ฟังเธอเล่าข่าวสารการเป็นอยู่ สุดหดหู่สู้ไปเหมือนไร้ค่า งานขัดข้องหมองจิตคิดระอา มิรู้ว่าจะแก้ด้วยแง่ใด โอ้ทรามวัยในฝันสุดหวั่นจิต ค่อยค่อยคิดพิจารณาใหม่ ผู้ทุกข์หนักหลักลอยคอยงานไป ยิ่งยากไร้ไม่มีที่พังพิง เหนื่อยเอาการงานหนักพักผ่อนบ้าง ค่อยหาทางอย่างผู้เรียนรู้ยิ่ง อย่าหุนหันพลันด่วนควรประวิง เอาแต่วิ่งเหนื่อยนะระวังตัว ถ้าเรายังเข้มแข็งและแกร่งกล้า จะจัดหาอะไรได้ถ้วนทั่ว ถ้าหมดแรงแกร่งกล้าพาหม่นมัว เหมือนเรือรั่วซ่อมแล้วค่อยแจวไกล แทบทุกคนบนโลกมีโศกเศร้า มีทุกเคล้าเช้าค่ำแทบร่ำไห้ แต่ต้องอยู่สู้ทนดิ้นรนไป ตามวิสัยได้มาฟันฝ่าเดิน อย่าฝืนแล่นเรือไปไม่ได้ซ่อม มวยอ่อนซ้อมย้อมใจไปก็เขิน เผลอถูกหมัดซัดหน้าเหนื่อยล้าเกิน เรือเผชิญคลื่นทับอาจอับปาง --------------------- บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก ๑๑ สิงหาคม ๒๕๔๙
12 สิงหาคม 2549 11:24 น. - comment id 597080
การดิ้นรนทำอะไรไม่ทั้งๆที่ยังไม่พร้อม เราจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเสมอแหละค่ะ แต่ถ้าไม่พร้อม แต่สถานการณ์มันบีบคั่น มันก็จำเป็นที่จะต้องฝืนไปนะค่ะ
12 สิงหาคม 2549 11:47 น. - comment id 597083
ถ้าจำเป็นต้องทำ ก็จำเป็นต้องรอบคอบ และระมัดระวังอย่างสม่ำเสมอ การป้องกันปัญหา ดีกว่าการตามไขปัญหาใด ๆ เพราะปัญหาบางอย่าง อาจบานปลาย แก้ไขยาก หรือไม่อาจแก้ไขได้เลยล่ะ แล้วคุณผู้ผ่านมาอ่านล่ะ? (รวมคุณตะวันจะลับขอบฟ้าด้วยนะ หวังใจว่าน่าจะแวะมาอ่านอีกที) ถ้าจำต้องทำในสิ่งที่ยังไม่พร้อม จะเตรียมตัวและทำอย่างไรบ้าง?
12 สิงหาคม 2549 12:23 น. - comment id 597087
ถ้าตัวเรายังไม่พร้อมแต่ปัญหามาอยู่ข้างหน้าแล้ว ทางเดียวที่ทำได้ก็คือ ลุยกับมัน ไม่ว่ามันจะเป็นปัญหาอะไร ในเมื่อทางเลือกถูกลบไปแล้ว เราก็จำเป็นที่จะต้องลุย และยอมรับผลที่จะตามมา การเสี่ยงกับการทำอะไรสักอย่างมันน่ากลัวค่ะ แต่การที่เราไม่ยอมเสี่ยงอะไรเลย โดยเฉพาะการเสี่ยงนั้น มันคือหน้าที่ที่เราต้องทำ มันน่ากลัวมากกว่านะค่ะ
12 สิงหาคม 2549 17:16 น. - comment id 597120
สวัสดีครับ
12 สิงหาคม 2549 21:26 น. - comment id 597166
เป็นอยู่ดีครับ สบายมากครับ ช่วงนี้ นอนหลับฝันดี กินข้าวอิ่ม ยุ่งบ้างก็รายงาน อย่างอื่นก็เรียบร้อยคัรบ อิอิ
13 สิงหาคม 2549 03:48 น. - comment id 597208
ไม่ห่วงหรอก คงสบายดี ถ้าไม่สบายคงไม่มานั่งเขียนกลอน ใช่ไหม อิอิ แวะมากวน...
