ที่ตรงนั้นบาร์เหล้าเราเคยเห็น.. ผู้ใหญ่เป็นกลุ่มกลุ่มนั่งสุมหัว หัวเราะดังทีท่าช่างน่ากลัว หญิงยวนยั่วมั่วชาย..เรนอายแทน เสื้อสายเดียวเปิดอกไร้ปกป้อง.. วัยคะนองเลยล่วงลืมหวงแหน ชอบตั้งโชว์แว้ปแว้ป..อกเรียบแบน สิ่งหวงแหนอวดอ้าง..ไร้ยางอาย.. กระโปรงสั้นเหนือเข่า..ท่าเร่าร้อน ขายกไขว่ไซร้ซอนค้อนชม้าย.. เหลือบดูหน้าสามสิบแอบหยิบลาย.. ทีท่าคล้ายสิบหก..สะทกสท้าน.. ดื่มเหล้าเมาหน้าแดง..ตะแบงข้าง ต่างข้ออ้างซี้ซั้ว..ฉันบัวบาน ยิ้มเริงร่าวันหยุดสนุกสนาน หลงลืมบ้านใครรอ..ใครหนอใคร ................. ไม่รู้ดิคะ ..เรนเขียนอันนี้ได้แป๊ปเอง.. จากที่เรนได้อ่านบทกลอนของใครต่อใครมากมายที่เขียนเกี่ยวกับมุมที่มองเด็กๆ.. บางที บางมุมเรนอาจเห็นแตกต่าง.. เก๊าะสิ่งที่เด็กทำ ..เธออาจแค่เพียงเรียกร้องความสนใจ.. หรืออาจเพราะวัยและความรู้สึกที่เธออาจจะมองว่า ..สิ่งนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่ไม่ดี.. เด็กๆอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เข้าใจในแบบนั้นก็ได้เนี่ยน๊า.. เธอไม่ได้แต่งตัวยั่วยวนใครๆ .. เรนอยากบอกว่า..ยังมีเด็กอีกมากมายที่เรนรู้จัก .. เธอเรียนรู้ที่จะเข้าวัดบำเพ็ญประโยชน์ ศึกษาธรรม โดยที่เธอแสวงหาเอง และเธอก็จัดตั้งชมรม และเธอก็มีปณิธาน ..มีเป้าหมายที่ชัดเจน มีความศรัทธาด้วยดิคะ.. .. หลังเลิกเรียน.. เธอเก๊าะสนุกสนานตามวัย..ไร้มายา.. ..เธอมีเป้าหมายเฉกเช่นผู้ใหญ่.. ทำประโยชน์ให้กับสังคม.. และช่วยเหลือสังคม.. เธอไม่ได้ขายเรือนร่าง.. และเธอเก๊าะไม่ได้แต่งตัวยั่วยวนใครๆ.. อาจมีเพียงส่วนน้อยที่หลงทาง.. เถอะนะคะ .. เรนขอให้มอง อย่าเพิ่งด่วนสรุป..ในแบบที่เห็น.. บางทีสิ่งที่เห็นอาจไม่เป็นอย่างที่เข้าใจเก๊าะได้เนี่ยน๊า.. เก๊าะสิ่งที่เรนเห็น ..คนที่ชอบแต่งแบบนั้น.. เรนเห็นมีผู้ใหญ่ที่เลยวัยแล้วเก๊าะมีเนี่ยน๊า.. ไม่รู้ดิ.. เก๊าะเรนเห็นตามงานต่างๆแบบนั้น.. และเรนก็เห็นไม่มีใครว่า..
27 กุมภาพันธ์ 2550 07:33 น. - comment id 663060
ขอปรบมือชมเชยเจ้าเรนน้อย ตัวกะจ้อยคิดต่อกร กับคนนั้น เฮ้อ พี่มัดหมี่ อยู่ข้างเจ้าละกาน เก๊าะแบบว่า ผู้ใหญ่บางท่าน เป็นอย่างเรนว่าจริงนี่นา แถมนิดหนึ่ง ผู้ใหญ่ทำไม่ผิด เด็กทำบอกไม่สมควร อิอิ ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกต้อง แวะมาทักเจ้ากาลาแมตอนเช้า ๆ คิดถึงเจ้านะน้อง
27 กุมภาพันธ์ 2550 07:37 น. - comment id 663063
น้องเรนสู้สู้ พี่แม่มดอยู่ฝ่ายเรนจังจ้า
27 กุมภาพันธ์ 2550 07:41 น. - comment id 663068
เข้าใจเขียน... เริ่มใช้ได้... ด่านแรกของความเป็นธรรมชาติ...ของงาน คือต้องเลิกดัดจริต...เลิกพูดในสิ่งที่ไม่มีในตนเอง....ให้เหมือนว่ามี การแต่งกาย...แค่เปลือกกระพี้ เอามาเขียนเป็นวรรคเป็นเวร... มันเป็นไปตามวัย....เหมือนกันทั้งโลก ไม่ใช่เหตุต้องยกมาเขียน... เรียกร้องความสนใจกัน...มากมายอย่างที่เห็น พ้นวัย...ฮอโมนส์ลด...ก็หายไปเอง จริงมั๊ยเรน ฮี่ๆๆ
27 กุมภาพันธ์ 2550 07:44 น. - comment id 663071
สารภาพว่าพี่กานต์ยังชอบมองคนแต่งตัวสวยๆค่ะ อิอิ
27 กุมภาพันธ์ 2550 08:34 น. - comment id 663099
คนเรามองได้หลายมุมนะครับ แต่ผมว่าบางคนที่แต่งกลอนก็หวังจะเตือนน้องๆ ในวัยรู่นมากกว่านะครับ ....
27 กุมภาพันธ์ 2550 08:48 น. - comment id 663107
พี่กุหลาบเป็นผู้หญิงก็ยังชอบมองเลยค่ะ...
27 กุมภาพันธ์ 2550 08:54 น. - comment id 663113
สวัสดีค่ะ เรนน้อย เรียบร้อยพองาม แต่อย่าตามสมัยจนเกินไป น่าจะดีกว่าเนาะ พี่มะกรูดว่า... คิดถึงนะ ดูแลตัวเองนะคะคนดี...
27 กุมภาพันธ์ 2550 10:02 น. - comment id 663146
มุมมองอาจแตกต่าง.. แต่อย่าแตกแยกละกันเด้อ..
27 กุมภาพันธ์ 2550 10:10 น. - comment id 663151
น้องเรนครับ ขออนุญาตนับน้องเรนเป็นน้องสาวของพี่ต้นน้ำนะครับ...อนุญาตให้พี่ต้นน้ำเป็นพี่ชายไหมเอ่ย... น้องเรนครับ...พี่ต้นน้ำดีใจนะครับที่น้องเรนเป็นเยาวชนที่ดีไม่หลงระเริงไปกับสิ่งยั่วยุ และน้องเรนเลือกที่จะมองเห็นสิ่งไม่ดีเป็นบทเรียน เลือกที่จะมองแง่งามของความไม่ดี...เพราะในความไม่ดีบางทีก็มีแง่งามให้เห็น...พี่ต้นน้ำชอบบทกวีของน้องเรนนะครับ...เป็นบทกวีที่น่ารักสมวัย อ่านแล้วมองเห็นภาพสาวน้อยแสนซนแต่ขี้อ้อน...พี่ต้นน้ำอยากให้น้องเรนสดใสเช่นนี้ตลอดไปครับ...
27 กุมภาพันธ์ 2550 10:37 น. - comment id 663165
เห็นด้วยกะคุณสดายุ ว่าแต่ว่า .... เรนจังสบายดีหรือเปล่าจ๊ะ คิดถึงนะรู้มะ ....
27 กุมภาพันธ์ 2550 11:31 น. - comment id 663198
ไม่ว่าวัยไหนหากใจยังเร้าร้อน ยังไม่ผ่อนไหลหลงกับตัณหา ต่างแต่งยั่วอารมณ์เพื่อกามา วางที่ท่าว่าแน่ไม่แคร์ใคร เป็นแบบนี้ได้ทุกคนทุกวัย ถ้าใจยังไหลหลง.. แวะทักทายนู๋เรนจ้า สอบเสร็จแล้วสบายใจขึ้นบ้างแล้วสิเนาะ
27 กุมภาพันธ์ 2550 12:53 น. - comment id 663242
แวะมาทักทายจ้า แต่พี่ไม่ใช่สาวคนนั้นนะ เพราะพี่เรียบโร้ยมากมากเลย
27 กุมภาพันธ์ 2550 13:28 น. - comment id 663258
27 กุมภาพันธ์ 2550 15:11 น. - comment id 663348
อ่านคอมเม้นพี่สุดายุ... แล้วผมอยากที่จะมองอีกมุม ขออนุญาตคุณเรนมองอีกมุมแล้วกันครับ.. ผมว่านะครับความเป็นธรรมชาติของงานอยู่ที่ความเข้าใจต่อเนื้อเรื่องที่จะเขียนมากกว่า.. ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องไปสงคราม ไปรบก่อนถึงจะมาเขียนเรื่องสงครามได้ เราเขียนได้โดยที่เราไม่ต้องไปรบ และการที่จะรอให้คนดี ยึดมั่นในศีลธรรมมาเขียนหนังสือ ผมว่าคงหาหนังสือจะอ่านยาก สำหรับผม ผมไม่สนใจหรอกว่าตัวตนของนักเขียนจะเป็นยังไง เพียงแต่งานที่นำเสนอมีส่วนที่สร้างสรรสังสม จรรรโลงใจ หรืออาจจะไม่มีส่วนนี้เลย เมื่อผมอ่านแล้วชอบ ผมก็ชอบ.. ผมว่า.. มนุยษ์ทุกคนมีจริต บางคนอาจจะมีจริตแบบที่เห็นแล้วรู้ว่านั่นคือจริต บางคนอาจจะมีจริตที่ซ้อนจริตไว้อีกที เป็นจริตกำลังสอง หรือกำลังสาม ยากที่เราจะมองเห็น มีคนว่ามนุษย์จะแสดงตัวตนที่แท้จริงก็ต่อเมื่ออยู่ในที่รโหฐาน ผมก็ว่ายังงั้นละ ..ผมรู้เพราะผมก็ดูหนังโป้.. ผมว่าการที่คนรุ่นก่อนจะสร้างกรอบสร้างขอบเขตให้กับคนรุ่นหลังมันเป็นสิ่งที่สมควรอย่างยิ่ง อย่างที่ซิกมันต์ ฟรอยด์ว่า ถ้ามนุยษ์ไม่มีหลักเกณฑ์ ความรุนแรงกับเรื่องเพศเท่านั้นที่พวกเขานึกถึง.. สำหรับเรื่องการแต่งตัว ถึงผมจะชอบมองเวลาเห็น ยิ่งเห็นเยอะๆ ผมก็ยิ่งชอบ แต่ส่วนหนึ่งผมก็ไม่อยากให้เรื่องเหล่านี้มีในสังคมที่ผมอยู่ ..ซึ่งมันก็เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล แต่ถ้าเป็นน้องลูกหลานผม ผมก็จะแนะนำ...
