.......จะเรียบเรียงเรื่องราวมาเท้าความ เอาเมื่อยามยานยนต์ชนสะท้อน เซถลาไถลเถือกเสือกกระดอน ปะทะท่อนขอนขวางตามทางไป แล้วพลัดตกตามกันหลายคันเนื่อง ลงบ่อเหมืองเขื่องโขอันโตใหญ่ เป็นเหมืองร้างค้างคามานานไกล อยู่ใกล้ใกล้กับถนนเลยพ้นทาง เสียงเอะอะกระหึ่งตะลึงร้อง รถคะนองล่องน้ำคะมำขวาง เอียงทะโร่โผเขยื้อนกระเทือนซาง กระทบข้างโขกมั่วจนหัวงอม เมื่อลูกเล็กเด็กแดงโดนแรงอัด แม่คว้าฟัดรัดเข้าเอาอกคร่อม กลัวจะถูกลูกแย่แม่ไม่ยอม กอดถนอมน้อมหัวใช้ตัวบัง รถกระแทกกระทบขอนกระดอนเด้ง แม่ก็เกร็งกันแขนไว้แน่นปั๋ง อย่าให้ถูกลูกน้อยคอยระวัง ใช้อกอังหลังแค่นไม่แน่นใน ถึงแม้นกลัวตัวสั่นไม่ลั่นเสียง แม้รถเหวี่ยงหกคะเมนเอนไปไหน เดี๋ยวลูกน้อยพลอยตระหนกจะตกใจ แม่จะไม่ส่งเสียงเพียงคอยกัน ประคับประคองป้องภัยด้วยใจรัก คราวนี้หนักเหลือคณามาคับขัน จะคุ้มภัยให้ไม่หยุดสุดชีวัน เพียงลูกขวัญนั้นรอดปลอดภัยพอ น้ำประดังถั่งโถมโหมเข้าใส่ รถก็ไหลรวนเรเซหาบ่อ แม่เห็นว่าท่าไม่ดีมัวรีรอ อย่างไรหนอขอหนีต้องปรี่ออก มือหนึ่งคว้าแขนลูกเหมือนผูกแน่น มือหนึ่งแล่นรีบเร่งเกร็งทั้งศอก ดึงสลักผลักประตูดูข้างนอก น้ำกระฉอกตอกหน้าเข้าหาตัว ผงะหลังรั้งประตูสู้ต้านน้ำ ปากก็พร่ำพูดไปให้ก้มหัว สั่งลูกน้อยกลอยใจอย่าได้กลัว แต่ว่าตัวกลัวแย่ไม่แพ้กัน ลูกยังงงสงสัยอะไรแน่ ทำไมแม่มาฉุดยื้อยุดฉัน นี่จะให้ไปไหนที่ใดกัน น้ำทั้งนั้นมันบ่าเข้ามาแรง แม่ชะงักพักหนึ่งคำนึงคิด ต้องทำจิตใจข้าให้กล้าแกร่ง หากรถพลิกผกผันพลันตะแคง แล้วมาแหยงอยู่นี่หนีอย่างไร รถก็ไหลไปเรื่อยไม่เฉื่อยช้า มองดูหน้าลูกน้อยคอยไม่ไหว ด้วยความรักปักแน่นแสนห่วงใย คิดทำใจให้สู้ต้องอยู่รอด ตั้งสติเตือนตนทนเพื่อลูก ถึงผิดถูกอย่างไรอย่าใจถอด อยู่มีหวังนั่งตายต้องวายวอด หนีอาจรอดหลบเลี่ยงต้องเสี่ยงเอา น้ำหนุนขึ้นค่อนรถไม่ลดละ คลื่นปะทะกระหน่ำใหญ่ยิ่งไหลเข้า รถโคลงเคลงคลอนเคลื่อนเลื่อนไม่เบา โครงเขย่าขยับสั่นกระทั่นแทก แม่หวาดหวั่นวิงวอนขอพรพระ โปรดอย่าละทิ้งขว้างทุกอย่างแหลก เป็นที่พึ่งถึงเวลาโปรดมาแทรก อย่าต้องแตกตกตายในนที เดชะบุญหนุนนำกระทำสร้าง โปรดนำทางช่วยให้ได้ไปถึงที่ ให้รอดพ้นภยันตรายใดใดมี ขอชีวีอย่าสลายในสายธาร ดึงลูกมาคว้าร่างแนบข้างตัว พลันโผล่หัวหันหน้าจะฝ่าผ่าน