพราะจังครับ