จูงเจ้าทุยเดินลุยในทุ่งหญ้า วันที่ฟ้าแจ่มใสไร้เม็ดฝน พ่อแบกไถขึ้นบ่าหนักพอทน แต่ก็ปนด้วยยิ้มที่พิมใจ แม่หาบข้าวหาบน้ำเดินตามพ่อ น้องบอกรอได้ไหมเดินไม่ไหว พ่อหันหลังส่งยิ้มเดินไวไว เดี๋ยวรีบไปเล่นน้ำที่ทุ่งนา ในหนองน้ำมีปลาทั้งน้อยใหญ่ ลอยวนไปเวียนมาน่าหรรษา ปลาลูกคอกฝูงใหญ่ในท้องนา ชื่นอุราดูมีสุขสนุกดี *** ปลากลูกคอก คือ ลูกปลาช่อนที่อยู่กันรวมเป็นฝูง
9 กรกฎาคม 2550 16:07 น. - comment id 721788
น้องบอกว่าพี่จ๋าอยากขึ้นหลัง เมื่อยขาจังอยากขึ้นหลังของคุณพี่ โปรดเมตตากรุณาน้องน้อยที ให้น้องขี่ได้ไหมเล่าเจ้าพี่ทุย...
9 กรกฎาคม 2550 16:22 น. - comment id 721812
อ่านกลอนแล้วคิดถึงวันเก่าๆ เมื่อตอนเด็กๆ ที่อยู่กับยาย ยังหอมกลิ่นข้าวเมื่อเดินผ่านท้องนา ยังเหม็นขี้ควายที่ทาลานนวดข้าว........
9 กรกฎาคม 2550 16:36 น. - comment id 721827
ดำนาเป็นค่ะ แต่ไม่ค่อยได้ดำ ดิ่งเข้าหาแต่ร่ม อิอิ หมกปลาลูกคอก แซบเนาะใส่ใบพริกอ่อนกับผักอีตู่
9 กรกฎาคม 2550 17:08 น. - comment id 721847
พลบแล้วจุดไต้ตรงกอไผ่ หอมข้าวใหม่แม่หุงรอเราพร้อมหน้า ล้อมวงกินข้าวต้มยำปลา แล้วรอท่าฟังพ่อเล่านิทาน...กับหวานจันทร์ งดงามเกินกล่าวค่ะ สาวบ้านนา
9 กรกฎาคม 2550 17:17 น. - comment id 721849
พลบแล้วจุดไต้ตรงกอไผ่ หอมข้าวใหม่แม่หุงรอเราพร้อมหน้า ล้อมวงกินข้าวกับน้ำพริกผักริมนา แล้วรอท่าฟังพ่อเล่านิทาน...กับหวานจันทร์ ใกล้ลอมฟางคอกควายได้ไออุ่น หอมละมุนโสนน้อยในรอยฝัน หนุนตักแม่แล้วหลับตาวอนขอจันทร์ ให้คืนฝันวันเช่นนี้..อย่ามีแปร...
9 กรกฎาคม 2550 17:26 น. - comment id 721854
คุณ bananaleaf เป็นยากนักหากขึ้นหลังของคุณพี่ ก็ตัวดีตัวหน้ากลัวน่าเกรงขาม ถ้าเป็นพี่ขึ้นหลังน้องดูงดงาม สามสามสามน้ำหนักน้องพี่ขอตัว คุณ สิริน แสดงว่าบ้านคงอยู่แถว ๆ บ้านผมเลยคับ เพราะยังใช้ขี้ควายทำลานนวดข้าวเช่นกัน คุณ เพียงพลิ้ว อ่านกินปลาลูกคอกผมจบหนีกระเจิงเลย งั้นขอสักหมกล่ะกันครับ คุณ พุด อยู่แถวบ้านถิ่นอีสานนั่นของแท้ ผัดลาบแย้ก้อยกระปอมกลิ่นหอมหวน เด็ดยอดเขี่ยบใส่ด้วยสุขรวนรวน กลิ่นหอมหวนผัดเผ็ดแย้แซบนักแล
9 กรกฎาคม 2550 17:52 น. - comment id 721870
...ข้าพเจ้าก็ลูกชาวนาเช่นกันครับ.. นับถือในความเก่งของชาวนาที่สุดเลยจร้า
9 กรกฎาคม 2550 17:53 น. - comment id 721871
น้องเป็นหลานชาวนามานั่งอ่านได้ไหมคะ...นึกถึงภาพวันเก่าๆที่วิ่งตามย่ายายไปตามคันนา...เพราะไม่เคยรู้จักทุ่งนา...แบบว่าไปโตในเมืองไง.......นานๆครั้งคุณพ่อคุณแม่จะพากลับไปเยี่ยมท่าน......อืม..นึกถึงสวรรค์บ้านนา...แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีภาพนี้อีกแล้ว
9 กรกฎาคม 2550 18:42 น. - comment id 721905
เค้าก็อดีตลูกชาวนานะ มาบัดนี้ขายนาไปหมดแล้วไม่มีใครทำ มาชุบตัวเป็นคนเมืองแล้วล่ะค่ะ แต่จริงๆแล้วชอบท้องทุ่งนามากๆค่ะ
9 กรกฎาคม 2550 18:52 น. - comment id 721908
คุณ พงษ์ศักดิ์ อ่านบทกลอน ล้วเห็นภาพได้แจ่มชัด เจิดจรัส ฟ้าสดใส ยามปลายฝน ทั้งน้อง พ่อ อีกทั้งแม่ ฉันอิกคน อิ่มเอมอล โอบอุ้มกัน ในครอบครัว ......................................................ง อ่านแล้ว ช่างถ่ายทอด ความรัก ในครอบครัว อย่างมีความสุข
10 กรกฎาคม 2550 08:30 น. - comment id 722090
คุณ ผู้หญิงมือสอง ขนาดผมเป็นชาวนาผมยังอดภูมิใจไม่ได้เลยคับ คุณ Salukphin ธรรมชาติในอดีตคุณจำได้ เคยเดินไปตามคันนาดูแจ่มใส แต่เดี๋ยวนี้ภาพเหล่านั้นดูเจือจางไป ต้องทำใจโลกก้าวหน้าเร็วเกินตาม คุณ มณีจันทร์ ขายท้องนาท้องไร่ใจคงเศร้า ดูหงอยเหงาเจ้าทุ่งนาน่าสงสาร คงหมดยุคหมดสมัยดูร้าวราน เวลาผ่านวันเดือนเปลี่ยนเวียนหมุนตาม อารีณา ภาพบางภาพแค่หลับตาก็แจ่มชัด เจิดจรัสดูงดงามตามมโนหมาย หลับตานึกเห็นได้ชัดดังข้างกาย อีกหลากหลายเรื่องเล่าเน่าไม่เป็น
10 กรกฎาคม 2550 16:32 น. - comment id 722385
ไม่ใช่ลูกชาวนา แต่ชอบวิถีชีวิตของชาวนาค่ะ ไร้มลพิษ มีแต่สีเขียวเต็มไปหมด...
10 กรกฎาคม 2550 17:03 น. - comment id 722428
เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นนะคะ...หายากสมัยนี้
13 กรกฎาคม 2550 12:54 น. - comment id 724156
อืม....ต้องปลาช่อนอย่างเดียวเหรอคะ... แล้วปลาอื่นๆที่มีลูกล่ะ.....แวะมาแซว....