ณ เนินกว้างทางไหนก็ไม้ดอก ที่ผลิออกอวดชูเต็มภูเขา แดดเช้าฉายไม้ช่อจึงก่อเงา สายลมเบาโบกคว้างอยู่กลางดิน เขาเงยหน้าตาหลับสดับเสียง แม้แผ่วเพียงลมพัดสัมผัสหิน แม้เสียงปีกกำดัดนกหัดบิน และได้ยินคำบอกของหมอกโปรย ภารกิจอยู่ยังอีกฝั่งฟาก เธออาจฝากข่าวไปหากไห้โหย ลมวสันต์กรรโชกจะโบกโบย เขารู้โดยยินแค่กระแสลม แม้มิใช่มนุษย์คนสุดท้าย เขายอมตายไม่พร้อมจะยอมล้ม มีความฝันวันตื่นไว้ชื่นชม ไม่ยอมก้มศีรษะต่อชะตา ในท้องน้ำค่ำไหนคงไม่ต่าง ทุกเดินทางคำตอบคือขอบฟ้า คงมีเรื่องเล่าฝากจากปากกา จะกลับมาสวมกอดเมื่อจอดเรือ ..จงเข้มแข็งเพื่อฉันอย่าหันหลัง หากเธอยังเชื่อมั่นเหมือนฉันเชื่อ หวั่นศรัทธาถอยห่างจนจางเจือ อย่าน้อยเนื้อต่ำใจยามไกลจร ถ้าใจน้อยบ่อยครั้งจะฝังราก จนลึกมากเกินหยั่งหรือรั้งถอน ถ้าคิดถึงทุกคราวก่อนเข้านอน ก็ยากคลอนใจคลายให้หน่ายกัน แหวนดอกไม้วงน้อยดูด้อยค่า สวมเถิดถ้าวันหนึ่งคิดถึงฉัน อาจเก็บไว้ใส่ตลับคอยนับวัน อย่าปล่อยมันทิ้งขว้างลงกลางทราย แหวนที่มือหยาบกร้านฉันสานจีบ ทุกก้านกลีบมาลีมีความหมาย มีสุขทุกข์เจ็บปวดเป็นลวดลาย ขมวดปลายเป็นขดแทนอดทน หวังหนาวหน้าฝ่าคลื่นมายืนคู่ ฝ่าฤดูมรสุมและกลุ่มฝน ผ่านวันล่วงเลยล่องเราสองคน คงข้ามพ้นความเหงาแห่งเยาว์วัย จะเรียนรู้ใจกันเมื่อวันห่าง ระยะทางเปลี่ยนแปรเราแค่ไหน ฉันจะยังคงรอเธอก่อไฟ โปรดอย่าให้ไฟสรวงนั้นร่วงลง ทะเลค่ำน้ำเค็มไร้เข็มทิศ เมื่อมืดมิดเรือน้อยคงลอยหลง ถ้าแสงสรวงดวงนั้นยังมั่นคง ก็โปรดจงส่องสว่างนำทางเรือ ฉันจะรอดาวรุ้งจนรุ่งฟ้า นำนาวาเดินทางด้วยหางเสือ หวั่นเขม่าเร้ารุมจนคลุมเครือ อาจเป็นเหยื่อมัจฉาให้ปลากิน ฉันจะใช้การกระทำแทนคำพูด บทพิสูจน์ชายชาญคืองานหิน เมื่อภาระผ่านพ้นไร้มลทิน นกขมิ้นอาภัพจะกลับรัง. ........................................ แล้วเรือลำน้อยน้อยก็ลอยล่อง สู่ห้วงท้องธารพรากไปจากฝั่ง เธอยืนมองท้องน้ำตามลำพัง ก่อนจะหลั่งน้ำตาอย่างล้าแรง จึงจับแหวนดอกไม้ที่ไร้ค่า เคยสัญญากับเขาจะเข้มแข็ง กลับผิดคำสัญญาสองตาแดง กลายเป็นแอ่งหยดน้ำแทนคำลา เพียงหวังการเดินทางใช่ลางร้าย ยังคาดหมายพบกันในวันหน้า แลเรือน้อยลอยลับไปกับตา ขณะฟ้าจรดน้ำเริ่มค่ำลง.. ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๒
14 มิถุนายน 2552 18:14 น. - comment id 999753
แวะมาชื่นชมแหวนดอกไม้ค่ะ
14 มิถุนายน 2552 18:16 น. - comment id 999755
หวัดดีวันอาทิตย์ค่ะคุณฤทธิ์ วันหยุดอากาศร้อนอ้าว อยากให้ฝนตกก็เงียบๆหาย พอวันทำงาน ตกได้ตกดี ฮี่ๆ บ่นไปงั้นแระ
14 มิถุนายน 2552 18:31 น. - comment id 999763
มาเดินชมดอกไม้ริมไพรกว้าง หลังจากวางอาหารจานอิ่มหนำ แหวนดอกไม้สวยงามตามจำนรรจ์ ผู้รับนั้นคงยินดีที่สุดเลย...