คลื่นซัดสาดเสียงซู่อยู่ละลาน ระลอกฉานพล่านพลุ่งคลุ้งคลุ้งมา แม่สะท้านต้านแรงตะแคงข้าง ลูกกอดร่างรัดแน่นด้วยแขนขา ตาหลับปี๋ปากสั่นหวั่นอุรา น้ำซัดหน้าพาสำลักคักคักไอ แม่ตัดใจไม่คร้ามยามนี้แล้ว ถีบร่างแผล็วพรวดหลุดน้ำฉุดไหล ด้วยกำลังแรงส่งจมลงไป กลั้นหายใจว่ายจ้ำหวดน้ำตี กระทุ่มถีบมือเท้าเร่าเร่าเร่ง มือหนึ่งเกร็งกอดไว้ไม่หลุดหนี หัวผลุดโผล่โผถลาตามวารี ชลธีโถมซัดพัดเชี่ยวกราก ลูกตกใจคลายมือแม่ยื้อยุด ไม่มีหลุดไหลไปในน้ำหลาก เหลือแขนเดียวเทียวว่ายตะกายวาก น้ำกระชากลากปลิวลิ่วลิ่วไป จะยืนหยัดยันพื้นก็ลื่นหลุด ถูกแรงฉุดชักพาถลาไหล จะเกาะเกี่ยวเหนี่ยวรั้งยั้งอะไร ก็พลัดไพล่พลาดหวิดไม่ติดมือ ประเดี๋ยวดำทำท่าเหมือนว่าจม ชั่วครู่ข่มขืนกายโผล่ว่ายปรื๋อ ส่วนลูกน้อยแนบข้างไม่ครางหือ กินน้ำอื้อเอือกอักตาหลักลอย ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเข้ามาเยือน มันมาเหมือนเตือนคิดจิตท้อถอย กำลังแรงเรื่อยลดหมดทยอย ความหวังพลอยค่อยค่อยหายสลายลง นางนึกถึงที่พึ่งรำพึงหา จะพึ่งพาพยามตามประสงค์ จึงตั้งจิตอธิษฐานวอนวานองค์ พระผู้ทรงศักดิ์สิทธิ์เรืองฤทธา ขอเทวะพระพรหมท้าวยมราช คุณอำนาจเหนือสิ้นทั้งดินฟ้า โปรดจงช่วยด้วยพระกรุณา ทรงเมตตาข้านี้หนีรอดไป โปรดพิทักษ์รักษาข้าแม่ลูก อย่าให้ถูกน้ำซัดถึงตักษัย โปรดขจัดปัดเป่าบรรเทาภัย บันดาลให้ไม่มอดม้วยช่วยด้วยเทอญ พอสิ้นสุดหยุดจิตอธิษฐาน น้ำยังพล่านพลุ่งไหลไม่ติดเขิน แม่ดิ้นรนทนเมื่อยเหนื่อยเหลือเกิน ใจยับเยินยิ่งยวดปวดร้าวราน แต่ที่คิดคั่งค้างไม่ว่างเว้น ด้วยเหมือนเป็นปานประหนึ่งถึงประหาร หากลูกรักจักตายต้องวายปราณ มันทรมานผลาญไหม้เหมือนไฟรน แม้นเลือกได้ให้แม่มาตายแทน ไม่หวงแหนห้ามหักแม้ซักหน จะยินยอมพร้อมให้ในบัดดล เพื่อลูกพ้นภัยร้ายแม่ตายเอง แต่ครานี้นั้นหนักลูกรักเอ๋ย ไม่มีเลยลอยร่างอยู่คว้างเคว้ง ความหวังดับอับปางร้างวางเวง แม่รีบเร่งไล่คว้าหาไม่มี จะสิ่งใดให้จับมันลับหาย จะเวียนว่ายสายชลกระสนหนี ก็ไม่เห็นแห่งใดในวารี จะเป็นที่เกี่ยวเกาะจำเพาะเลย เรี่ยวแรงแม่มาถอยคอยจะหมด แสนสลดหดห่อหนอลูกเอ๋ย นี่อะไรลูกนิ่งไม่ติงเลย ทำไมเฉยเฉื่อยอยู่หรือดูดาย นางยกร่างลูกน้อยคอห้อยพับ หมายว่าหลับลืมหลงเดี๋ยวคงหาย ฝืนอัดอั้นกลั้นจิตไม่คิดตาย