27 กุมภาพันธ์ 2550 15:42 น. - comment id 663371
มนุษย์ที่อยู่รวมกันในสังคมนี้ มีทั้งดีและไม่ดีปะปนกันไป ไม่มีใครจะยอมรับว่าตัวเองไม่ดีหลอก ทั้งวัยรุ่นและวัยโรยรา มองมุมกลับกันมองต่างมุมกันไป ผู้ที่มีอายุมากหน่อยผ่านมาอย่างโชกโชน รู้หลบรู้หลีกเป็นอย่างดี ที่เป็นวัยรุ่นก็แย่หน่อยไม่ค่อยทันผู้สูงอายุ แค่รักษาความเป็นตัวตนของเราไว้ เหมือนคำที่ว่า จงดูเถิดโลกนี้มีหลายแง่ ดูให้แน่น่าสรวลเป็นชวนหัว หรือชวนเศร้าโศกสลดถึงหดตัว ดูให้ทั่วถ้วนความตามแสดง
27 กุมภาพันธ์ 2550 16:42 น. - comment id 663431
ในบางครั้งคนเราจะมองเพียงการแต่งกายก็ไม่ได้นะค่ะ เพราะบางคนชอบการแต่งตัวแต่เธอก็ไม่ได้ทำตัวไม่ดีนี่ค่ะ..... เราต้องรู้จักเขาบ้างในบางส่วนก่อนค่ะ ถึงจะตัดสินใจคนอื่นได้ ในความคิดของรีเท่านั้นนะค่ะ.... การมองเพียงแค่ภายนอกแล้วตัดสินคนอื่นนี่มันก็ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่.... แต่คนเราก็มองเพียงแค่ภายนอกจริง ๆ ค่ะ......
27 กุมภาพันธ์ 2550 17:18 น. - comment id 663471
หนูเรนผมเคยเขียนแบบนี้ไว้ กระเจิงต้อง ถอยร่นมาตั้งหลักแทบตายเลยจ๊ะ แก้วประเสริฐ.
28 กุมภาพันธ์ 2550 14:21 น. - comment id 663496
"ความดี ความเลว ในสังคมหนึ่งๆ จะมีที่มาจากการแต่งตัวของวัยรุ่นนั้น ไม่มีโอกาสเลยแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว" ความคิดเห็นเช่นนี้จัดเป็น มิจฉาทิฏฐิ ประเภท อกิริยทิฏฐิ คือ มีความเห็นว่า กรรมไม่มีจริง ไม่มีผลของกรรม บาปที่มีการทำเช่นนั้นเช่นนี้ ย่อมไม่มีแก่เขา หรือมาถึงเขา บุญที่มีการทำเช่นนั้นเช่นนี้ ย่อมไม่มีแก่เขา หรือมาถึงเขา เพราะเป็นเรื่องธรรมชาติที่นำเรามาเกิดและเมื่อมีชีวิตอยู่ ก็ดิ้นรนหากินกันไป ทำอะไรก็ได้ให้ตนสบายโดยไม่ต้องสนใจใครทั้งสิ้น เมื่อแก่ชราก็ตายไปตามธรรมชาติ ผู้มีความเห็นผิดนี้จึงไม่กลัวบาป ไม่มีหิริโอตตัปปะ กล้าทำความชั่วได้ทุกอย่าง ผู้มีความเห็นผิดเช่นนี้เพราะเข้าใจผิดว่า ตัวตนมีอยู่ และถือมั่นในรูปนั้น และยึดมั่นรูปนั้น จึงมีความเห็นผิดเช่นนั้น เรื่องวัฒนธรรมการแต่งตัวที่ไม่เหมาะสมของวัยรุ่นนั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อศีลธรรมของสังคมแน่นอน 100 % ตามหลักทฤษฎีไร้ระเบียบ (Chaos Theory) ที่ว่า ชั่วผีเสื้อน้อยขยับปีก โลกทั้งซีกไหวสะท้อนอาจร้อนหนาว เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว ทุกเรื่องราวโยงใยในเหตุการณ์ พุทธศาสนาก็อธิบายไว้ด้วยหลัก ปฏิจจสมุปบาท ท่านพุทธทาสภิกขุเรียกว่าปฏิจจสมุปบาท ว่า "อิทัปปัจจยตา" (ภาวะที่มีอันนี้ๆ เป็นปัจจัย ? specific conditionality) หรืออรถกถาจารย์บางท่านก็เรียกว่า "ปัจจยาการ" (อาการที่สิ่งทั้งหลายเป็นปัจจัยแก่กัน ? mode of conditionality; structure of conditions) ทางแก้สถานศึกษาควรเน้นการสอนในเรื่อง อสุภกรรมฐาน เนื่องด้วย พระอริยเจ้าทุกท่านต้องผ่าน อสุภะกรรมฐานทั้งสิ้นเพราะทำให้เกิดนิพพิทาญาณ เบื่อการเวียนว่ายตายเกิด อสุภ แปลว่า ไม่สวย ไม่งาม กรรมฐาน แปลว่า ตั้งอารมณ์ไว้ให้เป็นการเป็นงาน รวมความแล้วได้ความว่า อสุภกัมมัฏฐานคือการตั้งอารมณ์เป็นการเป็นงานในอารมณ์ที่เห็นว่า ไม่มีอะไรสวยสดงดงาม มีแต่ความสกปรกโสโครก น่าเกลียดน่าสะอิดสะเอียน สำหรับอสุภกรรมฐานนี้เป็นสมถกรรมฐานที่ให้ผลในทางกำจัดราคะจริต นั่นก็คือการค้นคว้าหาความ จริงจากวัตถุที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต ที่นิยมชมชอบกันว่าสวยสดงดงาม ที่บรรดามวลชนทั้งหลายพากันมัวเมา หลงใหลใฝ่ฝัน ว่าสวยสดงดงามจนเป็นเหตุให้เกิดภยันตรายแก่ตน ลืมชีวิตความเป็นอยู่ของตน เป็นการประพฤติที่ฝืนต่อกฎของความ เป็นจริง เป็นเหตุของความทุกข์ที่ไม่รู้จักจบสิ้น โปรดดู http://www.kmitl.ac.th/buddhist/tumma/asupa.html ท่าน ที่เคยบรรพชาอุปสมบท คงจะจำได้ว่า เวลาเข้าไปขอบรรพชากับพระอุปัชฌาย์นั้น ท่านจะให้ ท่อง ตจปัญจกกรรมฐาน (ตะ-จะ-ปัน-จะ-กะ-กำ-มะ-ถาน) มี ๕ อย่าง คือ เกสา (ผม) โลมา (ขน) นะขา (เล็บ) ทันตา (ฟัน) ตะโจ (หนัง) ถ้าว่าโดย อนุโลม คือว่าไปตามลำดับก็เป็นดังนี้ เกสา-โลมา-นะขา-ทันตา-ตะโจ แล้วท่านก็ให้ว่าย้อนลำดับเป็น ปฏิโลม ดังนี้ ตะโจ-ทันตา-นะขา-โลมา-เกสา ให้ว่ากลับไปกลับมา เพื่อให้จิตเป็นสมาธิ เพราะถ้าจิตไม่เป็นสมาธิก็จะว่าสับลำดับกันไปหมด อย่างนี้ท่านเรียกว่า ตจปัญจกรรมฐาน ทั้ง อนุโลม และ ปฏิโลม ตจปัญจกรรมฐาน นี้ใช้เพื่อฝึกจิตพิจารณา สรรพางค์กาย ของเราว่า ไม่เที่ยง ทั้ง เกสา (ผม) โลมา (ขน) นะขา (เล็บ) ทันตา (ฟัน) ตะโจ (หนัง) เป็นสิ่งไม่สะอาดต้องหมั่นขัดถู ถ้าไม่ขัดถู ก็จะมีกลิ่นเหม็นน่ารังเกียจ เสื่อมสลายได้ตามกาล เรามักหลงไปว่า สวย ว่างาม นั้น เพราะจิตเราปรุงแต่ง สมมติว่าเรากินข้าวอยู่แล้วเห็นมีเศษเล็บ ผม ขน ฟันหรือ เศษหนัง คน ปนอยู่ในอาหารเราก็คงจะต้องอาเจียนเป็นแน่ เมื่อพิจารณาได้ดังนี้แล้ว จิตเราก็จะคลายความ กำหนัดในกามคุณ
27 กุมภาพันธ์ 2550 18:37 น. - comment id 663545
แวะเข้ามาครั้งแรกนึกว่าเข้ามาผิดห้องหลงเข้าห้องกลอนตนเองซะอีก อ่านไปอ่านมาจึงรู้ว่าเด็กกวนกาละแมมาแอบจิ๊กรูปของพี่ชัยไป หยวน ๆ ไม่ว่าให้กันอยู่แล้ว จะมาต่อกรกับพี่ เห็นมีแววเก่งอย่างนี้ คงจะต้องถอย ๆ ให้ซักหน่อย (ถอยไปตั้งหลักจ้า) ที่เรนเห็นเป็นเรื่องจริงหญิงไม่อาย มีมากรายในสังคมที่เคลือบหนอง มองกว้างไกลมากมายเรื่องแล้วไตร่ตรอง เหตุผลต้องทำอะไรใครรู้ดี อย่าไปคิดอะไรมากเลยจ้า ขอให้เรารู้ว่าเราคิดทำอะไรอยู่ ถ้าทำไปแล้วไม่ผิดต่อตนเองและใครก็สบายใจเถอะจ้าน้องสาวหล่าคนดี