14 มิถุนายน 2552 18:53 น. - comment id 999774
แวะมาอ่านงานงามค่ะ..สบายดีนะคะ...
14 มิถุนายน 2552 19:06 น. - comment id 999781
When the boat already out off the shore, behind person still missing. and waiting for the day to return. Just hope the boat will be back in saved to see how the person take a good care of the flower ring Just the same with lives, waiting to return better than waiting to depart.
14 มิถุนายน 2552 20:34 น. - comment id 999795
5...... เจ๊ๆๆเจ๊หญ่ายยยย ขา ช่วยแปลหน่อยจิคะ เอ่อ..คือ แบบว่า นู๋โง่ภาษาปะกิตอ่ะคะ ถ้าภาษาไหหลำ นู๋สู้ตายล่ะก๊า แหะ.แหะ....
14 มิถุนายน 2552 21:25 น. - comment id 999833
มือหยาบก้านฉันสานจีบ แก้คำค่ะคุณฤทธิ์ มือหยาบกร้านนะคะ งานบทนี้งามเสียจนไม่ทราบจะบอกอย่างไร เขียนแบบนี้พาให้คิดถึงฉากฝันพะงันงาม แห่งดวงใจเสียเหลือเกินค่ะ ยอดเยี่ยมเสมอเลยค่ะ ด้วยรักชื่นชมอย่างที่สุด
14 มิถุนายน 2552 23:15 น. - comment id 999895
5555..... Chang Noi Bha Bha Ting Tong, Ha program plae Thai pen English si....... 555555555555 (Karaoke)
14 มิถุนายน 2552 23:15 น. - comment id 999896
ต่อให้เพชรเม็ดงามอร่ามล้ำ มิควรค่าจดจำหากไม่ใช่ แหวนจากคนที่ซาบซึ้งถึงหัวใจ แม้จะเป็นแหวนดอกไม้...ใจก็ยอม... มันอยู่ที่ใจค่ะคุณฤทธิ์ กลอนเพราะและมีความหมายดีมากๆ เขียนได้ยาวมากๆ ต้องตั้งใจอ่านดีดี.... และก็จบได้อรรถรสของความงามแห่ง บทกวีค่ะ....
14 มิถุนายน 2552 23:28 น. - comment id 999905
15 มิถุนายน 2552 06:53 น. - comment id 999959
ตอนจบเหมือน...ยังค้างใจแฟนขับ เอ๊ย แฟนคลับไม่รู้ว่าจะแฮปปี้เอนดิ้งมั๊ย.... ชุดสุดท้ายก็ยังคงมีกลิ่นอายความเศร้าอยู่นะคะ ชื่อกลอนของ ฤทธิ์ ศรีดวง ทำให้นึกถึงเพลงหนึ่งขึ้นมาค่ะ... เพลงแหวนดอกไม้ - ก้อง สหรัถ http://www.ijigg.com/songs/V2DDAG0PA0 แต่เพลงนี้ใสๆ ไม่เศร้านะคะ... ปล.ถ้าสนิมเริ่มเกาะเมื่อไหร่บอกนะคะ จะช่วยเคาะ
15 มิถุนายน 2552 06:56 น. - comment id 999961
ลองย้อนกลับไปอ่านบทกลอน "เรือ" กลายเป็นว่าคนที่รอคอย คือคนที่ออกเรือไปกลางทะเลนะคะ
15 มิถุนายน 2552 07:10 น. - comment id 999964
ได้อ่านงานที่มากด้วยคุณภาพอีกแระ ขอบคุณมากๆเลยค่ะที่รังสรรค์งานดีๆมาให้อ่านเสมอ
15 มิถุนายน 2552 08:07 น. - comment id 999995
