โลกหมองหม่น
ผู้ไม่มีหัวใจ
อากาศแปร ปรวนเปลี่ยน รุนแรง
น้ำแข็งขั้ว โลกเหนือ ละลายไหล
น้าท่ามมาก กว่าเดิม แล้วไซร์
ลมพายุ ยิ่งนาน ยิ่งรุนแรง
โรคภัยเบียด เบียนซ้ำ บีทา
สรรพสิ่งนานาผันเปลี่ยน
คนฉลาด มัวคิดแต่ ตนเอง
จากเดิม พังน้อย เป็นพังใหซ่
แม้เด็ก ก็ต้องรับ ผลกระทบ
จิตใจน้อย เริ่มเปลี่ยน ตามธรรมชาติ
ครูไม่ได้สอนให้เด็กฉลาดอีกต่อไป
ผู้ใหญ่ก็ไม่ได้สอนให้เด็กดี
จบมาการงานก็หายาก
เงินเดือนมาก แต่ค่าใช้จ่าย ยังมากกว่า
หันหาอบาย เพื่อความ สมดุลย์
อนิจจา ยิ่งหา ยิ่งเสียสูญ
ภาคใต้ก็ ก่อการร้าย ไม่เว้น
โลหิตสาดกระเด็นกระเซ็นเปื้อน
ทำไปได้อย่างไรกับคนตาดำดำ
ชีวิตเขา เพื่ออะไร ของใคร
เรามาตั้งจิตอธิษฐาน
รวบรวมบุญไว้เพื่อแจกจ่าย
อุทิศให้พวกมีกรรมรอบกาย
จงได้มีสุขปราศทุกข์ภัย
ระบอบวิธีคิดมากมาย
หลากหลายนำมาใช้ให้ขำ
ไม่รู้ว่าที่นำมาลอกใครมา
กรรมหนักหนา ไม่รู้ จักคิด
ขณะที่โลก กำลัง หมองหม่น
เราทุกผู้ ทุกตน สงบจิต
รักษากาย รักษาใจ รักษาความคิด
อุทิศ กุศล มุ่งทำแต่กรรมดี
เมื่อไร แต่ละคน คิดได้
ก็ไม่สาย เกินไป กระมังหนา
แล้วเริ่มหัน มาบีทา
กับตัววร้าย ในกายใจ ตน
แม้ว่าโลก จะหมอง จะหม่น
เราเป็นคน จะทน อย่างไรได้
มาช่วยกัน ทำเพื่อ ลูกหลานจะเป็นไร
ให้แกได้ อยู่สงบสุข ต่อต่อไป