จากหัวใจดวงนี้ที่เหงาหงอย มันเลื่อนลอยเลอะเลือนเหมือนคนบ้า มันคร่ำครวญพร่ำเพ้อเสมอมา จนน้ำตาตกผลึกลึกกลางใจ กี่วันแล้ววันเล่าคอยเฝ้าห่วง แม่พุ่มพวงโฉมตรูเจ้าอยู่ไหน อยู่กับความเงียบงันหวั่นฤทัย จนถึงวัยเลี่ยมทองของชีวิต เหมือนดั่งไม้ลอยน้ำตามกระแส ไม่มีแม้ความรู้สึกสำนึกคิด ปล่อยไปตามโชคชะตาฟ้าลิขิต จึงรู้ฤทธิ์พิษเหงาเศร้ายิ่งนัก ต้องอยู่อย่างท้อแท้ถึงแก่เฒ่า คงเปลี่ยวเปล่าเดียวดายไร้คนรัก เหมือนหัวใจไม่เลยเคยรู้จัก มิพบพักตร์รักหวานให้ซ่านซึ้ง จนวาระสุดท้ายในชีวิต พรหมลิขิตขีดขั้นให้ฝันถึง ลากสังขารบนล้อห้อตะบึง พบที่พึ่งกับพระเพลิงเชิงตะกอน
25 พฤษภาคม 2549 03:32 น. - comment id 579439
โอ้ชีวิตคนเราแสนเศร้านัก ได้ประจักษ์พานพบเรื่องหลากหลาย ได้ประสบความจริงอีกมากมาย ได้สมหมายดังหวังอย่างตั้งใจ ได้พบกับความทุกข์ที่กลายกล้ำ และได้พบความผิดหวังครั้งยิ่งใหญ่ ได้พบเห็นคนที่ยังจริงใจ ได้พบเจอสิ่งใดหลากหลายอัน พอเวลาผ่านได้นานเลยล่วง เรื่องที่ห่วงยังคงอยู่ในฝัน ที่ผ่านมาราวกับเรื่องอัศจรรย์ มันผ่านผันหายไปกับสายลม เพราะถึงช่วงชีวิตที่ดับขัย แม้อาจมีสิ่งใดไม่ประสม เวลานี้คงทำได้แค่เฝ้าชม ดูสังคมผันผ่าน. . . . กาลเวลา ปล. หากมีเรื่องใดทียังไม่ได้บอก ก็รีบบอกเค้าซะ เพราะวันพรุ่งนี้เราอาจไม่ได้พบเค้าอีกก็เป็นได้
25 พฤษภาคม 2549 12:45 น. - comment id 579525
ต้องอยู่อย่างท้อแท้ถึงแก่เฒ่า รักสูญเปล่าเจ้าเมินเพราะสูงศักดิ์ อยากเอื้อมมือไขว้คว้ายากยิ่งนัก แม้พบพักตร์รักมิอาจจะเป็นจริง
25 พฤษภาคม 2549 22:50 น. - comment id 579676
วัยเพชร .. แล้วมั้ง .. เลยวัยเลี่ยมทองไปแล้ว ..