. ขณะนี้คือที่แท้ พรุ่งนี้อาจแปรกลับหาย มุ่งหวังกระทั่งยังเปล่าดาย ตระหนักไว้ที่เห็นเป็นปัจจุบัน ที่เราฝันหลายสิ่งฤๅจริงจัง ที่ได้คือหมายพบ ประสบสิ่งดีที่หวัง หากดีคือดียังจีรัง แต่ต้องตั้งว่าดีที่พบพาน เมื่อได้ผ่านการผูกพันต่อกันมา ชีวิตการเดินทาง ระหว่างชีวีเหว่ว้า เทียวทนหนทางก้าวย่างมา มีน้ำท่าดื่มกินแสนยินดี เพราะคนที่ยังพร่องก็ต้องเติม รักหรือฝันพลันรู้ ตรองดูก็รู้แต่เริ่ม งามจันทร์งามฝันจันทร์ดวงเดิม หากยิ่งเพิ่มงามจันทร์ในวันเพ็ญ ยามมาเห็นก็ว่างามไปตามจันทร์ รักหรือก็คือรัก ทอถักกันมาฝ่าฝัน ทอรักถักรอก็ผูกพัน รักงามนั้นความจริงคือสิ่งไร อยู่ที่ไหนรักผูกพันมั่นไม่คลาย ความจริงสิ่งที่ฝัน ท่ามโอบจันทร์สู่จุดหมาย แม้นร่างลับร่างดับวางวาย แต่สืบสายวิญญาณยังผ่านวน ทบทุกข์ทนวนเวียนหวัง ณ ฝั่งกาล อาจพบคู่อยู่หรือ ใครคือคู่แท้แม้ผ่าน จำฝันย้ำฝันของวันวาน เพื่อจักผ่านพ้นผ่านการพานพบ แต่ใช่หลบไม่ยอมผ่านการผูกพัน ใจใฝ่ธรรมนำจิต นิมิตมุ่งสรวงสวรรค์ ชีวิตละคอนค่อนคืนวัน ไม่ยึดขวัญรักขวัญเท่านั้นพอ เพื่อรู้รอสร้างให้รักจักนิรันดร์ ...............
14 พฤษภาคม 2552 16:14 น. - comment id 984556
รักนิรันดร์คือสิ่งที่ฝันถึงค่ะ
14 พฤษภาคม 2552 17:14 น. - comment id 984596
คุณพี่คนกุลาคะ ลำนำอย่างนี้เขาเรียกว่าอะไรคะ มี 5 บาท(วรรค) แล้วฉันทลักษณ์เป็นอย่างไรคะ มีกฎฉันทลักษณ์ตายตัวไหมคะ น้องไม่เคยแต่งกลอนอย่างนี้มาก่อนเลยค่ะ คุณพี่อธิบายให้น้องหน่อยได้ไหมคะ ขอบคุณค่ะ
14 พฤษภาคม 2552 17:18 น. - comment id 984600
"คือ...รักนิรันดร์" อ่านแล้วไพเราะด้วยค่ะ ดูรูปตัวหนังสือแล้วมันเหมือน Flight of Stairs น้องไม่ทราบจะพูดอย่างไร ตัวหนังสือมันเรียงกันต่อๆ ลงมาสวยดี คำลมที่เวลาเราอ่านแล้วมันก็ค่อยๆ ผ่อนยาวออกเป็นจังหวะจะโคนดี น้องไม่เคยรู้จักกลอนอย่างนี้เลยค่ะ คุณพี่เล่าให้ฟัง(อ่าน)หน่อยนะคะ
14 พฤษภาคม 2552 18:32 น. - comment id 984653
๐ รักเธอเสมอ ๐ "หากตราบใดสายนทียังรี่ไหล" โลกทั้งใบไม่เปลี่ยนเวียนทิศา ภุมรินทร์ยังมิหน่ายมวลผกา ทะเลยังคงบ้าโถมหาดทราย ดวงตะวันยังมั่นคงซื่อตรงนัก ท้องนภายังเทรักคืนเดือนหงาย ขุนคิรีมิสั่นคลั่งพังทลาย ลมพระพายยังพัดสะบัดใบ ตราบเท่ากันฉันจะยังคงรัก แน่ตระหนักรักเธอเสมอหมาย จะเทอดทูนแด่เธอตลอดไป มอบดวงใจรักมั่นนิรันดร์ . . น้องเขียนกลอนนี้มาแจมแทนแล้วกันนะคะ เขียนแบบคุณพี่ยังไม่เป็นค่ะ
14 พฤษภาคม 2552 18:44 น. - comment id 984658
** รักคือรัก ห่วงหวง ดั่งดวงจิต รักแนบชิด สองใจ อุ่นไอฝัน รักคอยรอ ร่วมปลูก และผูกพัน ทุกคืนวัน รักแท้ ที่แน่นอน.......ฯ รักแท้...คือการให้..และการเสียสละ..ให้คนที่เรารัก..มีความสุขค่ะ....มาซึมซับความงามของบทประพันธ์ค่ะ...
