ข้าชื่อดินถิ่นที่อยู่บนภูเขา มีร่มเงาพฤกษาต่างอาศัย มวลแมกไม้เสมือนเพื่อนคู่ใจ อุ้มชูให้อยู่รอดตลอดมา แล้ววันหนึ่งเพื่อนข้ามาตายจาก เหลือเศษซากทิ้งขว้างอยู่กลางป่า เจ้าคงเจ็บเหน็บหนาวร้าววิญญา แล้วตัวข้าจะอยู่ได้อย่างไรกัน เมื่อฝนหลั่งจากฟ้ามาท่วมท้น ข้าจักทนอยู่ได้ปานใดนั่น ข้าเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ามานานวัน จึงฉับพลันทลายพร้อมสายธาร จึงสูญสิ้นชีวิตและทรัพย์สิน เป็นมลทินแก่ข้ามหาศาล ข้าขอครวญถามไถ่ใครรุกราน ใครล้างผลาญใครเล่ามิเข้าใจ
29 พฤษภาคม 2549 09:50 น. - comment id 580260
สงสารดินจัง
29 พฤษภาคม 2549 10:35 น. - comment id 580275
เพียงเศษดินสิ้นสลายหายวับ โลกย่อบยับคนตายมลายสิ้น โปรดรักษาคุณค่าความเป็นดิน อย่าตัดสินเห็นแก่ตัวหลงมัวเมา กระต่ายไม่อยากให้ตัดต้นไม้ค่ะไม่อยากให้เกิดภัยธรรมชาติจะเกิดความสูญเสีย
29 พฤษภาคม 2549 12:10 น. - comment id 580297
มนุษย์ไงคะ ... ที่ทำลาย ...
29 พฤษภาคม 2549 14:39 น. - comment id 580346
ธรรมชาติถูกย่ำยี่จะเกินทานทน จึงไหลหลั่งท่วมท้น...บอกผู้คนให้ได้รู้.... ....ธรรมชาติเรียกร้องความเป็นธรรมนะครับคุณกุ้งก้ามฯ...
29 พฤษภาคม 2549 21:28 น. - comment id 580432
ดินคงเหมือนเหงือก ต้นไม้เกาะไม่แน่น รากฟันไม่ดี เป็นรำมะนา พอโดนหมัดเต็มๆไปหนึ่งเปรี้ยง ฟันก็กระเด็นกระดอน ทีนี้กลายเป็นคนฟันหลอ ดีไม่ดี เหงือกฉีกกระจุย โห .. คิดได้ไง ก็ไม่รู้สิเนอะ