๏.. มาเถิดคนดีพี่จะกล่อม พรั่งพร้อมบรรเลงเพลงขับขาน บอกกล่าวเรื่องราวเล่านิทาน ณ รติกาลมืดมิดก่อนนิทรา ฟังจากห้วงจินต์ได้ยินไหม ลมหนาวแกว่งไกวเจ้าใบหญ้า หรีดหริ่งเจื้อยแจ้วจำนรรจา เป็นบทจรนาเมื่อราตรี กาลครั้งหนึ่ง กล่าวถึงสองคนที่ล้นปรี่ เปี่ยมด้วยความรักและภักดิ์ดี ไม่มีทางอยู่เป็นคู่เคียง เพราะอยู่ห่างไกลคนละฝั่ง จึงหวังฝากลมผสมเสียง ดุจถ้อยเพ้อพร่ำด้วยสำเนียง ร้อยเรียงจากจิตคิดคำนึง ฟังสิเสียงไหวของใบไม้ เคล้าคลอลมไกวฝากไปถึง ว่าใครทนเหงาเฝ้ารำพึง ผู้หนึ่งซึ่งมองจ้องดวงดาว ค่ำนี้แม้นกายอาจแสนไกลห่าง เคว้งคว้างขมขื่นในคืนหนาว แต่ฟ้ามืดมิดยังพริบวาว พร่างพราวเพริศแพร้วในแววตา รายล้อมจันทร์เสี้ยวดุจเคียวโค้ง เกี่ยวโยงสองใจให้ปรารถนา ผูกพันฉันเธอเสมอมา ข้ามฟ้าข้ามคืนเพื่อยืนยัน แม้กายไกลห่างอยู่ต่างถิ่น โผผินบินไปสู่ในฝัน สู่โค้งคมเคียวเกี่ยวสัมพันธ์ คืนจันทร์พรายพริ้มยิ้มให้เรา
12 ธันวาคม 2551 10:29 น. - comment id 902297
เป็นนิทานที่น่ารักจังค่ะ
12 ธันวาคม 2551 05:34 น. - comment id 923311
นิทานเรื่องนี้ทั้งไพเราะและอบอุ่นปนซึ้งค่ะ ยอดเยี่ยมจริงๆ อากาศหนาวมากดื่มน้ำชาด้วยก ด้วยกันนะคะ
12 ธันวาคม 2551 06:00 น. - comment id 923319
เข้ามาอ่านนิทานครับ
12 ธันวาคม 2551 08:40 น. - comment id 923334
เยี่ยมยอดครับ...น่าจะเป็นนิทานที่อยู่คู่จักรวาลนานนนนนนนนที่สุดนะ
12 ธันวาคม 2551 23:18 น. - comment id 923542
นิทาน เรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า... ความรัก ของคนสองคนไม่ได้จบลง ที่ได้อยู่ ด้วยกัน มี ความสุขอยู่ใต้พระจันทร์ ดวงเดียวกัน .... ขอบคุณ ที่ ยิ้มให้กัน นะ
13 ธันวาคม 2551 02:23 น. - comment id 923552
อ่านกลอนแล้วก็แอบดีใจ คิดเขาข้างตัวเอง ว่าเป็น "คนไกล"คนนั้น แต่อ่านไปอ่านมา ไม่ใช่ ซะงั้น
13 ธันวาคม 2551 03:24 น. - comment id 923557
ตอนเป็นเด็กเคยฟังแต่นิทานเรื่อง ยาย-กะตา....... มาเจอนิทาน-นิทรา........อดไม่ได้ที่จะ เครื้มตามไป.....เดี๋ยวจะโทรหานะคะ
13 ธันวาคม 2551 10:43 น. - comment id 923658
..อยาก จะกล่อม หรือเล่านิทาน แบบนี้จัง ..อิ อิ แวะมาฟังนิทานครับ
13 ธันวาคม 2551 13:26 น. - comment id 923740
มาฟังนิทานยามบ่าย ฟังแล้ว ง๊วง ง่วงอ่ะลุงเร คร่อก