เยี่ยมมากครับ ทั้งถ้อยคำ เนื้อหา และอารมณ์ ตอนแรกคิดว่าจะได้ อ่าน "เรือ" ภาคต่อไปเสียอีก แต่ได้อ่านภาคปฐมบทก็ดีครับ จะได้รู้ความเป็นไปของเรื่อง ภาคนี้อ่านตอนท้ายๆ ทำเอาขนลุกเลยครับ เห็นภาพของหญิงสาว ที่กำลังรูปแหวนของคนรัก ส่วนสายตาเหม่อมอง ไปท้องทะเลจริงๆ ขอบคุณสำหรับงานดีดีครับ รออ่านตอนต่อไปครับ
15 มิถุนายน 2552 08:23 น. - comment id 1000009
สวัสดีครับ อ่านงานทุกครั้งชอบในการสะท้อนความรู้สึก "ขอบคุณงานดีๆมากครับ"
15 มิถุนายน 2552 11:19 น. - comment id 1000108
ฉันจะใช้การกระทำแทนคำพูด บทพิสูจน์ชายชาญคืองานหิน เมื่อภาระผ่านพ้นไร้มลทิน นกขมิ้นอาภัพจะกลับรัง. ผมชื่นชมด้วยใจจริงๆครับ วันหนึ่งผมจะเขียนให้ได้ดีกว่านี้
15 มิถุนายน 2552 11:20 น. - comment id 1000109
เข้ามาอ่านบทกลอนคุณภาพ ของคุณฤทธิ์ ฯครับ
15 มิถุนายน 2552 11:48 น. - comment id 1000121
8......ขอบคุณพี่มัส ที่ชมว่า ฉางน้อยน่ารัก น่าน่าหยิก อิอิ เฮ้อ เก่งภาษาปะกิตก็คราวนี้ละยัยวาเอ๊ยย อิอิ จริงไหมคะพี่ฤทธิ์ แหะ.แหะ..มีหาพวกๆ
15 มิถุนายน 2552 14:44 น. - comment id 1000253
งานงามๆ กับเรื่องราวที่ดูเศร้าจัง
15 มิถุนายน 2552 18:27 น. - comment id 1000319
แวะมาสวัวดีตอนเย็นค่ะคุณฤทธิ์
15 มิถุนายน 2552 20:15 น. - comment id 1000386
งดงามแต้ แต้.....
15 มิถุนายน 2552 22:41 น. - comment id 1000470
๑.หญิงรพี นานแล้วนะที่เราไม่ได้คุยกัน สบายดีนะครับ เคยเข้าไปอ่านของคุณใบตองหลายครั้งเหมือนกันฝีมือ พัฒนา มากๆ ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ ๒.อิอิ สวัสดีวันจันทร์ กลางคืน เฮ้อ..คนเราเนอะ วันตกก็บ่น อากาศร้อนก็บ่น ทำงานสนุกดีหรือเปล่า ได้ข่าวว่าเบื่อประชุมมากจริงหรือเปล่า แล้วตอนนี้กบดานอยู่ระแวกไหนส่งข่าวหน่อย ขอให้มีความสุขในวันอาทิตย์นะครับ (ชอบฝนภาพนี้จัง ขอบคุณนะที่เอามาฝากกัน) ๓.ครูกระดาษทราย ไม่ค่อยได้คุยกันเลย สบายดีนะครับ ทานอะไรเป็นมื้อเย็นครับ ไม่ชวนกันเลย ขอบคุณสำหรับบทกลอนน่ารักๆครับ ขอให้มีความสุขมากๆครับ ๔.white rose สวัสดีครับ หายหน้าหายตาไปนาน น่าจะเอาผลงานดีๆมาอวดเพื่อนๆบ้าง ขอให้มีความสุขนะครับ ๕.คุณมัสลิน จริงครับคุณตั๊ก ความหวังเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนอยู่ต่อไปได้ พรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ อย่าในหลวงตรัสไว้ว่า..