ใจละมุนอุ่นแท้ พี่เอย แม้นบ่เคียงเขนย ชิดใกล้ โอบรักกอดทรามเชย ผ่านแผ่น ฟ้ากว้าง เพียรฝากลมลูบไว้ แนบเนื้อ อนงค์ แม้นมิอาจพานพบ พี่ยา ไกลห่างสุดขอบฟ้า ฝั่งโน้น ซึมซาบผ่านผัสสา กลอนกานท์ ของพี่ ฝากใจไว้ฟากโน้น โปรดรู้ ความนัย มีเพียงเงาคุณนั้น แทนกาย ใจน้องอุ่นมิวาย คลายเศร้า โปรดรู้คุณคือชาย ที่หมาย อิงแอบ ปองจิตคิดคลึงเคล้า แม้นไร้ กายเชย
17 กรกฎาคม 2550 16:49 น. - comment id 725825
ใครน้อ..ทำให้เจ้าหญิงรพีพ้อถึงบ่อยๆ ไกลจัวเลยนะคะ...รู้สึกได้คะครั้งหนึ่งพิมจังก็เป้นแบบนี้.. คนไกลคนนั้นโชดดีนะคะที่มีคนคิดถึงมากขนาดนี้...
17 กรกฎาคม 2550 16:50 น. - comment id 725826
หวานจัง......หากใครคนนั้นมาอ่านคง ดีใจนะคะ
17 กรกฎาคม 2550 16:56 น. - comment id 725837
หวานใดเท่ารักนี้ ไป่มี หวานกล่อมดวงฤดี พี่ด้วย ขอใจห่มรักนี้ อุ่นด้วย ใจเรา แม้นขาดพี่คงม้วย หมดสิ้นแล้วใจ.. หวานมากเลยค่ะ ครูรพี
17 กรกฎาคม 2550 16:57 น. - comment id 725840
ชายในฝัน เพียงเงาเฝ้าคิดถึง
17 กรกฎาคม 2550 17:16 น. - comment id 725864
ใจละมุนอุ่นแท้ แม่เอย รพี แม้นบ่เคยมี ไฝใกล้ โอบรัดกอดทรามเชย ผ่านคลื่น เอฟเอ็ม ฝากจูปโลมลูบไว้ แนบหู นวลปาง ไม่เป็นเลยครับเรื่องโคลงเนี่ย วันหลังต้องให้ รพีสอนแล้วนะ
17 กรกฎาคม 2550 17:20 น. - comment id 725867
เพียงแค่เงา ก็รู้สึกรักได้เหมือนกันค่ะ... สวัสดียามเย็นค่ะ กลับบ้านล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาใหม่....
17 กรกฎาคม 2550 17:36 น. - comment id 725872
คุณหญิงรพีขา..... ....ไออุ่นพี่สู่เจ้า รพี ได้ส่งถึงคนดี ที่เฝ้า อกนี้อาจพอมี ให้เจ้า แอบอิง พี่จึ่งอยากให้เจ้า แนบข้างกายา บุ๋ม บุ๋ม บุ๋ม ดำน้ำเป็นอาจิณ..... (¯`°.¸♥♥¯`°ศรรกราหน้าทะเล้น°´¯♥♥¸.°´¯)
17 กรกฎาคม 2550 17:57 น. - comment id 725880
เข้ามาอ่านครับ แต่งไม่เป็นครับ
17 กรกฎาคม 2550 18:08 น. - comment id 725888
เฮ้อ ก็แย่ตรงที่ตอนนี้ไม่เห็นแม้แต่เงานะสิค่ะเฮ้อ เศร้า
17 กรกฎาคม 2550 18:59 น. - comment id 725908
ดีจ้า คุณbananaleaf.... อิอิ เงานี้ที่อบอุ่นจริงๆน้อ
17 กรกฎาคม 2550 19:09 น. - comment id 725915
มาขออิงกายใกล้เงาคุณคะ จันทร์เองจ้า มีเงาอุ่นมาขายคะ.. พี่รพีสนใจซื้อมั๊ยคะ.. จันทร์ล้อเล่นนะคะ
17 กรกฎาคม 2550 19:51 น. - comment id 725937
เพียงแค่เงาก็ทำให้อุ่นใจได้เนอะ มีเงาเคียงข้างดีกว่าอ้างว้างลำพัง
17 กรกฎาคม 2550 20:39 น. - comment id 725968