ใจสลายละลายสูญอาดูรแด ความโศกเศร้าเข้าสุมกลุ้มรุมสิ้น กระแสสินธ์ไสส่งเหมือนลงแส้ รุมกระหน่ำซ้ำซัดเสียอัดแอ จนย่ำแย่ยับเยินอยู่เกินทน หมดอาลัยตายอยากลำบากแสน ให้เคืองแค้นพสุธาทั้งฟ้าฝน มาเมินเฉยชิงชังไม่ฟังคน น้ำสุชลท้นทั่งหลั่งไหลริน คลื่นคะนองฟองฟ่องละล่องลอย กระฉอกฝอยฟุ้งพล่านละลานสิ้น กระแสสาดซัดหาซ่าซ่ายิน เหล่ากรวดหินดินโคลนโดนพัดพา น้ำเชี่ยวกรากหลากไหลอยู่ไม่หยุด กิ่งไม้หลุดฉุดเลื่อนเคลื่อนถลา ซากสิ่งของล่องลิ่วพลิ้วพลิ้วมา ขยะหญ้ายุ่งเหยิงกระเจิงตัว สองแม่ลูกถูกน้ำกระหน่ำซัด จวนเจียนจัดจมลงคงแต่หัว อยู่ปริ่มปริ่มประหน้าดูน่ากลัว แม่มองทั่วหาที่เผื่อมีทาง สายตาเห็นเป็นต้นไม้ไม่ไกลนัก อีกซักพักจักใกล้อยู่ไม่ห่าง เขม่นมองจ้องไปตาไม่วาง ใจเต้นผางทางรอดอาจปลอดภัย เกิดความหวังพลังฟื้นใจชื้นขึ้น จนบึกบึนมุ่งมั่นไม่หวั่นไหว คือหนทางนางคิดพินิจไป ต้องเหนี่ยวไว้ให้มั่นจับทันที แล้วกะเก็งเล็งจ้องประคองตัว มือเท้ารัวเร่งใหญ่กลัวไหลหนี ตะกายฝ่าฟ่องไปในวารี กะพอดีที่หมายไม้ต้นเดียว นางคำนึงรำพึงว่าพระมาช่วย คงไม่ม้วยมีไม้มาให้เหนี่ยว เราคงพ้นภัยร้ายได้เลยเชียว ลูกรอเดี๋ยวได้แน่แม่พาไป นางทุ่มเทพลังเท่าทั้งหมด ทรหดอดกลั้นดั้นด้นใหญ่ ด้วยเรี่ยวแรงแห่งความหวังกำลังใจ จนจ่อใกล้ไม้ต้นจะชนนาง ตาจับจ้องมองเขม้นจนเห็นชัด ให้ถนัดจัดท่าปะทะขวาง มุ่งหมายว่าถ้าปะทะกะตรงกลาง ตัวจะค้างร่างคาค่อยคว้าเกาะ ใจหวั่นหวั่นหวาดหวาดกลัวพลาดหลุด น้ำจะฉุดเฉไฉไม่พอเหมาะ จะลอยไหลเหลื่อมล้ำไม่จำเพาะ ไม่พ้นเคราะห์คราวนี้มีแต่ตาย จึงตั้งจิตจดจ่อรอจะจับ ให้ติดหนับเหนี่ยวเอาเป็นเป้าหมาย จะเกี่ยวกอดเกาะมั่นไม่พลันคลาย สิ่งสุดท้ายเท่านี้ที่มีมา พลันปะทะถูกพลักกระอักจุก แขนกระตุกแต่ยังมือรั้งคว้า กระแสเชี่ยวเฉียวฉุนหนุนพัดพา รุนแรงกล้าบ่าไหลไม่มีเบา ต้นไม้ค้ำน้ำต้องเป็นช่องแฉก เมื่อกระแทกกระทบชนต้นเขย่า ฉุกกระหุกดุกดักจักจับเอา น้ำเร่าเร่าเข้าซัดตัวอัดดัน ให้ร้าวรวดปวดแสบแทบทิ้งปล่อย หนามใหญ่น้อยคอยแยงแทงไม่อั้น โอ้ หนักหนาสาหัสฉกาจฉกรรจ์ ลูกก็พลันพลัดหลุดน้ำฉุดไป แม่ใจหายคล้ายว่าดั่งฟ้าฟาด ศีรษะขาดปาดเชือดหลุดเลือดไหล พลันร้องกรีดหวีดตระหนกสุดตกใจ เห็นไหวไหวในน้ำอยู่ตำตา เหมือนเป็นมือน้อยน้อยคอยกวักเรียก