สายลมเรื่อยเฉื่อยฉิวต้องผิวเนื้อ สายลมยังจุนเจือความชุ่มฉ่ำ แสงแดดแผดประสานผ่านลำนำ สายธารไหลดื่มด่ำนำชุ่มเย็น เสียงหรีดหริ่งเรไรร้องขานขับ แว่วขยับใบไม้แห้งแสร้งไม่เห็น โขดหินยังคงสง่าทุกเช้าเย็น เหมือนว่าเป็นเวรยามแห่งพงไพร ไอหมอกลอยกรุ่นๆอยู่เหนือผา หมู่ปูปลาวิ่งวนในน้ำใส หยดน้ำค้างหยดเผาะริมเลาะไทร ขอนไม้ใหญ่พาดกลางหว่างสายน้ำ ธรรมชาติดลบันดาลความชุ่มจิต นฤมิตรอัศจรรย์อันน่าขาม เมื่อพบไพรพบสงบได้ทุกยาม จึงติดตามมาหลีกหลบความวุ่นวาย
11 พฤศจิกายน 2551 22:44 น. - comment id 912916
อ่านแล้วอยากไปเที่ยวธรรมชาติมากๆเลยครับ ยังไม่มีเวลาเลย
12 พฤศจิกายน 2551 05:27 น. - comment id 912940
12 พฤศจิกายน 2551 08:38 น. - comment id 912975
ชอบเที่ยวภูหน้าหนาวเหมือนกันค่ะ
12 พฤศจิกายน 2551 13:02 น. - comment id 913084
สงบเงียบ สบายใจ เมื่อพบไพร ก็ไร้โศก "สวัสดีครับ"
13 พฤศจิกายน 2551 06:18 น. - comment id 913307
สวัสดีค่ะ สบายดีนะคะน้อง หายไปนานเลยนะ
17 พฤศจิกายน 2551 19:46 น. - comment id 914693
สวัสดีค่ะ ช่วงที่ผ่านมาทำงานวิจัยค่ะก็เลยไม่ได้ลงกลอนเท่าไหร่นัก ช่วงที่ผ่านมาไปสงบจิตใจที่ภูจองนายอย ธรรมชาติช่วยได้เยอะเลยค่ะ ชาร์จแบตจนเต็มแล้วก็มาเรียนอย่างกระฉับกระเฉง ขอบคุณทุกท่านที่มาอ่านกลอนนะคะ ความสุขอย่างหนึ่งที่ทำให้ผ่อนคลายจากความเหน็ดเหนื่อย ก็คือการได้แต่งกลอนนี่แหละค่ะ