จากชั่วโมงที่แล้ว ที่หญิงรพีให้ความรู้ด้านการแต่งโคลง และที่ผมเคยได้เรียนมาบ้างสมัยเด็กๆ ซึ่งก็มีโคลงต้นแบบอยู่ 1 บท แต่ยังไม่กระจ่าง ดังนั้นผมขอสรุปเท่าที่ผมเข้าใจและถามต่อด้วยครับดังนี้ 1. ทราบว่า..ไม้โท เป็นวรรณยุกต์บังคับ ถ้าไม่มี ณ จุดบังคับถือว่าโคลงนั้นๆผิดฉันทลักษณ์ 2. ไม้เอก ไม่บังคับ..แต่ถ้าหาไม่ได้ให้ใช้คำตายแทนได้..ดังตัวอย่าง โคลงกำสรวลศรีปราชญ์ ที่หญิงรพียกไว้เป็นตัวอย่างเมื่อชั่วโมงที่แล้ว 3. ปรกติกลอนแปด1 บทจะมี 2 บาท หรือ 4 วรรค โดยเรียกว่า..วรรคสดับ วรรครับ วรรครอง และวรรคส่ง แล้วโคลงสี่สุภาพมีการเรียกอย่างไร 4. ข้อสุดท้าย สัมผัสระหว่างบทส่งกันตรงไหน ขอความเมตตาท่านหญิงรพีช่วยสงเคราะห์ด้วยเถิดครับ...
17 กรกฎาคม 2550 23:04 น. - comment id 726004
เงาใครเคียงชิดใกล้ หญิงรพี เขาอิงแอบแนบคนดี อุ่นเอื้อ เงารักจักทวี มากนา วันละนิดก่อเกื้อ แน่แท้ผูกพัน หัดแต่งตามตำราที่แนะนำวันก่อน พอกล้อมแกล้มไปไม่ถนัดเหมือนกลอน
17 กรกฎาคม 2550 23:23 น. - comment id 726012
คุณพิมญดา หญิงรพีก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเค้าเป็นใคร.. ไม่เคยคุยไม่เคยเห็นหน้าแต่ทว่าเข้ามาอยู่ในใจโดยไม่รู้ตัวซะแล้ว..
17 กรกฎาคม 2550 23:24 น. - comment id 726015
คุณโคลอน เค้าจะมีเวลามาอ่านรึเปล่าก็ไม่รู้สินะ.. คงจะเข้ามาอ่านผ่าน ๆ แล้วก็ไม่ตอบอะไรทำนอนนั้น..
17 กรกฎาคม 2550 23:29 น. - comment id 726019
คุณครูพิมคนงาม แม้นใจน้องขาดรัก จากพี่ แต่ในดวงฤดี คงมั่น รักมอบให้คนดี เหมือนเก่า เคยเป็น แต่ขาดเธอขาดใจนั้น คงยาก นักแล ดำน้ำมั่ว ๆ ไปค่ะ..คำก็เกินเนาะ.. ก็รำพันไปค่ะครูพิม..ตามธรรมชาติของคนหวานนอก..ขมใน..
17 กรกฎาคม 2550 23:31 น. - comment id 726021
คุณเพียงพลิ้ว ก็ได้เพียงฝันเพ้อ เพียงเงา พอได้คลายใจเหงา อยู่บ้าง แม้นจะเหลือเพียงเรา ที่เศร้า ลำพัง แต่ใจมิอาจลบล้าง ใจรัก ที่มี เฝ้าคิดถึงคนที่เป็นเพียงเงานั่นแหละค่ะ... เงา เหง่า เหง้า เง้า เหงา.....
17 กรกฎาคม 2550 23:36 น. - comment id 726023
ปู่ก่องกิก โอ้โหปู่เริ่มเขียนก็มีการลวนลามกันเลยเน้อ.. อย่างนี้คิดหนักแล้วเนี่ยะ..สรุปว่าคงไม่สอนแล้วหละ.... เดี๋ยวหญิงรพีจะโดนข้อหาหนัก... ข้อหาพรากผู้เฒ่า... แซวเล่นเน้อ..
17 กรกฎาคม 2550 23:37 น. - comment id 726025
คุณ Whitelily แวะมาทักก็กลับบ้านแล้วเหรอ... ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมกันค่ะ... รักนะแต่ไม่แสดงออก..