อย่างกับเพรียกเรียกให้แม่ไปหา เหมือนชักชวนเชิญอยู่คู่ลูกยา อย่ามัวช้ามาซีเดี๋ยวนี้เลย แม่เมื่อเห็นเช่นนั้นแทบทันที ผลักร่างปรี่ปล่อยไม้หลุดไปเฉย นางมุดดำคลำคว้าเป็นปลาเลย แล้วไม่เคยเงยโงโผล่ร่างอีก อนิจจาลาลับไม่กลับแล้ว ไม่คลาดแคล้วความตายทำลายฉีก ถึงเวลาจับฆ่าเหมือนผ่าซีก ไม่อาจหลีกเลี่ยงหลบจุดจบคน ก็ทำไมไม่รู้ให้อยู่มี แล้วย่ำยีย่อยยับจนดับพ้น ได้เวลามาพอดีซักกี่คน ที่จะค้นตนพบจบความจริง มีที่สุดอยู่ไหนเพื่อให้หา หมดเวลามากมายกับหลายสิ่ง ความเป็นอยู่ยับยั้งรั้งประวิง ให้ต้องวิ่งเวียนว่ายตะกายตาม หมดเวลาลงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ไม่ได้อยู่ดูเห็นเหมือนเว้นห้าม ต้องจำจากพรากไปในซักยาม พ้นจากความเป็นอยู่ไปสู่ตาย โอ้อาลัยเหลือล้นต้องพ้นพราก มาจำจากญาติสนิทมิตรสหาย ที่เขารักจักช้ำพร่ำฟูมฟาย ไม่มีคลายความเศร้าเอาเสียเลย กาลเวลามาทำลายให้หายหรือ คงแค่คือความคิดที่จิตเฉย แต่เมื่อไรได้นึกตรึกอย่างเคย ไม่พ้นเผยภาพครั้งยังฝังใจ ฯ ในฉับพลันทันทีมีคลื่นยักษ์ โถมทะลักอักโขทั้งโตใหญ่ กระหน่ำซ้ำย่ำยีทุกที่ไป กระทั่งไม้ไหวคลอนถึงถอนโคน กวาดทุกอย่างขวางหน้าพาไปหมด บรรดารถบดไปกับไม้โค่น กระฉอกฉานซ่านซัดพัดกระโจน ปะทะโดนโยนโยกน้ำโกรกแรง อึงคะนึงหึ่งห่าเหมือนบ้าคลั่ง ปะทุพลังดั่งพิโรธโกรธกำแหง ทำลายล้างราบคาบปราบทั้งแปลง ทั่วทุกแห่งหายนะทะลายพัง โอ้แม่ลูกหลงใหลอยู่ในน้ำ แม่เที่ยวดำคลำหาพาขึ้นฝั่ง ลูกหมดลมจมร่างร้างชีวัง แม่ก็ยังคลั่งคว้าควานหาไป ก็แค่เพียงพยายามด้วยความรัก ที่ประจักษ์แจ้งจริงกว่าสิ่งไหน แม้แม่เองอาจแย่รู้แก่ใจ แต่ก็ไม่ชักช้ากล้าช่วยลูก ความรักอื่นหมื่นใดในโลกหล้า ไม่เท่าค่าความสัมพันธ์ที่ขันผูก ของความรักที่แม่มีแก่ลูก เมื่อก่อปลูกผูกพันจนวันตาย ด้วยความรักชักพาให้มาทำ แม้เจ็บช้ำลำบากยากเหลือหลาย แม่พยายามดำคว้าหาลูกชาย ไม่เสียดายชีวิตไม่คิดกลัว แต่ความรักฤาจักหยุดฉุดความตาย หมดความหมายหมดค่าน่าส่ายหัว หมดอำนาจหมดพลังมารั้งตัว มันมืดมัวหมดหวังหมดทางเลย ก็เพียงเสี้ยวส่วนหนึ่งที่พึงเห็น ความตายเป็นปราการต้านไว้เฉย มันขื่นขมล้มล้างเหมือนอย่างเคย โอ้อกเอ๋ยเอาไปหมดไม่งดใคร ฯ วิปโยคโลกร้ายด้วยภัยคลื่น มากินกลืนโกรธเกรี้ยวกัดเคี้ยวใหญ่ สองแม่ลูกถูกกระแสแห่หอบไป