_สายลมเย็นเห็นหน้าเธอบนท้องฟ้า ส่งสายตาหวานซึ้งพึงวาดหวัง มอบรอยยิ้มสวยใสในภวังค์ ประดุจดั่งแสงทองผ่องอำไพ _ประโลมเล้าเคล้าคลอพะนอรัก เห็นประจักษ์ในจิตพิสมัย หยาดมณีย้อยหยดรดหัวใจ แสนหวั่นไหวจริงแท้เพียงแต่เจอ _นั่งเคียงคู่คุยกันใต้จันทร์ส่อง ฉายสีทองส่องชูอยู่เสมอ สบสายตาสานฝันฉันและเธอ รักไหลเอ่อท่วมท้นล้นทรวงใน _มาวันนี้ไม่มีเธอเหมือนวันเก่า รักของเราหลีกหนีเสียที่ไหน ไม่มีแล้วเศษช่วงความห่วงใย เคยสดใสใต้แสงแห่งโฉมจันทร์ _นั่งโดดเดี่ยวเดียวดายใต้ฟ้ากว้าง แสนอ้างว้างเปลี่ยวใจเกินใฝ่ฝัน หมดเรี่ยวแรงซึมเศร้าเหงาทุกวัน ความมุ่งมั่นแหนหวงร่วงโรยรา _เคยภิรมย์ชมชื่นคราวคืนค่ำ กล่อมลำนำคำรักหวานหนักหนา เป็นอดีตตำนานพ้นผ่านมา เธอจากลาห่างไกลให้อาวรณ์...
12 กรกฎาคม 2552 23:19 น. - comment id 1013479
ตำนานรักเศร้า บทเคล้าน้ำตา หวานรักนักหนา ยังมาเอนเอียง
12 กรกฎาคม 2552 23:57 น. - comment id 1013485
นั่งโดดเดี่ยวเดียวดายใต้ฟ้ากว้าง แสนอ้างว้างเปลี่ยวใจเกินใฝ่ฝัน หมดเรี่ยวแรงซึมเศร้าเหงาทุกวัน ความมุ่งมั่นแหนหวงร่วงโรยรา ........................................... มองท้องฟ้า น้ำตา พาจะร่วง เจ็บในทรวง บ่วงรัก หักหันเห แม้แสนเจ็บ เหน็บหนาว คราวทุ่มเท โดนเล่ห์รัก หนักใจ ไฟสุมทรวง
13 กรกฎาคม 2552 10:41 น. - comment id 1013626
อ่านกลอนแล้ว สบายใจครับ ไม่ใช่เห็นคนเศร้าแล้วสบายใจ แต่บทกลอน คุณภาพน่ะครับ ยอมรับจริงๆ
13 กรกฎาคม 2552 20:03 น. - comment id 1013950
ตำนานรักอาจมีเศร้าเคล้าเจืออยู่ พินิจดูอยู่กับเหงาที่เศร้าขม แม้นชมจันทร์ยังมิพบสบภิรมย์ หรือระทมจะแฝงเงากับดาวเดือน.. ...แบบว่าชีวิตก็ยังงี้แหละครับ...เศร้า