13 สิงหาคม 2549 12:22 น. - comment id 597247
คุณตะวัน... การแสดงความห่วงใยใคร ๆ ใกล้หรือไกล ก็ควรจะห่วงใยตัวเราเองด้วยเสมอ ถ้าเราดูแลตัวเราให้ดีได้ เราก็มีกำลังพอที่จะดูแลใคร ๆ มีกำลังพอที่จะทำงานต่าง ๆ อีกมากมาย แต่ถ้าเรายังอ่อนแออยู่ ก็ยากจะต่อสู้และเผชิญกับปัญหาอุปสรรค รวมทั้งการดูแลคนที่เรารักให้ดีได้ คุณห่วงคำนึง... สวัสดีเช่นกัน ห่วงใยตนเองสักทุกครั้ง เมื่อส่งกำลังใจให้ใคร ๆ เจ้าอัสสุ... กินข้าวอิ่ม นอนหลับ ทำงานตามหน้าที่ได้ ก็ดีแล้วล่ะ คุณแสงไร้เงา... \"ไม่ห่วงหรอก คงสบายดี ถ้าไม่สบายคงไม่มานั่งเขียนกลอน ใช่ไหม อิอิ\" ไม่ห่วงพี่ชายไม่เป็นไร ห่วงใย และใส่ใจตนเองให้ดีล่ะกัน อย่าแอบนอนร้องไห้ล่ะ \"แวะมากวน...\" ตกกะเทินได้ลงเล่น อดสากวนให้มันขุ่น บัดว่ากวนขุ่นแล้ว ซิวกุ้ง...หากสิงอม...ดอกนา
13 สิงหาคม 2549 13:24 น. - comment id 597258
ช่วงที่อยู่ในนิวยอร์คใหม่ ๆ เคยหลงทางใต้รถไฟฟ้าใต้ดิน ไม่ว่าตนเองมายังไง จะไปต่อก็ไม่ได้ รู้แต่เพียงว่าจะต้องไป วิธีหนึ่งคือ ถามคนที่รู้ อีกวิธีหนึ่งคือพึ่งแผนที่ สมัยที่อยู๋กรุงเทพฯ เห็นชาวต่างประเทศถือแผนที่ ไปไหน ๆ คนเดียว พอตนเองต้องเป็นชาวต่างประเทศบ้าง จึงรู้ว่า แผนที่มีความจำเป็น เพราะอาศัยแผนที่ จึงทำให้เรารู้ว่า เรายืนอยู่ ณ จุดไหน และจะไปอย่างไร สมัยเรียนลูกเสือสำรอง ครูเคยบอกประโยชน์ของเข็มทิศว่ามีประโยชน์ในการบอกทิศทางเดิน เมื่อเราหลงทางได้ เมื่อโตขึ้น ถ้าเราไม่มีทั้งเข็มทิศและแผนที่ ประสบการณ์ที่เราสะสม อบรม เรียนรู้ พัฒนา และฝึกฝนใช้งานอย่างสม่ำเสมอ นั่นล่ะคือ เข็มทิศและแผนที่ ที่สามารถกำหนดขึ้นมาเอง เพราะทุกอย่างที่อยู๋ที่ใจของเราแล้ว ทั้งการรับรู้ผ่านตา หู จมูก ลิ้น กาย รวมลงที่ใจ เป็นผลให้เกิดความจำ ความคิด และความรู้ ถ้าเราไม่ฝึกใช้ สิ่งที่เราได้ศึกษา อบรม สั่งสมมา ก็จะไม่เกิดการพัฒนา ไม่สามารถนำมาแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ ส่วนใหญ่เมื่อเรามีปัญหา เราจะมองออกนอกตัวเรา ไปเพ่งโทษคนอื่นว่า เพราะคนนั้น คนนี้ทำอย่างนี้ เราจึงได้รับผลอย่างนั้น แต่เราไม่เคยมองว่า เราเองเป็นศูนย์กลางของสิ่งที่เกิดกับกับเราทั้งหมด เหมือนเวลาเรารู้สึกหิวข้าวจัด ๆ ใครพูดหรือทำอะไร ก็พลอยเป็นที่รำคาญ และไม่ถูกใจเราไปหมด มือเท้าสั่น กลายเป็นโมโหร้าย แทนที่จะพักและรับประทานให้เป็นเวลาซะ ดูแลตนเองให้ดี กลับไม่ยอมทำ งานเราผิดพลาด กลับโทษเจ้านายบ้าง เพื่อนร่วมงานบ้าง ทุกคนต่างมีหน้าที่ของตน ๆ ลำพังการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของตนก็หนักพอแล้ว ถ้าเราเอาปัญหาของคนอื่นมาคิดว่า คนนั้นทำผิดอย่างนั้น คนนี้ทำผิดอย่างนี้ จะไปแก้ป้ญหาให้เขาซะเอง ทั้ง ๆ ที่เราเองก็กำลังประสบปัญหาอยู่ จึงไม่มีโอกาสได้แก้ปัญหาตนเอง เราจึงเป็นผู้แบกปัญหาของตนเอง โดยไม่รู้ตัว แบกปัญหาคนอื่นด้วย รับเอาความผิดพลาดของใคร ๆ มาสุมหัว ยั่วความรู้สึกนึกคิด ให้เพ่งผิดไปหาคนรอบข้าง จึงไม่รู้จักจบสิ้น เหมือนเราถูกยิง ใครจะยิงมาก็ช่าง ข้อสำคัญประการแรกคือ ต้องรับเอาลูกศร หรือผ่าเอาลูกปืนนั่นออกจากร่างกายเราก่อน ต้องดูแลตนเองให้ปลอดภัยก่อน (ถ้าไม่ตายก่อนนะ) การเอาลูกศรอาบยาพิษ หรือเอาลูกปืนออกจากร่างกาย ยากหรือเปล่าล่ะ? แต่เราจำเป็นต้องทำอย่างรีบด่วน และรอบคอบที่สุด รู้สึกห่วงใยหลาย ๆ เด้อ สู่คู่สู่คนนั่นล่ะ เบิ่งแฮงแพงคีงกันและกันแหน่ ทั้งเช้า ทั้งแลง...นั่นล่ะเด้อ
14 สิงหาคม 2549 09:43 น. - comment id 597354
เข้ามาทีไรได้ข้อคิดที่ดี ๆ ทุกทีเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับบางสิ่งที่เราสามารถนำ เอามาใช้ได้ในชีวิตประจำวัน :- เรื่องบางเรื่องเราหลีกเลี่ยงไม่ได้เราก็ จำเป็นที่จะต้องทำไป แต่ต้องทำอย่าง ระมัดระวัง รีจำประโยคนี้ไว้ค่ะ ;-