ติดอยู่ใต้ไม้ทับร่วมกับรถ ด้วยกำลังแรงกล้าของห่าคลื่น เมื่อร่างขืนขัดขวางเหมือนยางหด ทั้งถูกอัดยัดยันทั้งดันบด เลือดสดสดหลั่งไหลไปเป็นทาง น้ำปั่นป่วนม้วนวนปนด้วยเลือด กระแสเดือดดั่งวิถีแห่งผีสาง เที่ยวไล่ล่าคร่าชีวิตปลิดเป็นบาง แล้วกวาดล้างล้มล่มถล่มทลาย ร่างแม่ลูกถูกลากกระชากฉุด แยกชิ้นหลุดไหลป่วนบางส่วนหาย ทั้งรถของกองซากล้วนมากมาย กระแสร้ายรวบยับเหมืองรับเอา......
19 พฤษภาคม 2549 12:28 น. - comment id 578280
แสนวิโยคโศกศัลย์รันทดแท้ ปีก่อนนั้นผันแปรแลหม่นหมอง ความอัดอั้นตันใจให้ใตร่ตรอง จนหม่นหมองร้าวระทมจมน้ำตา ก่อนเริ่มศกเริ่มโศกเหมือนโลกล่ม ศพทบถมชายหาดจนหวาดผวา มหันตภัยภาพนั้นมันติดตา ภาพบ้านช่องนาวาคราอับปาง คลื่นเคืองขุ่นหนุนฝั่งคลั่งเข้าซัด แล้วถาโถมโหมพัดเกินขัดขวาง เสียงคำรามย่ำยีชีวิตพลาง หลากรูปร่างยิ่งกระหน่ำเข้าทำลาย เป็นสัญญาณสาส์นแปลงแห่งมัจจุราช ดั่งประกาศความอำมหิตคิดมุ่งหมาย มาล้างผลาญผู้คนจนล้มตาย จนวอดวายมลายสิ้นถิ่นหาดงาม ยังมิทันตั้งกลัวมัวแต่วิ่ง น้ำก็ยิ่งท่วมท้นดูล้นหลาม เสียงพร่ำเพรียกร่ำไห้หลายหลากความ จนเอ็ดอึงตะลึงย้ำคำนะโม พ่อแม่พรากจากบุตรสุดขื่นขม ลูกหลายจมทะเลคลั่งดั่งโมโห บ้างกู่เพรียกเรียกก้องร้องไห้โฮ จนศพโผล่เห็นชัดแทบขาดใจ ระงมเสียงร่ำร้องมองหาญาติ แสนอนาถยิ่งนักเกินหักไหว สึนามิอันดามันมหันตภัย ศพคนไทย-ต่างชาติเกลื่อนกลาดนอน งานรื่นเริงเถลิงศกต้องยกเลิก เปลี่ยนเป็นเบิกเครื่องยังชีพรีบช่วยผ่อน จะต่างศาสน์อย่างไรให้สังวร ร่างสลอนชีพดับนับร้อยพัน เกิดกำพร้ามากมายในอาเภท เพราะสาเหตุคลื่นโรมโถมมหันต์ พ่อแม่จ๋า..อยู่ไหนไม่เห็นกัน ครอบครัวฉัน..ใครก็ได้ไปช่วยที เหมือนว่าเรารับฟังยังสองหู ทั้งที่อยู่ไกลห่างต่างวิถี ถึงไม่เห็นกับตาดั่งพาที แต่มโนนี้เห็นชัดวิบัติภัย จวบกระทั่งวันนี้หนึ่งปีครบ หลายคนจบความขมขื่นฟื้นสดใส อันดามันงามล้ำฟ้าอำไพ ธรรมชาติสร้างใหม่ไว้ทดแทน
19 พฤษภาคม 2549 13:05 น. - comment id 578294
ห๊าาาาาาาาา กว่าจะอ่านจบ ซึนามิ น่ากวัจัง แต่ผมก็ยังอยากไปเที่ยวอยู่นะครับ อยากไปเดินเล่นชายหาดดดด ลมทะเล พัดแรง
19 พฤษภาคม 2549 13:45 น. - comment id 578306
