*-* เรือใบไผ่ *+*
สายลมหนาว & หิมะขาว
.....สายลมโชย....โรยตัว....แรงลมอ่อน
ใบไผ่ร่อน....อ่อนแรง....ต้านลมไหว
ลอยลงคว้าง....ลัดเลี้ยว....ดั่งสายใจ
สุดหยั่งได้.......กล้ำกลืน...มิฝืนทน
.......ใบไผ่ร่วง....หล่นลง....ลู่สู่พื้น
ลงสู่ผืน....แผ่นดิน....ฝ่าลมฝน
ลอยลัดเลาะ....เลี้ยวไป....ในสายชล
เหมือนใจคน....ที่ไหลวน....ไม่ยั่งยืน
.........ใจของเธอ....ก็เปรียบ....ดั่งใบไม้
ที่อ่อนไหว....ต่อคารม...มิอาจฝืน
ความรักฉัน....ดั่งสายน้ำ....ไม่หวนคืน
แอบสะอื่น....กลั้นน้ำตา....อยู่คนเดียว.........
สายลมหนาว..................
..............................................................................................
ใบไผ่พลิ้วปลิวหล่นบนลำธาร
คล้ายเรือน้อยลอยผ่านแม่น้ำใส
ที่พลิ้วลงคงไม่น้อยกว่าร้อยใบ
การเดินทางที่ยิ่งใหญ่ก็ดำเนิน
กระแสเชี่ยวลดเลี้ยวพัดลัดเลาะหิน
เหนือธารรินนาวาไผ่ได้เหาะเหิน
ลมแรงพัดบ้างปลิวห่างต่างทางเดิน
ท่องเที่ยวเพลินจนลืมหลังฝั่งไม่มี
ที่นับร้อยก็เหลือน้อยไม่เกินสิบ
ใบที่อยู่เป็นคู่ชิดก็ห่างหนี
น้ำยิ่งเชี่ยวยิ่งพัดพาห่างทุกที
จะยังมีกี่ใบที่ลอยร่วมทาง
ยิ่งไปไกลธารก็ไหลออกทะเล
ต่างใบไหลให้หักเหเหมือนหมองหมาง
ใบไผ่เอยเจ้าไม่เหลือเพื่อนร่วมทาง
ฟ้าก็ห่างน้ำก็เย็นเป็นอย่างไร
ได้แค่หวังให้น้ำซัดพัดชะตา
พาใบไผ่ไปเสาะหาทางสดใส
รู้ว่าฝั่งนั้นเกินหวังยังแสนไกล
ขอแค่พบไผ่อีกใบ... ไหลร่วมทาง
พายุทราย..............
............................................................................................
ลอยละล่องละล่องลอยตามชลใส
เรือไบไผ่ระรินธารเคลื่อนผ่านไหว
ละล่องลอยกระแสธารผ่านพาไกล
เพียงพริบลับหายห่างตา
เจ้าเรือใบไผ่ ...
เจ้าจะลอยละล่องไปแห่งหนไหน
เจ้าเคลื่อนคราตามธารจวบจนเมื่อไหร่
ยามล้าหรือเจ้าจึงหยุดลง
เปรียบใจดุจใบไม้นาวา
เคลื่อนคราชนกระแสพาฉงน
จะหยุดได้เมื่อไหร่หนอใจตน
จวบจนจมกระแสชนจึงตรมใจ
หิมะขาว..................................