อย่าทำลายความหวังของใคร เพราะนั่นอาจเป็นสิ่งเดียวที่เขาเหลืออยู่ (น่าจะใช่นะ อะไรทำนองนี้) คุณตั๊กสบายดีนะครับ ได้ข่าวว่าน้องสาวจะนัดเจอ ถ้ามีโอกาสคงได้สังสรรค์กัน ขอบคุณที่ให้กำลังใจกันเสมอมา ขอให้มีความสุขมากๆครับ ๖.ฉางน้อย แปลกใจทำไมวันนี้มาได้ ตกลงมาทักพี่หรือพี่ตั๊กแตนกันแน่เนี่ย ขอให้มีสุขภาพดี และมีความสุขนะน้อง ๗.คุณพุด สาวบ้านนา ขอบคุณครับที่บอกกัน ผมทวนตั้งหลายเที่ยวยังผิดได้เลย ที่จริงงานที่เกี่ยวกับทะเลทั้งหมดของผมในช่วงปีกว่าๆที่ผ่านมา มีจุดกำเนิดจากที่เกาะพะงันทุกเรื่องเลยครับ ตอนนี้มาอยู่กรุงเทพฯ เจอความวุ่นวาย ยิ่งคิดถึงที่เกาะ ที่นั่นสงบนิ่ง เหมือนเวลาหยุดเดิน เย็น และเป็นสุขครับ ผมคงไม่ได้ไปที่นั่นอีกแล้วหลังจากงานเสร็จ ขอให้มีความสุขมากๆครับ ๘.คุณตั๊ก ปล่อยน้องสาวออกมาเพ่นพ่านได้ยังไงกัน อันตรายนะช่วงนี้ เดี๋ยวชาวบ้านติดหวัดใหญ่ 2009 กันหมด ช่วยจับเอาไปเก็บก่อนก็แล้วกัน ฝากด้วยนะฝากด้วย ๙.คุณวุ้นเส้น ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอด รวมถึงบทกลอนที่นำมาฝากด้วย เรื่องนี้เป็นพล็อตน้ำเน่าที่เกิดมาอย่างไม่ตั้งใจครับ คุณวุ้นเส้นน่าจะลองเขียนดูนะ ผูกเรื่องก่อนแล้วแบ่งเขียนเป็นช่วงๆ สนุกดีนะ ลองดูซิ ขอให้มีความสุขมากๆครับ ๑๐.ปิง เกือบไม่เห็นซะแล้ว มาเงียบๆไม่พูดไม่จา ขอให้มีความสุขมากๆครับ ๑๑.ฝน เรื่องนี้จบไปตั้งแต่ชุดที่แล้ว (ตุ๊กตาไล่ฝน) ชุดนี้ย้อนกลับไปตอนเริ่มต้นเรื่อง เพลงที่ว่าไม่เคยฟังเลยเชื่อไหม ชอบแต่ลูกทุ่งกับเพลงบรรเลง เปียโน ไวโอลิน ฟรุท และพวกเพลงจากซีรี่เกาหลี เช่น autumn in my heart และ winter love song สนิมคงไม่เกาะตอนนี้หรอกฝน แค่รู้สึกเบื่อๆ เมื่อก่อนเบื่อแป๊บเดียว แต่ตอนนี้เบื่อมานานแล้วไม่ยอมหาย สงสัยจะเริ่มอิ่มตัวกับงานร้อยกรอง ขอให้มีความสุขมากๆครับ ๑๒.เฌอมาลย์ ไม่รู้สิว่าเป็นไง เห็นชื่อนี้แล้วนึกถึงหนังเรื่องบุปผาราตรีทุกที ขอบคุณเช่นกันครับที่แวะมาอ่าน ขอให้มีความสุขมากๆครับ ๑๓. คุณสืบ จบแล้วครับ ไม่มีภาคต่อไปอีกแล้ว เรื่องมีอยู่ว่า มีชายหญิงคู่หนึ่ง ฝ่ายชายมีพลังพิเศษสามารถรับรู้อารมณ์ของอีกฝ่ายจากการฟังเสียงลม เสียงหมอก ต่อมาฝ่ายชายต้องออกเรือไปสะสางงานให้เสร็จ จึงให้แหวนดอกไม้ไว้ดูต่างหน้า ก่อนออกเรือไป วันหนึ่งเขาก็กลับมาตอนหน้าหนาว ฝ่ายหญิงกลับรู้สึกน้อยใจเหมือนถูกทิ้ง ซึ่งเขารับรู้ได้จากเสียงหมอกจึงไม่กลับเข้าฝั่ง แต่ตอนหลังรู้ได้ว่าเธอคอยอยู่แต่ตัวเองกำลังเป็นไข้หนัก กลับมาไม่ไหว จึงเขียนจดหมายใส่ขวดทิ้งทะเล บังเอิญว่าเธอไปเจอเข้า ในช่วงหน้าฝน สายเกินไป เธอได้แต่มองแหวนดอกไม้กับสายฝนจบ น้ำเน่าสุดๆ แหวะๆ อนุญาตให้อ้วก ขอให้มีความสุขมากๆครับ ๑๔.