ทุกอย่างบนโลกนี้มีอะไรไม่แน่นอน ความพลัดพรากจากสิ่งที่รัก พ่อแม่พรากจากลูกไม่ว่าจะพันผูกแค่ไหน ก็ต้องจากกันไปไม่มีใครจะช่วยใครได้เมื่อถึงเวลา กับเคราะห์กรรมที่มาถึง เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียมตัวไว้ตลอดเวลา อย่าให้เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วค่อยแก้ไข เมื่อถึงจุดที่ต้องชดใช้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ช่วยไม่ได้ รักมากแม้แต่แม่กับลูกที่แม่ยอมตายแทนลูกได้ก็ฉุดชีวิตลูกไว้ไม่ได้เลยมันคือกรรมของแต่ละคนเท่านั้นที่ต้องเจอ
19 พฤษภาคม 2549 14:43 น. - comment id 578318
20 พฤษภาคม 2549 00:35 น. - comment id 578448
เห็นภาพเลยค่ะงานนี้ งามมาก และเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจมาก ชื่นชมในผลงานนะค่ะ
20 พฤษภาคม 2549 06:19 น. - comment id 578459
สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙. ๑. โอ..!..โน่นโน่นชละผืนสิตื่นมหะพลัง แตกฟองละล่องฟัง.........ฟะเฟือน ๒. โอ..!..นั่นชลปะทุพล่านสะท้านอุระสะเทือน ปานคลื่นจะยื่นเยือน.........โพยม ๓. นั่น..!..นั่นน้ำปะทะฝั่งประดังพละชโลม หนาหนักและหักโหม..........กระหาย ๔. นั่น..!..นั่นน้ำ ฤ บ่ใช่ไฉนระดะทลาย ผ่านเป็นก็เห็นตาย..........ลุตาม ๕. โอ..!..นั่นชีวิตะลิ่วปะปลิวอุทกะลาม จมหายและวายทราม.........บ่ทรง ๖. โลกธาตุนี้ ฤ จะมีวิถีทิพะประสงค์ เอื้อมหัตถ์สะบัดลง..........ลุลาญ ๗. โลกธาตุนี้ ฤ จะพึงจะ ถึงมรณะกาล จึงทัณฑะบันดาล...........ประดัง ๘. คลื่นหลากโถมผลิพินาศบ่อาจปะทะปะทัง วูบวับก็ดับหวัง............ละวาย ๙. แลครานั้นรุจิสรวงทะลวงกระจะกระจาย โลมศพอันลบหมาย.............เพราะมรณ์ ๑๐. พลัน..ผืนชลก็สงบและศพระดะสลอน เผยบทระทดตอน............ลุตา ๑๑. โอ้..สายหยุดยุติกลิ่นละถิ่นธรรมะประภา แต่สายละวายวา-...........ระวน ๑๒. เจ้าเก็บกลิ่น ฤ จะพร้อมจะย้อมทิพยะบน เพื่อผองละล่องหน..............จะหอม ๑๓. หวังเกลียวกลิ่นลุพิมานจะผ่านทะนุถนอม เหล่าลับสำหรับหลอม............ประโลม ๑๔. กลบเกลียวคลื่นผิวะยังประดังจะเซาะจะโทรม เพียงหวังพลังโหม...........จะหาย ๑๕. ตราบโลกันต์รุจิดาริกาบ่ละประกาย เปรียบสื่อกระพือหมาย..........จะมอง ๑๖. สุขถ้วนเถิดมนุชาติเพราะฆาตทกะผยอง ผ่านเปลื้องสู่เรืองรอง.............เถอะรา.