17 กรกฎาคม 2550 23:41 น. - comment id 726029
หนูศรรกราน่าเป็นแฟน หากอ้อมแขนพี่นั้น ยังว่าง อย่าทำให้หมองหมาง พร่ำเพ้อ น้องหวังมอบจิตวาง ในอ้อม ใจพี่ อย่าทำให้น้องเก้อ รักพี่ เพียงเงา
17 กรกฎาคม 2550 23:47 น. - comment id 726031
คุณลุงบนเกาะ รพีมาเหยียบเมืองสุราษฎร์แล้วตอนตีห้าครึ่ง.. ไปไหว้ศาลหลักเมือง...เกาะลำภู..ไปทานข้าวที่บางใบไม้.. บรรยากาศดีอาหารอร่อย..แล้วก็มีเรือเล่นชมทัศนียภาพสองฝั่งน้ำด้วย.. แต่รพีมาเป็นวิทยากรที่อำเภอบ้านนาสาร โรงเรียนควนสุบรรณวิทยา...แล้วก็จะข้าม ไปเกาะสมุยวันเสาร์ - อาทิตย์.. ไปเดินตลาดศาลเจ้าด้วยค่ะ..คนเยอะแยะ อาหารอร่อยมาก..ตั้งใจจะไปชิมจำปาดะทอดด้วย... แล้วก็ไปดูเรือที่จะข้ามไปเกาะพงันด้วย..มีเรือนอน..น่าไปเที่ยว.. เอ๊ะ!! ไอ้ที่พูดมานั่นน่ะคิดว่าลุงบนเกาะอยู่สุราษฎร์นะนั่น หรือลุงไม่ได้อยู่ที่นี่..รพีหน้าแตกเลยนะนั่น..
17 กรกฎาคม 2550 23:49 น. - comment id 726033
คุณเพียงแพรว ถึงไม่เห็นแม้เพียงเงา..แต่ก็ขอแอบเอาใจ ไปสัมผัสก็พอแล้วค่ะ.. พูดไปได้ไงเนี่ยะ..
17 กรกฎาคม 2550 23:50 น. - comment id 726034
คุณเจน_จัดให้ ไม่ได้พบกันนานนะคะ..สบายดีเนาะ.. ใช่ค่ะ..เงานั้นอบอุ่นอยู่ในใจรพีตลอดค่ะ..
17 กรกฎาคม 2550 23:52 น. - comment id 726035
คุณมณีจันทร์ หญิงรพีมีเงาบางใครไว้ในใจแล้วนะคะ.. คงไม่สนใจซื้อหรอกค่ะ..ขอโทษนะคะ ผ่านไปขายข้างหน้าได้มั้ยคะ..เผื่อใครเขาจะสนใจซื้อบ้างเนาะ..
17 กรกฎาคม 2550 23:53 น. - comment id 726036
คุณแม่มดใจร้าย ช่ายแล้ว..มีเงาเคียงข้างดีกว่าอ้างว้างลำพัง ยังคงพอมีหวังได้บ้าง..แม้นมันจะริบหรึ่เหลือเกินเนาะ..
17 กรกฎาคม 2550 23:57 น. - comment id 726038
คุณฤทธิ์ ศรีดวง รพีมิใช่ปรมาจารย์ด้านกลอนหรอกค่ะ... พูดตามตรงไม่มีความรู้ทางด้านฉันทลักษณ์ โคลงกลอนหรือการแต่งโคลงกลอนเเลยด้วยซ้ำ สิ่งที่คุณบอกมาน่ะรพียังไม่เคยรู้จักเลยซักข้อ.. รพีเป็นคนโง่ค่ะ..มิได้มีความรู้เทียบคุณหรอก ก็แต่งกลอนไปตามประสาคนอยากแต่งเท่านั้นเอง ถ้าคุณอยากได้ความรู้โดยละเอียดแนะนำไปขอคำปรึกษาจากครูพิมนะคะ...เธอเป็นครูภาษาไทย..คงให้ความรู้คนได้มากกว่ารพี รพีเป็นครูสอนภาษาอังกฤษค่ะ... ขอโทษอีกครั้งที่ไม่สามารถช่วยเหลือคุณได้...
17 กรกฎาคม 2550 23:59 น. - comment id 726039
คุณดอกไม้จ้าเจ้าขา รพีง่วงนอนตาจะปิดอยู่แล้ว.. ขอบคุณนะคะที่มาตอบกลอนรพี ไพเราะค่ะ..แต่ขอตัวไปนอนก่อนเน้อ พรุ่งนี่มีบรรยายต่ออีกค่ะ...