14 พฤษภาคม 2552 19:06 น. - comment id 984680
ความหมายได้ใจ เนาะลุงกุลา
14 พฤษภาคม 2552 19:09 น. - comment id 984685
คุณเพียงพลิ้ว ครับ ขอบคุณที่มาเยี่ยม ครับ ขอบคุณที่มาให้กำลังใจกันเสมอมา ครับ
14 พฤษภาคม 2552 19:12 น. - comment id 984688
คือลุงกุลาคนเก่ง เลยมีกลอนเพราะๆๆเช่นนี้นะคะ..
14 พฤษภาคม 2552 19:13 น. - comment id 984690
ขอแก้ไขค่่ะ ข้างบนพิมพ์ผิดค่่ะ ๐ รักเธอเสมอ ๐ "หากตราบใดสายนทียังรี่ไหล" โลกทั้งใบไม่เปลี่ยนเวียนทิศา ภุมรินทร์ยังมิหน่ายมวลผกา ทะเลยังคงบ้าโถมหาดทราย ดวงตะวันยังมั่นคงซื่อตรงนัก ท้องนภายังเทรักคืนเดือนหงาย ขุนคิรีมิสั่นคลั่งพังทลาย ลมพระพายยังพัดสะบัดใบ ตราบเท่ากันฉันจะยังคงรัก แน่ตระหนักรักเธอเสมอหมาย จะเทอดทูนแด่เธอตลอดไป มอบดวงใจรักมั่นนิรันดร (คำสุดท้ายต้องเป็น นิรันดร ไม่ใช่ นิรันดร์) . . น้องเขียนกลอนนี้มาแจมแทนแล้วกันนะคะ เขียนแบบคุณพี่ยังไม่เป็นค่ะ
14 พฤษภาคม 2552 19:21 น. - comment id 984699
เป็นแนวการเขียนที่คลาสสิคมากครับ..ชื่นชม
14 พฤษภาคม 2552 19:39 น. - comment id 984715
น้องภาฯครับ วิจารณ์ แบบผู้เชี่ยวชาญ เลยนะเนี่ย...... เป็นรูปแบบบทกวี ที่ผมพยายามรังสรรค์ ขึ้นโดย นำเอากาพย์ยานี๑๑ ,มาผมสผสานกับกลอนต่างๆ ตลอดจนบวกกับลำนำ และจังหวะในบทเพลงสมัยใหม่ โดยเป็นการพยายามนำเอาภูมิปัญญาของโบราณจารย์ ด้านกวีด้านต่างๆ มาพัฒนาต่อยอด นะครับ คิดว่าจะทดลองไปอีกสักระยะหนึ่งให้มีการพัฒนาให้มากขึ้น กว่านี้ แล้วค่อยนำมาพูดคุยสนทนาแลกเปลี่ยนกันกัน พอดีน้องภาฯสังเกตุเห็นเสียก่อน ก็เลยต้องแถลง ความนัยให้ทราบ การรังสรรค์นี้มิได้ลบหลู่คุณครูบาอาจารย์แต่อย่างใด แต่อยากจะพัฒนาหารูปแบบใหม่ๆที่ผสมผสานระหว่างของเก่าๆที่งดงาม กับสิ่งใหม่ๆที่เปลี่ยนแปลงเข้ามา ตัวผมอยากจะเรียกว่า "เพลงกานท์ พุดลาภา" ไม่ทราบว่าน้องภา คิดอย่างไร ยังมีอีกชื่อหนึ่งไม่ทราบว่าเจ้าของชื่อท่านจะว่าประการใด ยังไม่ได้ถามเลยครับ ส่วนฉันทลักษณ์ ทำชาร์ทลงคอมเม้นท์นี้ไม่เป็น แต่จะอธิบายคร่าวๆดังนี้ 1) วรรคแรกมี 5 คำ 2) วรรคที่สองมี 6 คำ 3) วรรคที่สามมี 7 คำ 4) วรรคที่สี่มี 8 คำ 5) วรรคที่ ห้ามี 9 คำ เพื่อให้เสียงทอดแบบ Filght of Stairs และสามารถสร้างจังหวะเวลาอ่านออกเสียง ส่วนสัมผัส