27 กุมภาพันธ์ 2550 22:40 น. - comment id 663662
เอาอีกสักหน่อยละกัน... ไหนๆก็เขียนแล้ว สังคมที่เสแสร้ง...คือสังคมไทย เรามีแต่คำขวัญคำพูดสวยงาม เต็มบ้านเมือง...แต่ก็เป็นเมืองที่คน ขี้โกงเต็มบ้านเต็มเมืองมากยิ่งกว่า คำพูดนั้น คนหน้าด้านที่ไม่อาจพูดรับผิดได้แม้แต่สักครึ่งคน ถ้าคืนวันปีใหม่...โตเกียวมีระเบิดหลายจุด เกิดขึ้น....ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นเขาจะต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างไร....รู้กันบ้างไหม...? แล้ววัยรุ่นญี่ปุ่นแต่งตัวกันขนาดไหน? คนญี่ปุ่นทำงานทุ่มเทกันขนาดไหน ? ที่พล่ามๆกันอยู่น่ะรู้กันรึเปล่า และที่เขียนนี่หมายจะชี้อะไร ความดี ความเลว ในสังคมหนึ่งๆ จะมีที่มาจากการแต่งตัวของวัยรุ่นนั้น ไม่มีโอกาสเลยแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว เราปฏิเสธการมีโสเภณีที่ถูกต้อง ตามกฎหมาย...แต่เราก็มีอยู่ทุก หัวระแหง...อย่างไม่ต้องดัดจริตพูด แปลว่าอะไร...แปลว่าสังคมเรา ปฏิเสธการมีอยู่ของความจริงบางประการ ก็หลับหูหลับตาต่อต้านกันไป...และ ไม่เคยแก้ปัญหาอะไรได้จนบัดนี้ รวมทั้งการต่อต้านเบียร์ช้างเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่ไม่ได้ห้ามขาย...แสดงว่ากฎหมายรับรอง เด็กๆอายุไม่ครบสิบแปด จะซื้อเบียร์มาดื่ม...ง่ายมากสำหรับเมืองนี้ จนไทยเป็นเมืองขี้เหล้าติดอันดับโลก เราอ้างถึงความเป็นเมืองพุทธ อันเนื่องอยู่ด้วยภาพอันควรสงบสุข แต่ปัญหาอาชญากรรม...ยาเสพติด การคอรับชั่น...การขาดคุณธรรมของ ชนชั้นปกครองมีจนเห็นเป็นปกติ หนังละคอนบ้านเรามีแต่ความรุนแรง การอิจฉาริษยาอย่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก ว่าช่างคิดพล็อตเรื่องกันมาได้อย่างไร เสียงกรี๊ดกร๊าดตบตีแย่งผู้ชายของหญิงไทย มีเกือบทุกเรื่อง...เพราะต้องเอาใจตลาด แปลว่าถ้าไม่มีคนดูเรื่องแบบนี้ เรตติ้งไม่ดีโฆษณาไม่เข้า... มันจะหมดไปเอง ใช่ไหม... แต่ในทางตรงข้ามเมื่อคนชอบ ก็ต้องใส่มันไว้ทุกเรื่อง...หรือคนไทยมันรสนิยมต่ำทรามบัดซบจริงๆ...? ภาพการทารุณกรรมเด็กมีไม่เว้นแต่ละเรื่อง ขณะที่หนังฝรั่งน้อยครั้งมากจะเห็นเนื้อหาเกี่ยวกับ..การทารุณกรรมเด็ก ขณะที่เมื่อเราดูหนังเกาหลี..ญี่ปุ่น จีน ยังไม่อาจหาความครึกครื้น ของการตบตีแย่งผัวแย่งเมียกันได้เท่านี้ มีแต่ความเงียบนิ่ง...แสดงเพียงแค่อารมณ์ ภายใน...อันสอดคล้องกับชีวิตจริง หนังละคอนเป็นเรื่องแต่งก็จริง...แต่ สะท้อนลักษณะนิสัยคนในชาติ ได้บางประการ เรามักโทษว่าวัฒนธรรมตะวันตก อย่างโน้นอย่างนี้...