18 กรกฎาคม 2550 00:47 น. - comment id 726052
18 กรกฎาคม 2550 05:53 น. - comment id 726068
เพียงเงาก็อุ่นอ้าง...............อบอวล พี่เอย ดวงจิตจางรัญจวน..............จึ่งแจ้ง ชายใดไป่คิดหวน...............เคียงคู่ แนบชิด ขอพี่มิเสแสร้ง....................รักน้อง นานนาน ดีจ้า..มือใหม่หัดแต่งน่ะก่ะ...อิอิ
18 กรกฎาคม 2550 08:49 น. - comment id 726118
คุณปลายตะวัน ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ..
18 กรกฎาคม 2550 08:52 น. - comment id 726119
หลานใบตอง ความรักบางทีก็ไม่จำเป็นต้องครอบครอง หรอกนะจ๊ะ แค่ได้ความรู้สึกที่ดีๆต่อกัน ก็มี ความสุขเหลือหลายแล้วจ้า
18 กรกฎาคม 2550 08:53 น. - comment id 726120
มาสวัสดีค่ะ
18 กรกฎาคม 2550 08:57 น. - comment id 726123
คุณปราณรวี ฤาได้หลงเคลิบเคล้ม เพียงเงา ดวงจิตคิดปองเขา เองอ้า เขานั้นบ่สนเรา ไม่มอบ รักตอบ หลงเงาเองอ่อนล้า หม่นไหม้ ระทม เพราะค่ะ..แต่งกลอนเพราะแต่งโคลงก็ต้องเพราะด้วย... รพีไม่เพราะซักอย่าง..ต้องฝากตัวเป็นลูกศิษย์คุณปราณแล้ว.. รับคนอ้วน ดำ เป็นลูกศิษย์ด้วยนะคะคุณครูปราณรวี..
18 กรกฎาคม 2550 09:10 น. - comment id 726127
หวัดดีค่ะลุงเบรฟฯ วันนี้คำพูดลุงโดนใจหลานรพีจัง.. มันก็คงจะเป็นเช่นนั้นนั่นแหละค่ะ.. อยู่ไกลกันเหลือเกิน..แล้วก็คงเป็นไปไม่ได้.. คงต้องหลงเงานกันต่อไปอีกนานเนาว์... เศร้าจัง...
18 กรกฎาคม 2550 09:12 น. - comment id 726130
หวัดดีค่ะคุณด้า ยินดีที่ได้รู้จักคุณค่ะ..
18 กรกฎาคม 2550 09:16 น. - comment id 726134
....หญิงรพีค่ะ ใครคือเขา - เขาคือใคร อิจฉาเขาคนนั้นจัง ฮุ ฮุ
18 กรกฎาคม 2550 10:27 น. - comment id 726175
หนักใจในรักร้อน................แรมลา เรียมเอย ขวัญบ่มาแลเหลียว...............จึ่งเศร้า ตรมตรอมกล่อมดายเดียว.....มิเหนี่ยว รักไว้ เลิกลุ่มหลงจอมเจ้า...............ตราบสิ้น ดินฟ้า กลับมาตอบอีกจ้า...เรียมอย่าเศร้านานนักเน้อ
18 กรกฎาคม 2550 10:27 น. - comment id 726176
คุณผู้หญิงมือสอง เขาคือใครไม่รู้ เหมือนกัน แม้แต่ชื่อเขานั้น ไม่แจ้ง มุ่งจิตชอบโดยพลัน แม้นไม่ อาจเห็น เป็นดั่งพรหมท่านแกล้ง ให้ร้าว ระทม รพีเองก็ยังไม่รู้จักเขาเลยค่ะ.. ก็เฝ้ารำพึงรำพันไปตามอารมณ์กลอนที่มันสะท้อนมาจากอารมณ์ของใจ..