สัมผัสในแบบกาพย์กลอนทั่วๆไปครับ สำหรับสัมผัสนอก 1) คำท้ายของวรรคที่ ที่หนึ่ง ส่งไปที่คำที่สองของวรรคที่ สอง เป็นการสัมผัสสระ 2) ต่อๆไปก็ใช้สัมผัสนอกแบบกลอนแปดไปจนถึงวรรคที่สี่ ซึ่งคำท้ายของวรรคที่ สี่ ส่งไปยังคำที่สามของวรรคที่ ห้า 3) ส่วนสัมผัสระหว่าง บทก็ใช้คำท้ายของวรรคที่ห้า ส่งมายังคำท้ายของวรรค ที่สองของบทใหม่ นะครับ ส่วนเรื่องวรรณยุกต์และจังหวะยังต้องพัฒนาให้ลงตัวต่อไป ครับ คุณครูน้องภาฯว่าไง คิดว่าน่าสนใจมั๊ย ถ้าสนใจก็มาก่อกานท์ สร้าง"เพลงกานท์ พุดลาภา" ด้วยกัน เหนื่อยเลย ตอบมาอย่างนี้ ยังไม่รู้ว่าจะถูกวิจารณ์จากท่านผู้รู้อย่างไร น้องภาฯนะน้องภาฯไม่น่าสังเกตุเห็น เลย ตอบเสียเหนื่อยเลย แค่นี้ก่อนนะครับ
14 พฤษภาคม 2552 20:07 น. - comment id 984752
สวัสดีค่ะ คุณ คนกุลา ดอกบัวเข้ามาอ่าน ชอบมากค่ะ และยังได้ เรียนรู้หลายๆ รูปแบบ ดอกบัวชอบอ่าน และลองเขียนเป็นลำนำ ดีบ้างไม่ดี ตามแต่ความรู้เพียงน้อยนิด จะอ่านอย่างเดียวก็จะเขียนไม่เป็น ดีจัง ดอกบัว ได้ความรู้ หลายๆ รูปแบบจากพี่ๆ เพื่อนๆ ได้ทั้งภาษา คำ เรียบเรียง ดอกบัวขอให้ คุณ คนกุลา มีแต่ความสุขสมหวังค่ะ
14 พฤษภาคม 2552 20:16 น. - comment id 984768
สวัสดีงามๆยามค่ำเจ้า ตอนแรกอ่านลำนำก็คิดว่าแปลกเจ้า พอมาอ่านคำอธิบายที่น้องภาฯถามก็เข้าใจ เจ้า ก็เพราะไปอีกแบบนะเจ้า ดีเจ้าสร้างสรรค์สิ่งดีๆใหม่ และยังไม่ลืมของเก่า
14 พฤษภาคม 2552 20:18 น. - comment id 984770
น้องภาฯครับ ต่ออีกนิดหนึ่ง วรรคสุดท้าย เน้นที่การอ่านแบบเอาจังหวะแบบลงเสียงหนักทีละ สามคำนะครับ
14 พฤษภาคม 2552 21:40 น. - comment id 984850
http://www.salathaila.com/kacykabtale.html ทรายกับทะเล วิมานลอย..คอยภักดิ์.. อรุณรุ่งแล้ว.. เสียงดุเหว่าแว่วมากับฟ้าในยามสาง ขอบฟ้า... เริ่มเรื่อรางด้วยรัศมีจากสายแสงตะวัน อันอุ่นเอื้อโอบตระกองทั้งผืนหล้าแลป่าไพร ขับสายหมอกสายไหมในยามเช้า ที่กำลังเคลียเคล้าห่มภูผา..ผืนนา..ทุกธุลีหล้า ให้.. สลายลา...ไปกับเรียวแดดละอออ่อน... เธอ..ลืมตาอย่างช้าช้า.. ราวถูกปลุกด้วยพรายแสงจากตะวันดวงสีทอง ที่ทอดไล้เข้ามาโลมร่างอย่างอ่อนหวานอ่อนโยน.. ให้รอรับอุษาวดีแห่งทิวาวัน.. ดวงตาดำใหญ่นิ่งงัน..เมื่อพลันเห็น..