แต่สังคมเขาพัฒนามาสู่ความเจริญทั้งทางวัตถุและจิตใจ จนแตกต่างลิบลับกับทางเอเชีย การแต่งตัวของเด็กวัยรุ่น...ในทุกประเทศ ย่อมเป็นไปตามความนิยมแบบเอาอย่าง อันเป็นพฤติกรรมวัยรุ่นของมนุษย์โดย ไม่เลือกเชื้อชาติภาษา...อันเป็นธรรมชาติ ชองสัตว์อย่างหนึ่ง...คนเป็นสัตว์ประเภทหนึ่ง เหมือนกันทั้งโลก ก็ในเมื่อธรรมชาติสร้างความรู้สึกอย่างหนึ่ง ให้เขาเมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์...การแสดงออก เพื่อเรียกร้องความสนใจในเพศตรงข้าม ย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา... อาจมีรัดรูปบ้าง...สั้นบ้าง...ผ่าข้าง...ผ่าหน้า ผ่าหลังแล้วแต่รสนิยม....แต่ก็ยังไม่ถึงกับ ใส่กางเกงในตัวเดียวเดินออกมาแข่ง กันมิใช่รึ ในขณะสาวแก่..ที่พยายามอวดร่องอกเหี่ยวๆ....อย่างเอาเป็นเอาตายก็มีอยู่ มากมาย....มันเป็นเรื่องเฉพาะตัว เป็นเรื่องของความชอบ...ที่ใครก็ไม่อาจยุ่ง เกี่ยวได้...ในเมื่อยังอยู่ในกรอบของกฎหมาย ทีแก่แล้วไว้พุงยื่นน่าเกลียด...เด็กๆที่เขารูปร่างบอบบางหน้าท้องแบนราบ...เขายังไม่คอยมาค่อนขอดพวกป้าๆเลย....ฮี่ๆๆ... ว่าปากตะกละตะกรามไม่บันยะบันยัง...จนถ่ายออกไม่ทันเลยอัดอยู่ให้พุงยื่นออกมาประจาน...เด็กๆเขายังไม่ค่อนขอดเลย.... ให้ตายเถอะโรบิน....อิๆๆ ดูเด็กฝรั่งสิ...เขาก็สุดเหวี่ยงตามวัย ผมเผ้าย้อมสี...เดินเคี้ยวหมากฝรั่งจั๊บๆ เป่าเป็นลูกโป่ง....เดินผ่านผู้ใหญ่ไม่ต้องค้อมหัว...(ค้อมทำไมฟะ...หากไม่ใช่คนที่รู้จัก เคารพกัน) แต่จบมาแล้วทำงานได้มีประสิทธิภาพ บ้านเมืองก็ไปได้.... คอรับชั่นน้อยกว่าเรา ที่เอาแต่สอนเรียบร้อยกัน....แบบดัดจริต ไม่เป็นเรื่อง...จบมาแล้วทำงานไม่เอาไหน ตอนเรียนก็คอยื่นคอยาวลอกกันอยู่นั่น ขาดความรับผิดชอบ....คิดเองไม่เป็น ต้องคอยบอกกันทุกฝีก้าว.(เอาค่าเฉลี่ย.. ไม่ใช่ทุกคนแต่...almost) เพราะฉะนั้น อยากใส่แบบไหนก็ใส่ไป...แต่อย่าลืมความเป็นจริงละกันว่า บ้านเมืองนี้...ในมืดค่ำดึกดื่น...ผู้หญิงเรายังมีภัยอันตรายมากกว่าสิงคโปร์...มากกว่าญี่ปุ่น...มากกว่าอังกฤษ...สวีเดน..ฯลฯ พึงสังวรณ์ว่าตัวเองน่ะ...นั่งรถเก๋งกลับบ้าน หรือโหนรถมล์ต่องแต่ง...ให้ไอ้โรคจิตมันคอยเบียดหน้าเบียดหลัง พึงรู้ตัวเอง...สถานภาพตัวเอง...ดูแลตัวเอง แล้วทำอะไร..มันก็จะเหมาะสมไปเองแหละ ส่วนพวกคนแก่ๆ...ก็ไม่ต้องห่วงกันมากนัก...ห่วงลูกหลานตัวเอง...ให้ดีก็แล้วกัน เฮ้อ
27 กุมภาพันธ์ 2550 23:32 น. - comment id 663680
ขอให้รู้ตัว...และมีสติ...ในการกระทำของตนเอง....อะไรถูกหรือผิด...ตัวเรา..ย่อมรู้ดี..มากกว่าใคร.... ...ที่สำคัญ..อย่าเป็นปัญหาสังคม..และทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน...แต่งแต่พองาม...นะคะ ...คิดถึงน้องเรนจ๊ะ...