18 กรกฎาคม 2550 10:31 น. - comment id 726179
เพล้งงงง...หน้ากระเจิง...ผิดได้ไง...กลับมาแก้ความผิดง่ะ หญิงรพีหาดิ้ว่า ป เขียนผิดตรงไหน...เศร้า หนักใจในรักร้อน................ลดเลี้ยว* เรียมเอย ขวัญบ่มาแลเหลียว...............จึ่งเศร้า ตรมตรอมกล่อมดายเดียว.....มิเหนี่ยว รักไว้ เลิกลุ่มหลงจอมเจ้า................ตราบสิ้น ดินฟ้า
18 กรกฎาคม 2550 11:13 น. - comment id 726187
โฉมเอยใยทุกข์ท้อ..........ดวงใจ ยามเมื่อรักแรมไกล........ไขว่คว้า ใยครวญคร่ำรำไร...........ถึงแต่ เขาเอย ใยไม่ลืมรักล้า.................ลุ่มร้อน นอนซม มาอีกแล้วค่ะแบบอืดๆ สไตล์ปราณรวี
18 กรกฎาคม 2550 11:22 น. - comment id 726192
โฉมเอยโฉมนุชน้อง.......นงพงา ใครพิศติดตรึงตา...........จดจ้อง ชายใดเมื่อแลมา............เหลียวกลับ ทุกครั้ง โดนพิษเสน่ห์ต้อง...........ติดต้อย คอยตาม อิอิ...ปราณรวีหายง่วง ลุกมาแต่งโคลง (กำลังเห่อ)
18 กรกฎาคม 2550 11:30 น. - comment id 726202
ยามรักมักลุ่มหลง.........ลงลึก ประหนึ่งตกจากตึก......สิบชั้น อกเดาะบ่คิดนึก..........ถึงสิ่งอื่นใด ไกลดั่งขุนเขากั้น.........กลับใกล้ใจสอง แถมให้อีกบทค่ะ หุหุ ไปนอนแระค่ะ
18 กรกฎาคม 2550 10:50 น. - comment id 726236
ตอบคุณปราณรวีอีกครั้งค่ะ หนักใจในรักร้าง เรียมไกล แต่เงาอยู่ในใจ ห่อนร้าง แม้นกายครองมิได้ ก็ไม่ หมองหม่น ขอแอบแนบใจบ้าง เมื่อคราว ท้อใจ ฝึกบ่อย ๆ นะคะ มาต่อโคลงด้วยกัน..สอนรพีด้วยเน้อ..
18 กรกฎาคม 2550 10:53 น. - comment id 726239
ปราณรวี ก็ตรงที่ทำเครื่องหมายดอกจันทร์นั่นแหละจ้า..
18 กรกฎาคม 2550 12:29 น. - comment id 726245
คุณปราณรวี โฉมเอยโฉมของน้อง รพี ด้วยรักเท่าชีวี แห่งน้อง รักแรกปักฤดี แน่วแน่ ยากเลือน ใจนั้นจึงรุ่มร้อน ยามร้าง แรมไกล ตอบแบบอืด ๆ เช่นกันเนาะ... คุณป. เก่งค่ะ
18 กรกฎาคม 2550 12:34 น. - comment id 726246
ต่ออีกเนาะ..คุณปราณ โฉมเอยโฉมของน้อง มิงาม ชายใดหลงติดตาม หม่นเศร้า รูปชั่วแลตัวทราม ยิ่งนัก แม่เอย ขี้เหร่ใครเปรียบเล่า นางประแดะ ยังอาย งามดังอูฐกะหล๋าป๋า..พิศแต่หัวตลอดเท้าขาวแต่ตา...สองเต้ากัลยาดังลูกยอ.. รู้จักนางประแดะมั้ยคะ...ถ้าความจำไม่เสื่อมจะอยู่ในเรื่องระเด่นลันได.หรืออะไรทำนองนั้นแหละค่ะ... รพีก็รูปประมาณนั้นแหละค่ะ... อ้วน ดำ ขำอร่อย ต่อยหนัก แต่รักจริงค่ะ สโลแกนประจำตัว..