คุณนาคะพรรณ ขอบคุณเช่นกันครับที่เข้ามาทักทายกัน ขอให้มีความสุขมากๆครับ ๑๕.คุณอันดา ลองเขียนดูนะครับ ผมจะคอยติดตามผลงาน เป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้มีความสุขมากๆครับ ๑๖.คุณลิลิต ขอบคุณครับที่แวะมาทักทายกัน ขอให้มีความสุขมากๆครับ ๑๗.ฉางน้อย ๑๘.ยาแก้ปวด สวัสดีครับ ไม่รู้จะคุยอะไร เอาเป็นว่าขอบคุณก็แล้วกัน ขอให้มีความสุขมากๆครับ ๑๙.อิอิ เออ..แน่ะ รูปเยอะจริงๆ ไปหามาจากไหนบอกกันหน่อยซิ อยากได้รูปใหญ่เอาขึ้นหน้าซะหน่อย ดูแล้วเย็นสบายดี ขอให้ happy มากๆเด้อ ๒๐. คุณมนต์กวี ขอบคุณครับ งานเพลงเป็นไงบ้าง เมื่อไหร่วางแผงจะไปซื้อฟัง แจ้งข่างหน่อยนะครับ ขอให้มีความสุขมากๆครับ .................................................................... ขอคุณเพื่อนๆมากครับที่ให้กำลังใจกันเสมอมา แล้วพบกันในงานชุดสุดท้ายครับ
16 มิถุนายน 2552 07:17 น. - comment id 1000517
อ่า....ฝนเพิ่งจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดตอน ฤทธิ์ ศรีดวง คุยกับนักสืบฯนี่แหละค่ะ ตอนแรกฝนเข้าใจว่า ผู้ชายออกเรือไปแล้วสัญญากับผู้หญิงว่าจะกลับมา ผู้หญิงก็คอยจนมีความรู้สึกว่าล้ากับการรอคอยที่ไร้ความเคลื่อนไหว พอผู้ชายกลับมารู้ว่าไม่มีใครคอยอยู่จึงออกเรือไปอีกที...ทอดสมอรอให้เรือจมไปเอง555 คิดเป็นตุเป็นตะ แบบว่าฝนอ่านบทนี้แล้วย้อนกลับไปอ่าน บท "เรือ" อ่ะค่ะ...แหะ สรุปตีความไม่แตก...แง๊ว....(=^^=)" ฝนก็อยากจะลองเขียนมั่งเหมือนกัน คิดพล็อตเรื่องสั้นแล้วรังสรรค์มาเป็นบทกลอน แต่มันคงจะต้องทุ่มเทมากๆนะคะ เผลอๆอาจจะเบื่อไปเลยก็ได้...สำหรับคนที่แต่งไปตามอารมณ์แบบฝน ฝนถนัดแต่ ไก่ กา อาราเล่อ่ะ แค่คิดพล๊อตเรื่องก็ปวดหมองเสียแล้ว ขอบคุณที่เขียนงานมาให้พวกเราได้อ่านค่ะ หวังว่าจะเขียนต่อไป ถ้าเบื่อก็เปลี่ยนแนวดูสิคะ... มันช่วยเรื่องอารมณ์ได้ค่ะ....ฝนเคยใช้วิธีนี้แล้วได้ผลมาแล้ว ขอให้มีความสุขเช่นกันค่ะ
16 มิถุนายน 2552 08:37 น. - comment id 1000551
อืม...แหวนดอกไม้คุณฤทธิ์ สวยงามมากครับ อยากได้สักวงเหมือนกันครับ แต่สานไม่เป็นครับ แหะๆ
16 มิถุนายน 2552 10:08 น. - comment id 1000644