27 กุมภาพันธ์ 2550 23:57 น. - comment id 663689
rain.. พี่ขอแทรกหน่อยนะคับ เด็กฝรั่งที่ย้อมผม เคี้ยวหมากฝรั่งจั๊บ ๆ ทำอะไรตามใจสุดเหวี่ยง เห็นมีแต่เด็กเที่ยวเด็กแนว เด็กใจแตก ที่แม้แต่ผู้ปกครองก็ไม่ฟัง จนรัฐต้องรับไปเลี้ยงฯ แต่เด็กฝรั่งที่รับผิดชอบ ใฝ่เรียน พวกนี้แทบจะทุกคน ล้วนแต่งตัวง่าย ๆ มิดชิด รู้จักคุณค่าของที่ใช้ ไม่สุรุ่ยสุร่าย เวลาเดินผ่านคนที่ไม่รู้จัก แม้จะไม่ได้ก้มหัวให้ แต่เขาพยักหน้าทักทายไม่มีท่าทีของความจองหองเลย ที่เห็นคุณ ๆ ทั้งหลายยุให้เด็กไทยทำตาม มีแต่เสี้ยวที่ไม่มีดีทั้งนั้น ยิ่งเรื่องการแต่งตัว ฝรั่งเองส่วนใหญ่เป็นเมืองหนาว ไม่มีมาเปิดหน้าเปิดหลังหรอกคับ ยกเว้นดาราฮอลลี่วูด กับผู้หญิงหาเงิน กับกลุ่มวัยรุ่นใจแตก (ซึ่งพวกนี้ไม่มีส่วนพัฒนาประเทศของเค้าเหมือนกัน) ฝรั่งจะแต่งตัวเซ็กซี่ก็เฉพาะตอนที่อยู่กับคนรักของเขาเท่านั้น ไม่ใช่แต่งล่อตะเข้แบบไม่บันยะบันยัง แบบที่คุณ ๆ มาเที่ยวปั่นหัวเด็กไทยหรอกครับ แล้วยังกล้าบอกว่า ไทยไม่พัฒนาเพราะไม่รู้จักเปิด ไม่รู้จักตามใจตัวเอง (อะไรจะน่าสมเพชขนาดนั้น) ประเทศที่เค้าเป็นผู้นำในการพัฒนา เค้าไม่ได้สอนลูกหลานแบบนั้นหรอกคับ พัฒนาก็ต้องพัฒนาที่มันสมองความคิด ไม่ใช่พัฒนาการตามใจตัวเอง บอกว่าเมืองไทยเมืองพุทธแต่มีปัญหาคอรัปชั่น ปัญหาความรุนแรง ปัญหาเรื่องคอเหล้าระดับโลก ฯลฯ ถามหน่อยว่าไอ้ที่คอรัปชั่น สร้างความรุนแรง คอเหล้า ฯลฯ หน่ะ เคยเรียนรู้พุทธศาสนาหรือเปล่า เรียนรู้แล้วเอามาใช้หรือเปล่า ไม่อายฝรั่งที่เขาอุตส่าห์ลงทุนเข้าไปหาความรู้กับพระถึงในป่าแบบวัดป่านานาชาติ วัดสวนโมกข์ ฯลฯ บ้างหรือคับ ให้แก้ความเห็นผิด แต่ดันไปยุกันแก้ผ้า ประเทศจะเจริญได้อย่างไร วัฒนธรรมดีงามก็ชวนกันทิ้ง ไม่บ้าก็บ้าแล้ว
28 กุมภาพันธ์ 2550 12:23 น. - comment id 663854
6 มีนาคม 2550 17:59 น. - comment id 666600
ผมผิดอีกแย้ว..
7 มีนาคม 2550 14:44 น. - comment id 667084
มาส่งกำลังใจ และความคิดถึง...
13 มีนาคม 2550 07:37 น. - comment id 669757
..เรนขอโทษนะคะ.. และเรนเก๊าะขอขอบคุณ.. พี่มัท..พี่สาวที่น่ารักที่สุดของเรน พี่แม่มด.. พี่เบรฟ.. พี่กุหลาบขาว.. พี่มะกรูด..พี่สาวที่ใจดีของเรน.. พี่คอนพูทน.. มู๋เอม..เพื่อนที่แสนดีของเรน.. พี่รุ้ง.. พี่ชมพุฯ ข อบคุณsilver..นะคะ..สำหรับดอกไม้ที่ให้เรน.. เรนขอบคุณพี่ whitelily...นะคะ.. ขอบคุณคุณลุงแก้วฯ.. เรนขอบคุณพี่นางฟ้าสีขาว..พี่ราชิกา.. ขอบคุณพี่เฌอฯ.. ขอบคุณคุณกวินฯ.. (แปลกมากที่เรนตามอ่านงานของคุณโดยที่เรนเองก็ไม่รู้ ว่าเพราะเหตุใด.. ) ขอบคุณพี่ชายชัยชนะ.. และเรนเก๊าะขอโทษพี่ชายชัยชะนะด้วยนะคะ.. แบบเรนแค่อยากจะเขียน เรนแค่อยากจะเขียนแบบนั้นจริงๆ.. เก๊าะตอนนั้น เรนไม่รู้ว่าเรนมัย..ต้องเขียนนะดิคะ.. เก๊าะพี่ๆบอกเรนเองว่า.. เรนสามารถที่จะเขียนทุกอย่างได้ หากสิ่งนั้นเกิดจากความรู้สึกที่อยากจะเขียน.. เรนขอโทษพี่ชายนะคะ.... เรนขอบคุณพี่ชายสดายุ.. ขอบคุณมากมายที่เข้าใจเรน.. ขอบคุณที่เข้าใจเด็กๆ..