18 กรกฎาคม 2550 12:59 น. - comment id 726260
ยังไม่อนุญาตให้นอนมาอ่านก่อนเร็ว .. รักมานานแน่แล้ว นงเยาว์ ใช่ว่าใจขลาดเขลา สิ้นคิด ติดตรงที่ตัวเขา หลงผิด พลั้งพลาด จำต้องอยู่ใกล้ชิด รับผิด ผลกระทำ ฉันจึงต้องปล่อยร้าง รักไป ทั้งที่แสนอาลัย ยิ่งนัก เราต่างก็มีใจ รักใคร่ กันอยู่ เพียงแต่ต้องห้ามรัก ด้วยรู้ มิงาม หอบหนีย้ายกันไป ไกลแสน เขาไปอยู่สุดแคว้น ต่างฟ้า แต่รักไม่คลายแคลน ยังส่ง ถึงกัน ไกลห่างกันสุดหล้า เกินคว้า มาครอง จึงคิดอยากเริ่มต้น รักใหม่ แต่ก็ยังกลัวใจ มิกล้า แอบหลงเพียงเงาใคร คนหนึ่ง แสนนาน คอยลบรอยอ่อนล้า ใจนี้ ด้วยเงา มิหวังใดเกินเอื้อม เลยหนา เพียงแค่ได้ผ่านมา ทักบ้าง พลอยให้อิ่มอุรา เพียงแค่ ธุลี ใจคงหายอ้างว้าง ด้วยถ้อย รจนา เพียงถ้อยรจนาภาษากลอน ก็สามารถถอนใจที่อ่อนล้า ให้ชุ่มชื่นฟื้นพลังอันแรงกล้า ต่อวิญญาที่เงียบเหงาของเราเอย... แค่นั้นจริง..จากใจหญิงคนหนึ่ง.. มิกล้าที่จะหวังใดให้ผิดธรรมนองคลองธรรม เพราะรับรู้มาแล้วถึงความเจ็บปวดจากการกระทำของคนอื่น...ที่ทำต่อเรา.. แล้วเราจะเป็นผู้กระทำกับผู้อื่นในสิ่งเดียวกับที่ผู้อื่นเคยทำกับเรากระนั้นหรือ.... ยืนยันนะคะคุณปราณรวี..."อสามี ปรมัง สุขขัง" ดีใจที่ได้ร่วมเขียนโคลงกับคุณค่ะ
18 กรกฎาคม 2550 13:39 น. - comment id 726276
สำเนียงผ่านฟ้ามา การุณ เงาดรุณแลคุ้น ใช่น้อง เนื้อทองโอบไออุ่น หนุนตัก พี่ยา ความรักดังโซ่คล้อง พร้อมเกี่ยว สัมพันธ์ ขอบฟ้าอาจขวางกั้น ไกลเกิน ขอบรักบ่หมางเมิน ไป่ถึง ขอบรั้วว่าง ทางเดิน ถึงขอบ หัวใจ ขอบรักชั่งหวานซื้ง ครอบไว้ ไม่ลืม
18 กรกฎาคม 2550 14:41 น. - comment id 726314
หลงรูปเพียงเงาใคร บางคน จิตดลให้หลุดพ้น บ่ได้ ฝืนไปยอมทุกข์ทน ย่อมเจ็บ ปวดแล้ว แก้วแตกทิ้งรอยไว้ ห่อนให้ เหือดแห้ง รักนี้อาจพ่ายแพ้ หลงผิด ควรญคิดเพ่งพินิจ อ่อนไหว หวังใจให้ได้คิด เผื่อไว้ ฝากใคร รักแท้ยอมมอบให้ ด้วยจิต คิดปอง พอใช้ได้ไหมคุณครู
18 กรกฎาคม 2550 15:38 น. - comment id 726355
คุณนายสาระ ขอบรักคอยคลอบคุ้ม รักเรา แต่คงเป็นเพียงเงา เท่านั้น น้องคงหลงคอยเศร้า ใจอยู่ เดียวดาย ด้วยขอบฟ้ามากั้น ให้น้อง ห่างไกล หวังใจเพียงแอบรัก บางใคร คนที่ซึ้งอยู่ในใจ ไป่เว้น แม้นมิอาจพบได้ ก็ไม่ หวังเกิน ใจสุขบ้างทุกข์บ้าง แค่นี้ คงพอ
18 กรกฎาคม 2550 15:53 น. - comment id 726369
คุณอ้ายแสน หลงลิขิตของอ้าย แสนเอย ไฉนจึงมิเคย หยุดบ้าง ขยันกล่าวภิเปรย เขียนต่อ โคลงกลอน พอนานเบื่อจึ่งร้าง ห่างไร้ แม้เงา หาได้ที่ใดบ้าง รักแท้ เทียบด้วยรักพ่อแม่ บ่ได้ รักอื่นเบื่อมิแล หันกลับ มามอง รักของพ่อแม่ไซร้ ยากแท้ ถ่ายถอน ครั้งหนึ่งผ่านมารัก ปักใจ คนึงครวญบางใคร ก่อนนั้น สัญญารักด้วยใจ หมายคู่ ภิรมณ์ ทางรักเราแสนสั้น ขาดแล้ว ทางใจ วันนี้รีบแต่งนะคะตอนสุดท้ายอาจจะไม่ค่อยเสนาะเท่าไร.... จะรีบไปธุระ..ค่อยตอบกันใหม่เน้อ... ขอบคุณที่มาต่อกลอนช่วยให้รพีได้ฝึกปรือการเขียนโคลง..