20 พฤษภาคม 2549 10:46 น. - comment id 578497
อ่านแล้วเหนื่อยยิ่งกว่าวิ่งตามใครเสียอีก อิอิ อ่านแล้วนึกถึงสึนามิจริงๆ เศร้านะคะ
20 พฤษภาคม 2549 13:09 น. - comment id 578518
คุณอัลมิตรา อาดูรพูนเทวษแท้ ธารทม แสนโศกวิโยคตรม แต่เศร้า เกลื่อนกลาดอนาถกองถม ทับทบ ศพเอย สังเวชเหตุช่วงเช้า ช่างร้ายภัยทะเล คลื่นโหมโถมถล่มล้าง ล่มทะลาย เข้าซัดอัดทำลาย ราบเกลี้ยง บ้านคนป่นวอดวาย ผวาหวาด ขยาดเอย ยับแย่แม้สัตว์เลี้ยง ร่วมต้องชะตากรรม ครืนครืนคลื่นเกลื่อนกลุ้ม กวาดเตียน อะเหน็ดอนาถสะอิดสะเอียน อกร้าว บางศพพบขาดเศียร สยองสยด สลดเอย เห็นเด็กเล็กแดด้าว ดับด้วยเหล็กแทง มัจจุราชผงาดคว้า คร่าคน อำมหิตปลิดชีพชน ป่นปี้ ไถลเถลือกกระเสือกกระสนกระแสซัดพัดเอย ม้วยมุดสุดเลี่ยงลี้ สลดสิ้นถิ่นงาม ระงมขรมร่ำร้อง เรียกหา ชวนวิ่งยิ่งเข้ามา มุ่งใกล้ เอ็ดอึงหึ่งโกลา เร็วรี่ หนีเอย พลันคลื่นเคลื่อนถมไว้ วกม้วนล้วนจม พลัดพรากจากโลกแล้ว ลับลา แม่ลูกถูกคลื่นพา พัดม้วย ญาติกู่เพรียกเรียกหา ห่อหด รันทดเอย ทั้งศพไม่พบด้วย ดับดิ้นสิ้นสลาย มหันตภัยอุบัติพื้น ผืนนที ขย้ำยับดับชีวี วอดล้าง เขย่าขวัญสั่นปัถพี พรึงเพริด เตลิดเอย ล้วนศพพบลอยคว้าง คละคลุ้งฟุ้งทะเล งานฉลองต้องเลิกเลี้ยง กลับกลาย เป็นว่ามากระวนกระวาย วุ่นถ้วน ก็ด้วยช่วยคนหาย หามั่ว ทั่วเอย ทั้งเทศทั้งไทยล้วน ร่วมด้วยช่วยกัน ดุดันมันโหดร้าย เหลือเกิน ทั้งเด็กเล็กยับเยิน อยู่กำพร้า ระเหินระหกกระซกกระเซิน พลัดพ่อ แม่เอย คนเครียดเฉียดเป็นบ้า บ่นเพ้อเหม่อลอย คล้ายเหมือนเตือนอกให้ หวนเห็น ราวว่ามายินเป็น เมื่อนั้น สังเวชเหตุขุกเข็ญ คิดนึก ตรึกเอย หมองหม่นทนฝืนกลั้น กร่อนห้วงดวงหทัย กว่าปีที่ผ่านพ้น ภัยมา หลายชื่นฟื้นชีวา ท่านแล้ว ชายหาดสะอาดตา เติมแต่ง แปลงเอย สวยสดงดงามแพร้ว เพริศพริ้งยิ่งเดิม ขอบคุณครับ
20 พฤษภาคม 2549 16:37 น. - comment id 578545
คุณอัสสุ คิดจะเที่ยวเดี๋ยวก่อนจะสอนให้ คนถูกใจไปชวนเร็วด่วนจี้ อย่าไปเดี่ยวเปลี่ยวออกบอกเธอซี บอกคนดีโดนใจไปทะเล ขอบคุณครับ
20 พฤษภาคม 2549 16:39 น. - comment id 578546
คุณดอกบัว เตรียมทุนบุญเพิ่มสร้าง สมนา เกลาจิตปลิดอวิชชา ช่วยได้ โลกแท้แค่ลวงตา ตามติด จิตเอย สุขทุกข์คลุกเคล้าให้ ห่างร้างทางธรรม ขอบคุณครับ
