คำรามลั่น ดังกลอง เสียงก้องโลก เมฆสีโศก ลอย วน บนยอดเขา ลมกรรโชก สลับ กับผ่อนเบา คล้ายกับเร้า น้ำใสใส ให้โปรยปราย ผะผะแผ่ว มาแล้ว เปียกแนวหญ้า หยาดน้ำฟ้า โอนเอน หยดเป็นสาย ดอกฝุ่นแตก กลีบพลิ้ว ปลิวกระจาย กรุ่นกลิ่นอาย ไอดิน ประทิ่นป่า สงสารใจ จริงเอย มิเคยนิ่ง เฝ้าประวิง วุ่นวน จนอุษา กลีบดอกฝน หล่นร่วง จากดวงตา สุดจะหา ถ้อยรำพึง ฝากถึงเธอ
3 พฤศจิกายน 2550 11:34 น. - comment id 781959
เพราะและมีความหมายดีมาก แวะมาเยือน
3 พฤศจิกายน 2550 12:22 น. - comment id 781973
คำร้อยคำไม่เท่ากับใจอยากจะบอก
3 พฤศจิกายน 2550 12:22 น. - comment id 781974
แวะมาอ่านค่ะ..แต่ทำไมเศร้าจังคะ...
3 พฤศจิกายน 2550 12:57 น. - comment id 781992
สวัสดียามบ่ายครับ ความหมายชัดเจนจนเอนเอียงตามเลยครับ ขอบคุณที่ทำให้น้ำตาไหลซึม
3 พฤศจิกายน 2550 14:46 น. - comment id 782044
นิ่งไม่พอต่อเวลาน้ำตาซึม
4 พฤศจิกายน 2550 08:30 น. - comment id 782237
คงไม่ต้องคิดไปให้ปวดหัว เพียงอย่ามัวสับสนคอยค้นหา เพียงแค่ถ้อยหรือคำธรรมดา บอกแค่ว่าคิดถึงคงซึ้งพอ หายไปนานเลยน่ะครับ
4 พฤศจิกายน 2550 21:37 น. - comment id 782564
คุณเทวดาเดินดิน ขอบคุณมากนะคะ ที่แวะมาเยี่ยมเยียนกัน.. คุณ white rose อาไร้..เศร้า ออกจะน้ำตา....ล....หยด.. อิอิ..ล้อเล่นน่ะค่ะ.. ถือว่าชมค่ะ คำของคุณ ให้กำลังใจได้ดีเชียว คุณ Sonax0651 ขอบคุณนะคะ ที่คล้อยตามถ้อยคำที่สีน้ำฟ้าเขียน.. แล้วอย่าลืมทักทายกันอีกนะ คุณเพียงพลิ้ว .. คิดถึงค่ะ..คิดถึงจนหาคำลงตัวไม่ได้ คุณเรไร ยินดีนะคะ ที่ไม่ลืมกัน ส่วนใหญ่ก็..แต่งกลอนไม่ออกค่ะ ก็เลยมุดอยู่ในกระดอง ทีนี้ก็มีนักเขียนคนหนึ่ง จากเว็บคุณอาจินต์ ปัญจพรรค์ เมล์มาหา ก็เลยได้กำลังใจมาเขียนต่อนี่แหละค่ะ ขอบคุณทุกท่านนะคะ ที่แวะมาทักทายกัน
4 พฤศจิกายน 2550 23:44 น. - comment id 782646
ดีคะ แวะมาทักทาย ไม่เคยเจอเลยคะ เพิ่งได้อ่านกลอนนี้กลอนแรก
5 พฤศจิกายน 2550 18:25 น. - comment id 783188
ยินดีต้อนรับ สู่โลกของกลอนนะคะ ชื่อหัวใจอ่อนหวาน... แอบไปอ่านกลอนของคุณมาแล้วล่ะ