ดวงดอกลั่นทมพราวพร่าง กำลังฟ้อนอ้อนอวดกิ่งอรชรอยู่ไหวไหว ไปกับสายลมระรินในยามเช้า... ไปกับฟ้าที่พราวด้วยมวลเมฆนวลนุ่ม..ลอยล่อง... พาให้เรียวตาซึมซึ้ง..อึ้งอั้นด้วยหยาดน้ำตา ที่มาคลอครองด้วยความรู้สึกแสนดี..แสนดื่มด่ำ เธอ..เอื้อมมือเปิดบทเพลงแห่งรักนิรันดร์ ให้กล่อมฝันกล่อมใจเพื่อรับวันใหม่ที่ช่างสดใสแสนงาม ค่อยๆพาร่างอรชรออกยืนอ้อนอิง ณ..ริมระเบียงเชิงผา.. เพื่อ.. รับพลังจากฟ้าจากสายแสงสุริยา..อาทิตย์อุทัย ที่จักหมุนวนมาใหม่ให้ทุกชีวีได้เริ่มต้น แล..ลงไปเบื้องล่าง คือท้องทะเลสีเงินยวงกระจ่าง..สว่างสงบงาม นกนางนวลสีขาว กำลังถลากางปีกบินโฉบเหยื่อเหนือผืนน้ำจรดฟ้า หมู่ปลากำลังกระโดดผึง ผึ่งเกล็ดสีเงินวะวาววับ.. สะท้อนแสงแดดวะวิบระยิบยับ... เรือ..ประมงกำลังคืนฝั่ง หลัง.. *พรานทะเล*..พากัน ไปลอยล่องท่องทำภาระกิจ เพื่อปากท้อง... แลเห็น.. ฟองคลื่นสีขาวพราวนวลแตะแต้มไปทั่วผืนน้ำสีมรกต ช่างแสนงดงาม ตรึงตรา ประทับใจ... หัวใจดวงงามของเธอ คนดี.. กำลังติดปีกอิสรา พาจิตวิญญาณ ลอยละลิ่ว.. ปลิวขึ้น...เหนือ..*วิมานลอย*แล้ว..ณ..นาที..นั้น..! .................. http://www.salathaila.com/kacykabtale.html ทรายกับทะเล..นันทิดา แก้วบัวสาย จะเหนื่อยเพียงไหน จะทุกข์เพียงใดโปรดรู้ ตรงนี้ยังมีฉันอยู่ พร้อมจะดูแลหัวใจ หากมรสุม จะทำเธอเหน็บหนาวใจ พายุจะแรงแค่ไหน จะคอยอยู่ข้างเคียงเธอ หากมีวันไหน ที่เธอไปไกลจากฉัน ในหัวใจไม่เคยหวั่น และจะคอยเธอย้อนมา ก็ใจมันรู้ คลื่นลมจะคอยพัดพา คอยซัดทะเลเข้าหา หาดทรายแห่งนี้ดังเดิม คือผืนทราย ที่โอบทะเลไว้ จะวันใด มั่นคงเหมือนดังที่เป็น อยู่เคียงข้างเธอ ใจไม่ไหวเอน และยังคงชัดเจน อย่างนั้น หาดทรายยังสวย รายล้อมทะเลด้วยรัก คงไว้ด้วยใจแน่นหนัก ไม่หวั่นยามพายุผ่าน จะมีเพียงฉัน และเธอตราบนานเท่านาน มีรักในใจผสาน ดั่งทรายอยู่คู่ทะเล ดนตรี 16 Bars..14..15..16.. คือผืนทราย ที่โอบทะเลไว้ จะวันใด มั่นคงเหมือนดังที่เป็น อยู่เคียงข้างเธอ ใจไม่ไหวเอน และยังคงชัดเจน อย่างนั้น หาดทรายยังสวย รายล้อมทะเลด้วยรัก คงไว้ด้วยใจแน่นหนัก ไม่หวั่นยามพายุผ่าน จะมีเพียงฉัน และเธอตราบนานเท่านาน มีรักในใจผสาน ดั่งทรายอยู่คู่ทะเล (จะมีเพียงฉัน และเธอตราบนานเท่านาน) มีรักในใจผสาน ดั่งทรายอยู่คู่ทะเล.