..จงเข้มแข็งเพื่อฉันอย่าหันหลัง หากเธอยังเชื่อมั่นเหมือนฉันเชื่อ หวั่นศรัทธาถอยห่างจนจางเจือ อย่าน้อยเนื้อต่ำใจยามไกลจร สวัสดีครับ คุณฤทธ์ ชอบกลอนบทนี้มากเลยครับ สุดยอด
16 มิถุนายน 2552 10:55 น. - comment id 1000680
คุณฤทธิ์ ใครบอกว่าเรื่องนี้น้ำเน่า ผมจะเถียงแทนให้ ถ้าเขายังมีความรักในหัวใจ เชื่อว่าเขาจะยอมฟังครับ จากเนื้อเรื่องที่เล่า แล้วเขียนได้ขนาดนี้ ยอดเยี่ยมจริงๆ ครับ เสียดายที่ผมรอลุ้นตอนจบ ให้คนรักสมหวังในความรัก เฮ้อ ...... ขอบคุณครับ รอเรื่องต่อไปนะครับ
16 มิถุนายน 2552 15:54 น. - comment id 1000881
ชอบมากครับ
16 มิถุนายน 2552 21:19 น. - comment id 1001056
ฝน ขอบคุณมากๆเลยฝน ที่สะท้อนให้ผมรู้ว่าอ่านไม่เข้าใจ เพราะปรกติเวลาผมเขียนร้อยกรอง อันดับแรกเลยที่ต้องดูก็คือเรื่องต้องอ่านง่าย เข้าใจได้โดยไม่ต้องแปล เรื่องความไพเราะต่างๆเป็นเรื่องรอง เพราะผมเห็นว่างานร้อยกรองมีคนชอบเพียงกลุ่มเล็กๆกลุ่มเดียวเท่านั้น ยอดจำหน่ายของกวีนิพนธ์ต่างๆจึงไม่สูงนัก หลายๆคนบอกว่างานร้อยกรองอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง อ่านร้อยแก้วดีกว่า ถ้ามีใครสักคนอ่านงานผมแล้วไม่เข้าใจแปลว่าผมต้องกลับมาวิเคราะห์แล้วว่าพลาดตรงไหนคงต้องหาทางปรับปรุง เสียงสะท้อนนี้มีค่ามากกว่าคำชื่นชมเป็นไหนๆ ฝนลองอ่านเรื่องใหม่นะประมาณช่วงปลายเดือนน่าจะเสร็จ ไม่ค่อยได้เขียนเท่าไหร่ มีเวลาเขียนแค่วันอาทิตย์แค่นั้นเอง ถ้าอ่านแล้วช่วยบอกหน่อยนะเข้าใจหรือเปล่า ความยาวประมาณสองร้อยบทเอง เรื่องเขียนตามพล็อตหรือเขียนเล่นๆ อันนี้แล้วแต่ใจชอบครับ ขอให้มีความสุขตอนเขียนก็แล้วกัน เรื่องเปลี่ยนแนวนี่คงไม่แล้วล่ะ เพราะงานชุดเรือทั้งหมดเป็นการทดลองเขียนกลอนรัก ที่ผมไม่ถนัดนัก ก็ได้กลอนรักออกมาแนวนี้แหละ เต็มที่แล้ว ที่ว่าจะเลิกเพราะต้องไปเขียนร้อยแก้ว ถ้าเบื่อๆร้อยแก้วก็อาจจะกลับมาเขียนร้อยกรองใหม่ก็ได้ มีพล็อตร้อยแก้วเยอะมาก ผมมีพล็อตอยู่เรื่องนึงเรื่อง ตากระต่าย พยายามเขียนเป้นกลอนตั้งนานแล้วไม่ถูกใจก็เลยเอาไปเขียนเป็นเรื่องสั้น เสร็จไปตั้งนานแล้วปลายๆสัปดาห์จะลงให้อ่านก็แล้วกัน แค่นี้นะตอบยาวแล้ว ขอให้มีความสุขมากๆครับ คุณเอื้องคำ ขอบคุณครับที่มาทักทายกัน แหวนดอกไม้เขามีขายนะครับ ส่วนใหญ่เป็นอัญมณีที่ทำหัวแหวนเป็นรูปดอกไม้ ขอให้มีความสุขมากๆครับ คุณกันเอง ขอบคุณครับ ถ้าชอบยกให้เลย ขอให้มีความสุขมากๆครับ คุณสืบ เรื่องนี้มีฉากหลังเป็นทะเลในอ่าวไทย