20 พฤษภาคม 2549 16:42 น. - comment id 578547
คุณบิ่นเดี่ยวหมื่นลี้ บินเดี่ยวเที่ยวหมื่นลี้ ล่วงไกล โผร่อนว่อนลอยไป ปีกกว้าง รู้จักทักดีใจ จริงครับ เมื่อไหร่ได้คู่ข้าง เลิกร้างบินเดี่ยว ขอบคุณครับ
20 พฤษภาคม 2549 16:43 น. - comment id 578548
คุณผู้หญิงไร้เงา ขอบคุณครับคำชมนิยมจิต เสมือนมิตรมวลเพื่อนมาเยือนถิ่น คลื่นครั้งนั้นมันสะเทือนเฉือนชีวิน เศร้าโศกสิ้นแสนสลดห่อหดใจ ขอบคุณครับ
20 พฤษภาคม 2549 16:45 น. - comment id 578549
คุณสดายุ โอ้อาดูรพูนเทวษสังเวชแท้ โอ้ดวงแดดับดิ้นสูญสิ้นขวัญ โอ้ชีวิตจิตใจให้จาบันย์ โอ้หวาดหวั่นพรั่นพรึงตะลึงลาน ทั้งซากศพสิ่งของกองเรียงราย โอ้หาดทรายกลายเป็นเช่นสุสาน ที่เคยเห็นเล่นสนุกสุขสำราญ โอ้เหตุการณ์ผันแปรไม่แน่นอน เพียงพริบตามาบรรลัยลงวายวอด ไม่เหลือรอดเรือนร้านอาคารถอน ต้นไม้โค่นโคลนถมจมตะกอน คลื่นกวาดต้อนย้อนรับกลับทะเล ที่ใดใดในฝั่งนั้นพังหมด แม้แต่รถวิ่งโร่ยังโฉเฉ น้ำซัดโครมโถมใส่ ให้รวนเร หงายเค้เก้กองเกยเสยซ้อนกัน บ้างลื่นหลุดหล่นร่วงเป็นพวงแถว ทั่วทั้งแนวน้ำหนุนรถหมุนหัน ตกถนนชนอัดยัดตะบัน จ้าละหวั่นสนั่นเนืองส่วนเครื่องดับ มอเตอร์ไซไหลลากถากถลำ แล้วล้มคว่ำตำถนนทั้งคนขับ ครูดกับพื้นลื่นไถลไปที่อับ รถราทับยับเยินพะเนินกอง โกลาหลอลม่านย่านถนน ทั้งรถยนต์คนเที่ยวเสียวสยอง น้ำทะลักล้นกระฉอกระลอกฟอง คลื่นผยองนองบ่าฉุดคร่าไป ความรุนแรงเหลือหลายของสายน้ำ ซัดระส่ำซ้ำมาแล้วพาไหล กวาดถนนคนรถทั้งหมดไป สุดที่ใดไหนนั่นน่าพรั่นพรึง บ้างฟาดฟัดอัดเสาเข้ากระแทก กระจกแตกแหลกลานคนพล่านผึง ตะกายมุดฉุดร่างทุกอย่างดึง ขาทะลึ่งถึงถีบถูกหนีบอยู่ สุดตระหนกตกใจไหนจะปาน รีบรนรานรุนเร้าน้ำเข้าหู มือตะกายป่ายปะติดประตู เพียงชั่วครู่คู้นิ่งไม่ติงกาย บางคันไถไสเสือกกลิ้งเกลือกลับ ส่วนคนขับจับมั่นหัวหันหงาย หกคะมำคว่ำหน้ามือคาคลาย คอหักตายติดซากไม่จากรถ ขอบคุณครับ
20 พฤษภาคม 2549 16:47 น. - comment id 578550
คุณเพียงพลิ้ว อย่าลืมวิ่งไล่กวดเดี๋ยวชวดเน่อ ตามให้เจอจับให้แน่นแค่นให้อยู่ เห็นจะหอบแหะแหะแวะเที่ยวดู ตามให้รู้อยู่ไหนให้กลับมา ขอบคุณครับ