15 พฤษภาคม 2552 01:01 น. - comment id 984935
จับจังหวะยังไม่รู้เลยค่ะ ทำไมยากจังนิ
15 พฤษภาคม 2552 01:01 น. - comment id 984936
ขอบคุณครับ คุณราชิกา ที่มาเยี่ยม ครับ อยากให้โลกนี้มีรักแท้ เช่นกัน ครับ
15 พฤษภาคม 2552 01:02 น. - comment id 984938
สวัสดี ครับ ลุงเอง
15 พฤษภาคม 2552 01:08 น. - comment id 984939
หวัดดี หนูพิม
15 พฤษภาคม 2552 01:11 น. - comment id 984941
สวัสดี ครับคุณดอกบัว ขอบคุณสำหรับ คำอวยพร ผมก็ได้ความรู้จากการอ่านงานของทุกคนมากจริงๆ เหมือนกัน ครับ
15 พฤษภาคม 2552 01:13 น. - comment id 984943
ขอบคุณสำหรับกำลังใจ ครับคุณจอมปราชญ์
15 พฤษภาคม 2552 01:15 น. - comment id 984944
ชอบคุณคุณม่านดอยสำหรับกำลังใจ ครับ และคำที่ส่งมาเสมอมา ครับ
15 พฤษภาคม 2552 01:18 น. - comment id 984945
แล้วจะเขียนให้เข้าใจง่ายๆนะครับขอเวลาหน่อยนะครับ พี่น้อง แจ้นเอง ครับ
15 พฤษภาคม 2552 02:48 น. - comment id 984952
คุณ พุด ครับ ในภวังค์ใจ ครับ พรานทะเลเหว่ว้า หาแหล่งฝูงปลาถึงไหน กลางคืนหนาวเหน็บเจ็บปานใด ต้องออกไปท่องนธีที่ทำกิน ละผืนดินพกใจกล้าท้าคลื่นลม พรานนาครในม่อนฝัน กลางจันทร์ไฟแต่งแสงข่ม ฝุ่นควันท่อไฟท่ามไอลม ทุกข์ระทมข่มมาเพื่อล่าเงิน แสนขัดเขินอนาถหนอพ่อพรานเมือง พรานทะเลเหว่ว้า พรานเมืองหราหรูฟูเฟื่อง เมื่อพรานทะเลเร่เข้าเมือง คงมีเรื่องหนักหนาเกินฝ่าฟัน มิฉะนั้นพรานทะเลไม่เร่มา . แต่งในภวังค์ นะครับคุณ พุด ด้วยใจผูกพัน ครับ
15 พฤษภาคม 2552 04:14 น. - comment id 984953
ขอบคุณค่ะคุณพี่คนกุลา เข้าใจแล้วค่ะ ที่แท้คุณพี่เป็นคนประดิษฐ์ขึ้นนั่นเอง เอาไว้น้องจะลองเขียนมั้ง ถ้าอ่านแล้วพอทนไหว น้องจะนำมาโพตส์ให้คุณพี่ลองอ่านนะคะ กลอนคุณพี่ไพเราะมากค่ะ
15 พฤษภาคม 2552 12:04 น. - comment id 985076
ด้วยความยินดี ครับ แล้วจะรออ่าน ครับ น้องภาฯ
15 พฤษภาคม 2552 15:54 น. - comment id 985232
ยอดเยี่ยมค่ะ
15 พฤษภาคม 2552 16:29 น. - comment id 985255
ขอบคุณ คุณนรศิริ ครับ ที่มาเยี่ยมเยียนกันและให้กำลังใจกันอย่างสม่ำเสมอ คุณนรศิริ เป็นเพื่อนคนแรกๆในบ้านกลอน ที่เข้ามาให้กำลังใจกัน จนผมเกิดความรู้สึกอบอุ่น พอที่จะถักทองานที่นี่ ที่บ้านกลอน ขอบคุณงามๆอีกสักครั้งนะครับ