ตอนอยู่เกาะพะงัน ชาวบ้านบอกว่า ถ้ากรุงเทพเริ่มหนาวที่เกาะจะเริ่มฝน ใช่ครับ มันเป็นจริงตามนั้น ผมก็เลยจับใส่เป็นตัวบอกเวลาของสองสถานที่ระหว่างบนฝั่งและในทะเล เขียนสี่ตอนก็พอแล้วครับ คนเขียนเบื่อแล้ว คนอ่านยังไม่เบื่ออีกเหรอเนี่ย ขอให้มีความสุขมากๆครับ คุณสี่ศอกบรรทม ขอบคุณครับที่มาทักทาย ยินดีที่รู้จักครับ
20 มิถุนายน 2552 18:57 น. - comment id 1002900
ไม่รู้จะได้อ่านชุดสุดท้ายของคุณฤทธิ์มั้ย พรุ่งนี้ต้องเดินทางไกลบ้านอีกแระ..*-* ...... ขอให้มีใจที่เป็นสุขในการดำเนินชีวิต...ผ่านทุกสิ่งไปได้ด้วยดีนะคะ...*-*
20 มิถุนายน 2552 19:58 น. - comment id 1002945
ขอคารวะครับ ติดตามอ่านบทกวีของพี่เสมอ อ่านแล้วรูสึกอบอุ่นดีครับ ก.ประแสร์ ศิษยาพร
23 มิถุนายน 2552 14:18 น. - comment id 1004181
15 กรกฎาคม 2552 22:10 น. - comment id 1015018
ทุกครั้งที่อ่านงานของคุณฤทธิ์ ผมว่ามันก็สุดยอดแล้วนะ แต่พอมีกลอนใหม่ออกมา มันก็ดีขึ้น ๆ อีก คราวนี้อ่านแล้วรู้สึกได้ถึง ความสงบ หนักแน่น และซาบซึ้ง แล้วก็เข้าใจอะไรได้อีกหลายอย่าง พอดีมีเงื่อนปมในใจอะไรบางอย่าง ก็ได้ข้อคิดจากกลอนนี้ ทำให้มันค่อย ๆ คลายออก และกระจ่างขึ้น ขอบคุณคุณฤทธิ์มาก ที่นำมันออกมา ผ่านทางบทกลอน และขอบคุณโชคชะตา ที่ได้นำผมมาเจอ ขอบคุณ ขนลุกเลยครับ ไม่ได้เข้าบอร์ดมานาน เข้ามาเจอกลอนบทนี้ พอแล้วสำหรับวันนี้ คงจะหาย....หัว ไปอีก
4 กันยายน 2553 03:40 น. - comment id 1154413
ได้อ่านกลอนสี่ภาคจากที่อื่น คนดาษดื่นกล่าวขานประสานเสียง ทุกบรรทัดมัดขมวดดั่งตรวจเรียง ซุ่มสำเนียงคล้องจองดั่งกลองเพล ฟังแล้วหิวอ่านแล้วโหยโดยไม่เบื่อ ติดเป็นเหยื่อเยื่อใยโดยไม่เห็น ขอเป็นศิษย์ติดปลายชายกระเบน จะประเคนน้ำท่าเสื้อผ้าฟืน ทั้งขับขานอ่านกลอนท่านตอนดึก ได้แอบฝึกสัมผัส...ที่ดัดฝืน ช่วยสอนเสียงคำผสมอันกลมกลืน จะขอยืนคุกเข่า...จนเจ้ายอม (ท่านฤทธิ์คะ..เป็นแฟนพันธิ์แท้ค่ะ..สอนบ้างนะคะ)
26 กันยายน 2555 14:14 น. - comment id 1246692
เพียงพบอ่านผลงานของท่านฤทธิ์ สุดตรึงติดอักษราภาษาสาร โอ..นี่หรือคือแก้วกวีกานท์ ดุจตำนานแห่งครูผู้เปี่ยมพลัง เย็นยะเยือกลมหวิวพริ้วพัดผ่าน หนาวสะท้านด้วยคมคารมฝัง ยังแลเห็นนกผินบินกลับรัง และริมฝั่งใครหนึ่งยังยืนรอ แหวนดอกไม้ใครหนอที่รอสวม หรือรอร่วมสวมรับกับเรือนหอ หวังเพียงให้เจ้าของปองพนอ ร่วมสานต่อรักมั่นนิรันดร์กาล ด้วยคารวะ