เหล่านั้น และเรนก็ขอยืนยันอีกครั้งว่า.. ความดี ความเลว ในสังคมหนึ่งๆ จะมีที่มาจากการแต่งตัวของวัยรุ่นนั้น ไม่มีโอกาสเลยแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว".. เรนเชื่อแบบนั้นจริงๆด้วยดิคะ.. เก๊าะเรนเองเก๊าะอยู่ในกลุ่มนั้นๆ.. มีสาเหตุมากมายที่ทำแบบนั้น.. แค่เพี่ยงอารมณ์ .. เพี่ยงแค่การได้ปลดปล่อย.. เพียงแค่การได้ทำ.. ยิ่งห้ามเก๊าะยิ่งเหมือนสั่งให้ทำ.. มากมายหลายๆอย่างที่บอกเหตุผลตรงนั้น.. เวลานั้นไม่ได้.. แต่สิ่งที่ทำ..ในความรู้สึกไม่มีคำว่า..ยั่วยวน .. หรือต้องการให้ใครๆมอง.. ไม่รู้ดิ.. เรนยืนยันแบบนั้นจริงๆนะคะ.. ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ..ลองวิเคราะห์ให้เรนดูได้เปล่าคะ.. เกิดจากใคร.. ร้อยละร้อย..เกิดจากผู้ใหญ่ทั้งนั้น ความโลภ..ความไม่รู้จักพอ.. ความไม่มีเมตตาต่อกัน .. สังคมที่ชิงดีชิงเด่น.. ไร้ซึ่งความยุติธรรม.. เด็กๆยังไม่รู้..ในสิ่งเหล่านั้น .. แต่เด็กๆเหล่านั้นเป็นผู้ได้รับผลกระทบได้โดยตรง.. เคยบ้างมั้ยในสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำจะคิดถึงความรู้สึก หรือผลกระทบที่ตกกับเด็กๆ.. เกลียดเก๊าะบอกว่าเกลียด.. รักเก๊าะบอกว่ารัก.. .. เรนขอบคุณพี่ชายสดายุนะคะ.. .. พี่ต้นน้ำคะ.... เรนขอบคุณนะคะ.. ขอบคุณที่พี่ต้นน้ำที่ให้ความรู้สึกดีๆกับเรน.. เรนเป็นเด็กที่ไม่ดีนักนะคะ.. เรนไม่เชื่อฟัง.. หากพี่ต้นน้ำคบกับเรน.. เรนว่าพี่ต้นน้ำต้องมีแต่เรื่องร้อนใจมากมาย.. เหมือนพี่ชายเรน.. ที่บอกเรนว่า เค้าโชคร้ายที่เป็นพี่ชายเรน.. เพราะพี่ชายต้องคอยดูแลเรน ตามคำสั่งของพ่อ .. ไม่รู้ดิคะ.. ในบางทีเรนเก๊าะน้อยใจ.. เรนอยากให้..เรนได้รับความรักที่เป็นความรักจริงๆ.. ไม่ใช่ในแบบที่ต้องทำ ..เรนขอบคุณพี่ต้นน้ำนะคะ.... ... ..ใครคนนั้น..ไม่ผิด.. เด็กหญิงคนนั้นเอง.. ที่ผิด.. เธอผิดที่เธอยังคงเป็นในแบบที่เธอเป็น.. เธอเปลี่ยนความรู้สึกตรงนั้นไม่ได้.. .. ระหว่างความต่าง..ตรงนั้น.. เธอแปลกใจในความรู้สึกของเธอ.. ... ขอบคุณใครคนนั้น.. ในเส้นทางที่แม้จะแตกต่าง.. จะเพราะเหตุใด.. เด็กหญิงคนนั้นเก๊าะต้องขอขอบคุณ.. .. ... พี่มะกรูดคะ.... เรนขอบคุณนะคะ.. ขอบคุณในความเมตตาที่ให้กับยัยเด็กกาละแม จอมกวนกาละแมโลก.... .. ตอนนี้เรนไม่มีเพื่อนด้วยดิคะ.. ..
13 มีนาคม 2550 07:42 น. - comment id 669762
พี่นิกคะ... เรนขอเวลานิ้ดดดนึงนะคะ.. และเรนเก๊าะจะมาตอบพี่นิก..ในแบบที่เป็นเรน.. .. ...
17 มีนาคม 2550 08:02 น. - comment id 671997
ถามนิดนึงนะคะ..นายซิกมันต์ ฟรอยด์..เป็นใครหรอคะ..... .. ..
18 มีนาคม 2550 15:10 น. - comment id 672437
โทษทีครับ ไม่ทันได้จำมา.. คงต้องกลับไปจำมาละครับ
18 มีนาคม 2550 15:26 น. - comment id 672444
โทดทีผมลืม..
19 มีนาคม 2550 12:02 น. - comment id 672869
เข้ามาดูสาวกลับได้ฟังเทศ น้องเรนเปลี่ยนบ้านเป็นวัดซะเลย จะได้มาบวช อิอิ