........แพรม่านหมอกน้ำค้างพร่างผืนหญ้า....... แพรม่านดอกน้ำตา.......ซับใจโศก ไหวเอย........................ไหววิโยค จักซ่อนโลก ร้าวแฝง..ไว้แห่งใด.... ...................................... แผ่วลำนำ พริ้วผ่าน ซ่านโสตซึ้ง เคล้าเสียงขลุ่ย คนึง อันอ่อนไหว สะเทือนทิพย์ เทวาลาน สะท้านไพร ดั่งว่าใจ จะรอนร้าว หนาวน้ำคำ เก็บถ้อยฝาก จากสายลม ที่พรมแผ่ว ว่าลาแล้ว จากเคยปลื้ม ใจดื่มด่ำ ฟังปลายเสียง เจรียงร้อย เป็นถ้อยย้ำ ให้อกช้ำ มิสร่างเศร้า จากเงาใจ จรุงจิต เพียงกาล ที่ผ่านผัน จรุงฝัน เพียงลำนำ คำล่องไหล สุขเพียงถ้อย พร่ำเพ้อ ละเมอไป ย้ำหทัย บอบช้ำ ด้วยคำลา ทิ้งชื่นใน รอยกาล ที่ผ่านพ้น อดีตวน ภาพฝัน อันห่วงหา บัดนี้คง เหลือเพียงช้ำ กับน้ำตา ลานเทวา อาดูรโศก วิโยคตรม -------------------------------------- ลานเทวา
30 กรกฎาคม 2550 07:24 น. - comment id 731400
แพรม่านหมอกย้ำเตือน บ่ห่อนเลือนความวิโยค หวามใจไฉนโศก อยู่คู่โลกอย่างเอกา จักซ่อนความร้าวราน เจ็บที่ผลาญแห่งใดหนา หลั่งไหลธารน้ำตา ความอาดูรมิสูญไป แวะทักทายและอ่านผลงานอันงดงามค่ะ..
30 กรกฎาคม 2550 09:36 น. - comment id 731418
หายไปนานมาก..ทุกครั้งที่เข้ามาผมจะกวาดสายตาหาผลงานของคุณเสมอ..ดีใจที่ได้อ่าน ดีใจมากครับ