18 กรกฎาคม 2550 21:39 น. - comment id 726521
อ่านแล้วใจละลายเลยทีเดียวเชียว
19 กรกฎาคม 2550 02:14 น. - comment id 726560
คุณนั่งยิ้มริมระเบียง ใจละลายเมื่อมองแววตาเธอ มันช่างดูว่างเปล่า...อิ..อิ..อิ...... ขนาดนั้นเชียวหรือคะนั่น... รพีว่ามันก็ธรรมดาเนาะ..เพียงแค่แต่งออกจากใจก็เท่านั้น..
19 กรกฎาคม 2550 04:45 น. - comment id 726566
รอนรอนซุกรักซ้อน..........ซ่อนใจเจ้าเอย ถึงห่างกันแสนไกล...........ไขว่คว้า เสมือนสิทธิ์ใดใด..............ก็ไม่มีเหลือ ใยบ่ทำใจกล้า....................ตัดสิ้นเยื่อใย ลืมเสียเถิดเกิดแล้ว..........รักขม เพียงปล่อยรอยระทม........ข่มไห้ หากใจเจ็บตรอมตรม........ยังอยู่ มิคลาย พึงเก็บจดจำไว้.................เพื่อสร้างสอนตน เขาเป็นคนอื่นแล้ว...........ลาลับ คงไม่คืนหวนกลับ............ชิดใกล้ ความรักที่หลงเหลือ..........อาจก่อระกำ ตัดขาดเสียเถิดให้............ผ่านพ้นเพียงเงา มโนสำนึกน้อม.................ยอมตาม เพียงคิดก็ผิดความ...........ถูกต้อง หวังผองเพื่อนมิหวาม........หวาดหวั่น บังเกิดความดีคล้อง..........ปัดป้องคุ้มภัย
19 กรกฎาคม 2550 13:46 น. - comment id 726789
สวัสดีค่ะ หญิงรพี รักแล้วก็จะรักอยู่อย่างนี้ เพราะสุดที่ จะหักใจ ไปเป็นอื่น แม้รักเขาก็แค่เงาของกลางคืน จะทนฝืนให้ใจ แม้จะตรม
20 กรกฎาคม 2550 00:16 น. - comment id 727145
มาอีกแว้วคุณปราณ รพีมึนตึ๊บเลย..เหนื่อยค่ะ.. เขาพามาต้อนรับขับสู้จนเหนื่อยไปหมดเลยเนี่ยะ.. ตอบก็ตอบเนาะ... พอดีกำลังมีมรสุมชีวิตค่ะ... โทรศัพท์หายทั้งเครื่อง..ทั้ง bluetooth ..แง..แง.. รอนรอนอ่อนอกล้า เหลือเกิน ด้วยเคยถูกเขาเมิน ทอดทิ้ง รักแท้ต้องแพ้เงิน เขาหว่าน มาล่อ ใจพี่จึงกลอกกลิ้ง ด้วยหลง แรงเงิน ลืมบ้างจำได้บ้าง บางครา จำตอนเสียน้ำตา ท่วมท้น จำภาพสุขทุกเพลา แม่นมั่น บ่เลือน จิตคอยจักดั้นด้น คว้าค้น หม่นใจ หักใยยากยิ่งแท้ แม่เอย เป็นรักแรกมิเคย ข่มได้ กว่าสิบปีแล้วเอย ยังเจ็บ ตราตรึง แต่มั่นคงจิตไว้ ไม่ย้อน รักคืน
20 กรกฎาคม 2550 00:20 น. - comment id 727146
คุณอารีณา ก็แค่คนเคยรักค่ะ... เป็นแค่อารมณ์ช้ำที่เคยเกิดเนาะ...แต่ตอนนี้สบายดีจ้า.... อย่างว่าแหละ..รักแล้วรักเลยค่ะตามสโลแกนประจำตัวหญิงรพีไงคะ อ้วน ดำ ขำอร่อย ต่อยหนัก รักจริง...หญิงรพีเองจ้า..